Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์9 กันยายน 2553
ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์รุกหนัก เดินเกมเพิ่มเบี้ยเจาะตลาดบน             
 


   
search resources

ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต, บมจ.
Insurance




การเติบโตอย่างรวดเร็วของยอดขายประกันผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ พร้อมๆ กับการประกาศท้าชิงตำแหน่งผู้นำในช่องทางดังกล่าว ที่ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ฯ ที่เคยครองความเป็นผู้นำมาในช่วงก่อนหน้านี้ แต่เมื่อพิจารณาจากตัวเลขรายงานสถิติเบี้ยประกันชีวิตแยกตามช่องทางจำหน่ายในช่วงครึ่งปีแรกพบว่า เมืองไทยประกันชีวิตซึ่งขายผ่านเคแบงก์ด้วยกลยุทธ์การรุกตลาดอย่างหนักหน่วง มีเบี้ยใหม่มากที่สุดถึง 4,789.2 ล้านบาท เติบโตขึ้น 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552 ครองส่วนแบ่งตลาด20.74% สูงสุดเป็นอันดับ 1 อีกสมัย ในขณะที่ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ฯ ตกลงมาอยู่ในอันดับ 2ครองส่วนแบ่งตลาด 15.42% ด้วยเบี้ย 3,561.4 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 29%

แม้ตัวเลขจากรายงานจะโชว์ว่าความเป็นเจ้าตลาดแบงก์แอสชัวรันส์ของไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ฯ ได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ฯ จะไม่รู้สึกหวั่นใจมากนักกับคู่แข่งที่นับวันมีการรุกตลาดอย่างหนักขึ้น

บัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เชื่อว่าแต่ละรายต่างมีตลาดเป็นของตัวเอง ซึ่งบริษัทฯ จะยังเน้นการให้คุณค่าแก่ลูกค้า รวมถึงการตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ารายย่อย ซึ่งเป็นจุดยืนหลักของไทยพาณิชย์ในการมุ่งสู่ความเป็นผู้นำด้าน Retail Banking

กลยุทธ์ของไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ฯ จะเน้นการเจาะเซกเมนต์ใหม่ๆ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในแง่มาร์เก็ตแชร์ ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์เดียวกับที่เคแบงก์ประกาศออกมาเช่นกัน โดยล่าสุดไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ฯ ได้เปิดตัว “พรีเมียร์ พลัส 20/1” เจาะกลุ่มตลาดบน ได้แก่ เศรษฐีหรือกลุ่มคนที่มีเงินเย็น (High net worth) แต่ได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยเงินฝากในระดับต่ำ ซึ่งแบบประกันดังกล่าวจะให้ความคุ้มครอง 20 ปี พร้อมเงินคืน 200% เมื่อครบสัญญา มีเงินคืนทุก 2 ปี ในแบบขั้นบันไดในอัตรา 3-5% การันตีผลประโยชน์ 236% ของทุนประกันภัย ทุนประกันภัยขั้นต่ำ 1 ล้านบาท ชำระเบี้ยในอัตรา 160% ของทุนประกัน และชำระเบี้ยเพียงครั้งเดียว เพื่อลดความยุ่งยากของลูกค้า

สำหรับพรีเมียร์ พลัส 20/1 ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ฯ เชื่อว่าน่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี เพราะเป็นช่องทางการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากที่อยู่ในระดับต่ำเพียง 1% ต่อปี ซึ่งในฐานลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์นับล้านบัญชี มีลูกค้ากลุ่มนี้ในหลักหมื่นราย ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าเบี้ยในเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท หากบริษัทฯ สามารถสร้างลูกค้าได้ 1,000 ราย ก็จะทำให้มีเบี้ยรับถึง 1,600 ล้านบาทแล้ว นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาสินค้าที่จะขายผ่านแบงจะเพิ่มกรมธรรม์รูปแบบใหม่เพิ่มเติม ซึ่งจะเน้นสินค้าที่มีความง่าย ใช้ระยะเวลาสั้นๆ เพื่ออัตราเพิ่มการถือครองกรมธรรม์ด้วย จากปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ย 65%

ในครึ่งปีหลัง ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ฯ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้บรรณยง นราสวัสดิ์ เข้ามาดูแลช่องทางตัวแทนในตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานตัวแทนประกันชีวิต และได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารเพิ่มเป็น 7 โซน เพื่อให้การดูแลใกล้ชิดยิ่งขึ้น และจะเริ่มรุกช่องทางตัวแทนมากขึ้นกว่าเดิม จากก่อนหน้านี้สัดส่วนของเบี้ยรับมาจากช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์มากกว่า โดยบัณฑิตกล่าวว่า บริษัทฯ ได้นำระบบการทำงานของบริษัทแม่ในอเมริกามาปรับปรุงให้เข้ากับประเทศไทย และมีความสำเร็จรูป ซึ่งจะเอื้อให้ตัวแทนสามารถทำงานได้ง่ายขึ้นในการตั้งธุรกิจของตัวเอง ส่วนการสร้างตัวแทนใหม่จะมีการปรับกระบวนการสอบเพื่อขอใบอนุญาตให้สั้นลงเหลือ 10 วันจากเดิม 3-4 เดือน เพื่อให้ตัวแทนใหม่สามารถเริ่มต้นสร้างผลงานให้บริษัทฯ ได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้จะมีการพัฒนาช่องทางเทเลเซลล์เป็นสายงานใหม่ขึ้น และเพิ่มเจ้าหน้าที่จาก 65 คน เป็น 100 คน และคาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่รวม 130 คนในปลายปีนี้ ซึ่งจะต้องมีการออกสินค้าใหม่สำหรับขายช่องทางนี้โดยเฉพาะเพิ่มเติมด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us