ฐานข้อมูลนับเป็นหนึ่งในคีย์ซัคเซสที่สำคัญของการทำตลาดผ่านช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธุรกิจประกันมีโอกาสได้จับคู่พันธมิตรที่กุมฐานข้อมูลขนาดใหญ่อยู่ในมือได้ และสามารถจับคู่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมให้แก่กลุ่มเป้าหมาย ก็จะเป็นแต้มต่อที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการขยายตลาดได้มากขึ้น

แกรี่ เด็นสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ซิกน่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้สานต่อโมเดลการตลาดเชิงความสัมพันธ์ (Partnership Marketing) ผ่านการร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรกว่า 6 ราย ซึ่งอยู่ในกลุ่มสถาบันการเงินและกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ล่าสุดบริษัทฯ ได้จับมือกับบริษัท

แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ในการออกแคมเปญ “Smart Life Smart Protection” มอบความคุ้มครองด้านประกันอุบัติเหตุของซิกน่าแก่ลูกค้าที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบโพสต์เพดในเครือข่ายจีเอสเอ็ม แอดวานซ์

สำหรับแผนประกันอุบัติเหตุดังกล่าวจะให้ความคุ้มครองกรณีการเสียชีวิต อวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุ ในทุนประกัน 150,000 บาท พร้อมความคุ้มครองเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 5,000 บาท ต่ออุบัติเหตุ โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตลอดระยะเวลาความคุ้มครอง ซึ่งแคมเปญนี้ลูกค้าจะได้รับสิทธิคุ้มครองฟรี 3 เดือน ตั้งแต่ 1ก.ย. 53-31 ม.ค. 54 ทันทีที่สมัคร หากลูกค้าสนใจรับความคุ้มครองต่อไป ต้องชำระค่าเบี้ยประกันภัยเดือนละ 39 บาท ผ่านบิลค่าโทรศัพท์ของลูกค้า

แกรี่กล่าวว่า ค่าเบี้ยประกัน 39 บาทต่อเดือนถือเป็นราคาที่ต่ำมากในตลาด อีกทั้งยังให้ความคุ้มครองครอบคลุมถึงอุบัติเหตุที่ไม่ต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยนอก) ซึ่งแตกต่างจากที่รายอื่นนำเสนอในตลาด บริษัทฯ ตั้งเป้าว่าจะมีลูกค้าจีเอสเอ็ม แอดวานซ์เข้าร่วมแคมเปญรวม 200,000 คน จากทั้งหมดกว่า 2.9 ล้านราย

ทั้งนี้ในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ เกือบทุกรายก็มีความร่วมมือในรูปแบบนี้เช่นเดียวกัน เช่น เมืองไทยประกันชีวิตได้จับมือกับดีแทคในการมอบความคุ้มครองอุบัติเหตุฟรีให้แก่ลูกค้าดีแทคที่ชำระค่าบริการตรงเวลา ส่วนอลิอันซ์ ซี.พี. ประกันภัยจับมือกับทรูมูฟในการนำเสนอความคุ้มครองอุบัติเหตุให้แก่ลูกค้าทรูมูฟกว่า 1.2 ล้านราย โดยคาดหวังว่าจะสามารถต่อยอดสร้างยอดขายสินค้าตัวอื่นๆ เพิ่มเติมจากลูกค้ากลุ่มนี้ประมาณ 3-5% และในกรณีการจับมือเป็นพันธมิตรของซิกน่ากับเอไอเอส ยังมีแผนที่จะพัฒนาระบบเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าโพสต์เพดเพิ่ม รวมทั้งการนำเสนอผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในอนาคตด้วย

แผนธุรกิจในครึ่งปีหลังของซิกน่า ได้แก่ การเจรจาเป็นพันธมิตรกับธุรกิจการเงินอีก 1 ราย เพื่อขยายฐานข้อมูลในการนำเสนอขายสินค้าผ่านทางโทรศัพท์เพิ่มเติม, การเพิ่มทีมขายผ่านทางโทรศัพท์อีก200 คน พร้อมตั้งศูนย์แห่งใหม่ในย่านบางกะปิ ภายในเดือน ม.ค. 54ภายใต้งบประมาณกว่า 37 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีทีมขายรวม 700 คน, การเร่งยอดขายแบบประกัน 2 in 1 คุ้มครองทั้งสุขภาพและอุบัติเหตุผ่านสื่อโทรทัศน์อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มงบการตลาดในช่วงที่เหลือของปีอีก 6 ล้านบาท จากเดิมทั้งปีที่วางไว้ที่ 30-40 ล้านบาท ซึ่งตั้งแต่ช่วงต้นปีที่เปิดตัวมีเบี้ยรับแล้ว 45 ล้านบาท, พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความหลายหลาย เพื่อให้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้ดีขึ้นสำหรับการนำเสนอขายผ่านโทรทัศน์ โดยช่วงครึ่งปีแรกซิกน่ามีเบี้ยรับรวม 400 ล้านบาท เติบโตขึ้น 45% และมีเป้าเบี้ยรับรวมทั้งปีอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท

สำหรับความร่วมมือกับไทยประกันชีวิต ในการพัฒนาสินค้าร่วมกันเพื่อให้ซิกน่านำไปเสนอขายในช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้ง แกรี่กล่าวว่า จะเริ่มขายในเดือน ก.ย. นี้ หลังจากที่ต้องใช้เวลาในการทดสอบระบบอย่างละเอียด ซึ่งทำให้ซิกน่าพบว่า ภายในฐานข้อมูลมีกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจหลายกลุ่ม เป็นเซกเมนต์ที่บริษัทจะพยายามพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อนำเสนอขายในอนาคต