|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ในยุคปัจจุบันที่กระแสการยอมรับต่อแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR (Corporate Social Responsibility) เป็นไปอย่างกว้างขวาง
หลักความรับผิดชอบต่อสังคมจึงเป็นที่คาดหวังว่าทุกคนทุกหน่วยงานต้องมี โดยไม่จำกัดเฉพาะที่เป็นองค์กร หรือธุรกิจ (Corporate)
โดยเฉพาะหน่วยราชการและข้าราชการ จำเป็นต้องมีความรับผิดชอบในการให้บริการที่รวดเร็ว ถูกต้อง และมีคุณธรรมต่อประชาชนผู้ใช้บริการ ต่อหน่วยงาน และต่อสังคมและส่วนรวม ซึ่งถ้ามีคุณลักษณะดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็น CSR ในระบบราชการ ก็จะนำไปสู่เป้าหมาย “ความยั่งยืน” ของสถาบัน
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาที่ยั่งยืนของราชการไทย นับว่าน่าสนใจจึงขอนำมาบอกต่อ
ยุทธศาสตร์การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Strategy) มีความสำคัญในการพัฒนาระบบราชการซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องส่งเสริมให้ส่วนราชการมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการดำเนินงานภายใต้หลักจริยธรรมและการกำกับดูแลตนเองที่ดี คำนึงถึงผลงานหรือบริการที่มีคุณภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์ และมีผลเชิงบวกแก่ผู้รับบริการและสังคมโดยรวม ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตในการทำงาน การใส่ใจ ดูแล รักษา ชุมชนท้องถิ่น สังคม สิ่งแวดล้อม และป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสังคม เพื่อนำไปสู่การดำเนินงานให้บรรลุผลอย่างยั่งยืน ก่อให้เกิดความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีแก่หน่วยงานและภาครัฐโดยรวม
ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย (พ.ศ. 2551- พ.ศ. 2555) นั้นได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้ส่วนราชการมีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน (Social Responsibility) ซึ่งก็สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ดังกล่าว
คำอธิบายวลี "การพัฒนาอย่างยั่งยืน" จากรายงาน The Brundtland Report ของคณะกรรมาธิการโลกว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา (World Commission on Environment and Development - WCED) (1987) ระบุว่า "คือการพัฒนาที่เพียงพอกับความต้องการของชนรุ่นปัจจุบัน โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาอย่างพอเพียงกับความต้องการของชนรุ่นต่อไปในอนาคต”
แนวคิดพื้นฐานในการพัฒนา 3 ด้านอย่างเท่าเทียมกัน ได้แก่
เศรษฐกิจ – การผลิตสินค้าและบริการตามเป้าหมาย
สังคม – มุ่งสร้างการมีส่วนร่วมและความเป็นธรรม เพื่อเป็นการนำไปสู่การสืบทอดวัฒนธรรม
สิ่งแวดล้อม – คงไว้ซึ่งความหลากหลายทางพันธุกรรมและให้ระบบสิ่งแวดล้อมมีความสามารถในการกลับคืนสู่สมดุล
การพัฒนาที่ยั่งยืนจึงเป็นเป้าหมายที่จะเกิดขึ้นเมื่อการขับเคลื่อนองค์กร หรือการดำเนินงานคำนึงถึงความสมดุล 3 ด้าน มิใช่เพียงการทำกิจกรรมช่วยสังคมเช่นการบริจาค การทำบุญขององค์กร (Corporate Philanthropy)
การพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นการสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระยะยาว จึงต้องเกี่ยวข้องในทุกกิจกรรมขององค์กรและเกี่ยวข้องกับบุคลากรทั่วทั้งองค์กร ซึ่งจะสร้างความผูกพันและตอบสนองความต้องการของผู้เกี่ยวข้อง และสร้างผลในทางบวกต่อสังคม โดยการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวจะแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ (accountability) และความโปร่งใส (transparency) ขององค์กร
ข้อคิด...
ผมให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบในหน้าที่การงานที่จะมีคุณค่าแก่ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะลูกค้าหรือประชาชน
ดังนั้น การปฏิบัติราชการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนซึ่งเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมในกระบวนการดำเนินงานก็ต้องยึดหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยสรุปดังนี้
1)หลักประสิทธิผล (Effectiveness) เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การ มีการวางเป้าหมายการปฏิบัติงานที่ชัดเจนและสร้างกระบวนการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน รวมถึงมีการติดตาม ประเมินผล และพัฒนาปรับปรุงการปฏิบัติงานให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2)หลักประสิทธิภาพ (Efficiency) ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด เกิดผลิตภาพคุ้มค่าการลงทุนและบังเกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม รวมทั้งลดขั้นตอนและระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ตลอดจนยกเลิกภารกิจที่ล้าสมัยและไม่มีความจำเป็น
3)หลักการตอบสนอง (Responsiveness) ต้องสามารถให้บริการได้อย่างมีคุณภาพ ทำงานให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด
4)หลักภาระรับผิดชอบ (Accountability) ต้องมีการจัดระบบการรายงานความก้าวหน้าและผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและการให้คุณให้โทษ
5)หลักความโปร่งใส (Transparency) ต้องปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมา รวมทั้งต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นและเชื่อถือได้
6)หลักการมีส่วนร่วม (Partticipation) ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
7)หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization) ในการปฏิบัติงานควรมีการมอบอำนาจและกระจายความรับผิดชอบในการตัดสินใจและการดำเนินการให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในระดับต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม
8)หลักนิติธรรม (Rule of Law) ต้องใช้อำนาจของกฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัดด้วยความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ
9)หลักความเสมอภาค (Equity) ต้องให้บริการอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งแยกถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล
10)หลักมุ่งเน้นฉันทามติ (Consensus Oriented) ในการปฏิบัติงานต้องมีข้อตกลงร่วมกันระหว่างกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
การปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้จะช่วยให้เกิดผลดีต่อผู้เกี่ยวข้องและองค์กรซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน
|
|
|
|
|