|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เมื่อไม่นานมานี้มีบทความหนึ่งที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Business Week ของต่างประเทศ ซึ่งน่าสนใจมากครับ โดยบทความดังกล่าวเขาวิเคราะห์ถึงทิศทางและแนวทางในการเติบโตต่อไปในอนาคตของ Google รวมถึงปัญหาที่ Google พึ่งพารายได้จากธุรกิจ Search Engine มากเกินไป และในปัจจุบันแนวโน้มหนึ่งที่สำคัญทางด้านอินเตอร์เน็ตก็คือ คนมีแนวโน้มที่จะใช้เครื่องมือค้นหาเหล่านี้ลดน้อยลง เนื่องจากได้หันไปพึ่งพาบรรดาเครือข่ายทางสังคมออนไลน์ต่างๆ มากขึ้น
ท่านผู้อ่านที่ติดตามข่าวสารทางธุรกิจจะเริ่มเห็นแนวโน้มหนึ่งที่สำคัญนะครับ นั้นคือบริษัทต่างๆ ที่เคยประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง เป็นดาวรุ่งในวงการ พอเวลาผ่านพ้นไปช่วงหนึ่ง ถ้าบริษัทเหล่านั้นไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้ บริษัทเหล่านั้นก็เริ่มที่จะประสบกับปัญหาในการดำเนินงานมากขึ้น ไล่มาตั้งแต่ที่ประสบกับปัญหามากที่สุดอย่าง Blockbuster ที่เคยเป็นเจ้าตลาดร้านเช่าวิดีโอมาก่อน ตามด้วยโกดัก ที่เคยเป็นเจ้าด้านธุรกิจถ่ายภาพและฟิล์มที่ตอนนี้ต้องปรับกลยุทธ์กันอย่างขนานใหญ่ หรือ โนเกีย ที่ถือเป็นค่ายมือถืออันดับหนึ่งของโลก ที่ในปัจจุบันต้องวิ่งตามคู่แข่งอื่นๆ ในเรื่องของ Smart Phone ซึ่งถือเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการเติบโตมากที่สุดในโลก หรือ กรณีของ Dell ที่เคยเป็นบริษัทที่มีการศึกษาและเลียนแบบมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก็ต้องปรับกลยุทธ์กันอย่างยกใหญ่เพื่อพลิกฟื้นกิจการของตนเองให้ฟื้นขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของโลกอีกครั้ง
ในกรณีของ Google นั้น ปัญหาต่างๆ อาจจะยังไม่ชัดเจนเท่าบริษัทอื่นๆ ที่เอ่ยมานะครับ แต่ก็เริ่มมีสัญญาณเตือนมาแล้วว่าถ้า Google ไม่ทำอะไรซักอย่าง ความน่าดึงดูดใจและสถานะในการเป็นผู้นำในวงการของ Google ก็สามารถที่จะสั่นคลอนได้
ปัญหาของ Google ไม่ได้เกิดจากรายได้เริ่มหดหายหรือ สถานะความเป็นเจ้าตลาดเริ่มลดน้อยลงเหมือนบริษัทอื่นๆ นะครับ แต่ในกรณีของ Google นั้นปัญหาที่เริ่มจะมองเห็นก็คือ รายได้หลักของบริษัทมาจากธุรกิจในเรื่องของการค้นหาหรือ Search Engine และการเติบโตของธุรกิจ Search Engine ในปัจจุบัน ไม่ฟู่ฟ่าเหมือนในอดีต ประกอบกับธุรกิจอื่นๆ ของ Google ก็ไม่สามารถกระตุ้นให้เกิดการเติบโตได้มากตามที่คาดหวัง ดังนั้นคำถามที่บรรดานักวิเคราะห์และนักลงทุนเริ่มตั้งคำถามก็คือ แล้ว Google จะเติบโตต่อไปอย่างไรในอนาคต? ซึ่งคำถามนี้ก็สะท้อนออกมาในราคาหุ้นของ Google ที่ในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้มีการเติบโตหรือเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แถมมีการลดลงด้วยซ้ำ
จริงๆ แล้วปัญหาของ Google นั้น ถ้าเกิดขึ้นกับบริษัทอื่นแล้ว อาจจะดูไม่ร้ายแรงแต่อย่างใด เนื่องจากรายได้และกำไรก็ยังดีอยู่ เพียงแต่เริ่มจะตั้งคำถามว่าการเติบโตของรายได้และกำไรในอนาคตนั้นจะมาจากธุรกิจไหน? แต่อาจจะเป็นเนื่องจากในอดีตนั้น Google มีการเติบโตอย่างมากมายในด้านต่างๆ ทำให้บรรดานักลงทุนและนักวิเคราะห์ต่างๆ มีความเคยตัวกับการเติบโตของ Google ดังนั้นพอ Google เริ่มมีแนวโน้มที่จะไม่เติบโตเหมือนในอดีต ก็เริ่มเกิดความกังวลกันไปถึงอนาคตของบริษัท และเชื่อว่าถ้าสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับบริษัทอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นที่จับตามองหรือเคยเป็นขวัญใจมหาชนอย่าง Google ความกังวลก็จะไม่เกิดเท่าที่เกิดขึ้นกับ Google
ท่านผู้อ่านอาจจะสงสัยว่าสินค้าตัวใหม่ของ Google อย่างเช่นระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ Android ที่ตอนนี้เริ่มกระจายและมีใช้กันไปทั่วนั้น ทำไมถึงไม่มองว่าจะเป็นตัวช่วยผลักดันการเติบโตของ Google? จริงอยู่นะครับที่ Android ประสบความสำเร็จในฐานะระบบปฏิบัติการ (Google แจ้งว่ามีการเปิดใช้บริการระบบนี้ถึง 160,000 เครื่องในแต่ละวัน) แต่ในด้านของการเติบโตของรายได้และกำไรนั้น เจ้า Android กลับไม่ได้ช่วย Google เท่าไรเลย
ท่านผู้อ่านต้องอย่าลืมนะครับ Google นั้นเหมือนกับแจกเจ้าระบบ Android นี้ออกไปฟรีๆ เพื่อให้บริษัทผลิตโทรศัพท์มือถือใส่เข้าไปในเครื่องของตนเอง วัตถุประสงค์แรกเริ่มนั้นไม่ใช่เพื่อทำกำไรจากระบบปฏิบัติการดังกล่าว แต่เป็นการทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต และสามารถค้นหาข้อมูลด้วย Google ผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้ง่ายขึ้น การที่คนซื้อมือถือที่มีระบบ Android อยู่ทำให้รายได้ของบริษัทที่ผลิตและขายมือถือนั้นดีขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้รายได้ของ Google ดีขึ้นอย่างมากมายแต่ประการใด
ซึ่งรูปแบบธุรกิจหรือ Business Model ของ Google ในเรื่องของระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นแตกต่างจาก Apple ครับ โดย Apple นั้น ออกระบบปฏิบัติการ iOS ขึ้นมา และขายไดพร้อมกับเครื่อง iPhone ของตนเอง ดังนั้นยิ่งขาย iPhone ได้มาก รายได้ของ Apple ก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย
ประเด็นที่น่าสนใจก็คือรายได้จาก Search Engine หรือระบบค้นหาของ Google นั้น ดูเหมือนว่าจะไม่เติบโตเท่าในอดีต โดยมีทั้งคู่แข่งทางตรงอย่างเช่น Bing ของ Microsoft หรือ คู่แข่งทางอ้อมอย่างเช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ ทั้ง Facebook และ Twitter ซึ่งผมจะมาขอต่อในสัปดาห์หน้านะครับว่า Facebook และ Twitter จะมาเป็นคู่แข่งของ Google ได้อย่างไร ท่านผู้อ่านเองก็ลองสังเกตพฤติกรรมในการเล่นเน็ตของท่านนะครับว่าปัจจุบันท่านเข้าหน้าไหนเป็นหลัก
|
|
|
|
|