|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คำตอบชัดเจนอยู่แล้ว เป็นไปได้หรือที่ผู้ถือหุ้นจะเลือก “คนแปลกหน้า” ที่มีความสามารถและเป็นอิสระอย่างแท้จริงเข้ามาทำงานแทนที่จะเลือกคนคุ้นเคย ซึ่งอันที่จริงก็มีความสามารถเช่นเดียวกัน ทำงานร่วมกันได้สนิทใจกว่า และไว้ใจได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะนำความลับของกิจการไปเปิดเผย ดังนั้นคำว่า “อิสระ” ในที่นี้ความคิดของผู้เขียน น่าจะหมายถึงพฤติกรรมที่อิสระ มากกว่าแบคกราวด์ หรือโปรไฟล์ที่อิสระ
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า กรรมการอิสระจะทำงานอย่างไร ผู้ที่เป็นคนเลือก หรือชักชวนกรรมการท่านนั้นเข้ามา น่าจะมีอิทธิพลอยู่พอสมควร รวมถึงอุปนิสัยและทัศนคติส่วนตัวของกรรมการอิสระท่านนั้นๆ เองด้วย ว่ามีความเข้าใจในเป้าหมาย หน้าที่ รวมถึงความคาดหวังของผู้มีอำนาจ ในกิจการนั้นๆ อย่างไร เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่าต่อให้กรรมการอิสระมีความเข้าใจในเป้าหมายและหน้าที่อย่างดี แต่ถ้าไม่ได้รับอิสระ หรืออำนาจจากผู้มีอำนาจในกิจการ (ซึ่งในประเทศไทยก็คือผู้ถือหุ้นใหญ่) ให้แสดงบทบาทกรรมการอิสระได้อย่างเต็มที่ก็คงจะเป็นไปได้ยากที่กรรมการอิสระ จะสามารถบรรลุเป้าหมายของตำแหน่งนี้ได้ จากงานวิจัยของผู้เขียนพบประเด็นปัญหานี้จากกรรมการอิสระตัวจริงหลายท่าน
ยกตัวอย่างเช่น กรรมการบริหารเลือกกรรมการอิสระขึ้นมา สมมุติว่าชื่อท่าน มดเอ็กซ์ เพื่อให้เป็นไปตามกฎข้อบังคับและ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กรเป็นองค์กรที่มีธรรมาภิบาลที่ดี ท่านมดเอ็กซ์มีความตั้งใจในการทำหน้าที่มาก มีความมุ่งมั่นที่จะผดุงความเป็นธรรม แต่ถ้ากรรมการบริหารไม่ได้สนใจ หรือต้องการให้บริษัทมีความเป็นธรรมอย่างแท้จริง กรรมการบริหารก็สามารถปิดบังหรือบิดเบือนข้อมูลที่เปิดเผยต่อท่านมดเอ็กซ์ได้ หรือหลีกเลี่ยง ไม่ให้ท่านมดเอ็กซ์มีส่วนร่วมในประเด็นนั้นๆ ส่วนจะคาดหวังให้ท่านมดเอ็กซ์ไปขุดคุ้ย หรือหลบตามมุมตึก หรือติดเครื่องดักฟังคงเป็นไปไม่ได้ เพราะท่านมดเอ็กซ์ไม่ใช่เชอร์ลอคโฮล์มส ถ้าท่านมดเอ็กซ์สวมวิญญาณเชอร์ลอคโฮล์มสไปขัดขาใครเข้า ท่านมดเอ็กซ์ก็โดนเชิญออก จบข่าว
จุดที่สำคัญที่สุด ย้อนกลับไปที่ความ จริงใจของผู้มีอำนาจตัดสินใจว่าต้องการให้บริษัทมีความโปร่งใสและเป็นธรรมอย่าง แท้จริง หรือว่าแค่หลอกชาวบ้านให้สบายใจ ไปวันๆ ส่วนท่านมดเอ็กซ์จะช่วยแก้ปัญหา ตรงนี้ได้บ้าง ถ้าท่านมดเอ็กซ์ได้ทำการบ้าน มาก่อนตอบรับเป็นกรรมการอิสระ ว่าอุปนิสัยใจคอของผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือผู้บริหาร ชุดนี้เป็นอย่างไร มีความซื่อสัตย์หรือไม่ มี ความมุ่งมั่นที่จะทำให้บริษัทมีความชัดเจน และยุติธรรมมากน้อยแค่ไหน ถ้าดูแล้วไม่เคลียร์ ท่านมดเอ็กซ์ต้องยอมตัดใจเซย์โน ทั้งนี้ทั้งนั้น ท่านมดเอ็กซ์จะตัดใจได้ ก็ต่อเมื่อท่านมดเอ็กซ์ห่วงและหวงแหนชื่อเสียง ภาพลักษณ์ของตนเอง และอุดมการณ์ในการผดุงความยุติธรรมมากกว่าผลตอบแทน จากการเป็นกรรมการอิสระ
ในตำราฝรั่งสรุปว่า กรรมการอิสระ โดนควบคุมโดยกลไกตลาด ตลาดของกรรมการอิสระ ใครอิสระมาก ทำหน้าที่ได้ดี ก็เนื้อหอม มีชื่อเสียง ได้รับความน่าเชื่อถือ แต่ผู้เขียนไม่เห็นด้วยกับความเชื่อนี้เท่าไหร่ นัก ยิ่งในโครงสร้างแบบไทยๆ ตลาดแบบไทยๆ เนื่องจากอุปสงค์ (demand) ของตลาดกรรมการอิสระในไทย อาจต้องการกรรมการอิสระแบบที่ยอมทำตามใจผู้บริหาร ไม่เรื่องมาก ไม่ขัดคอซะมากกว่า เพราะไม่ปวดหัวดี ดังนั้นกรรมการอิสระซึ่งแย่ในทางทฤษฎี ไม่ได้ทำหน้าที่กรรมการอิสระเลย อาจเนื้อหอมและประสบความสำเร็จ ได้รับค่าตอบแทนสูง เนื่องจากกลไกตลาด เพราะกรรมการแบบไม่ขัดคอ ตรงกับความ ต้องการของตลาดมากกว่า แต่ท่านมดเอ็กซ์ กลับตกกระป๋อง
ดังนั้น ในความคิดของผู้เขียน ขอสรุปว่ากรรมการอิสระในไทยหรือที่ไหนๆก็ตาม จะเวิร์กในฐานะเป็นกลไกหลักของการควบคุมดูแลก็ต่อเมื่อผู้ซื้อ (หรือผู้จ้างกรรมการอิสระ ของไทยก็คือผู้ถือหุ้นใหญ่) ในตลาดกรรมการอิสระในไทยให้คุณค่า หรือราคากับความซื่อสัตย์และอุดมการณ์ในการผดุงความยุติธรรมของท่านมดเอ็กซ์ คนแบบท่านมดเอ็กซ์จึงจะสามารถผงาดเป็นแนวหน้าในตลาดกรรมการอิสระได้ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้ซื้อหรือผู้จ้างก็มีความจริงใจ ตั้งใจดี มีศีลธรรม ยินดีที่จะเสียผลประโยชน์ในส่วนที่ได้จากการเอาเปรียบผู้อื่น ซึ่งนักลงทุนมีส่วนช่วยตรงนี้ได้ เนื่องจากเป็นอุปสงค์เช่นเดียวกัน ถ้านักลงทุนให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่หรือผู้บริหารจึงจะเห็นคุณค่าตามไปด้วย และสร้างอุปสงค์ให้กับคนดีอย่างท่านมดเอ็กซ์
ความดีไม่ใช่กำไร (ในรูปตัวเงิน)
คนดีอาจไม่รวย คนรวยอาจไม่ดี ดังนั้นบริษัทที่ดีอาจไม่มีกำไร บริษัทที่มีกำไรอาจ ไม่ดี ถ้าเราอยากได้บริษัทที่ดีและมีกำไร
เราต้องให้ “ราคา” กับความดี ความถูกต้อง ความยุติธรรมด้วย ถ้าเราให้ราคากับกำไรเพียงอย่างเดียว ก็เป็นแรงจูงใจให้บริษัททำกำไรจนลืมความดี แต่ถ้าเราให้ราคากับความดีบ้าง บริษัทก็มีกำลังใจที่จะ ทำดีด้วย กำไรอาจไม่สูงสุด แต่บริสุทธิ์ยุติธรรม
ในโลกปัจจุบันอะไรๆ ก็ถูกตีค่าเป็นตัวเงิน เป็นราคาไปซะหมด ถ้าเรายังอยากให้มีความดีหลงเหลืออยู่คู่สังคมของเรา
ลองให้ราคากับความดีบ้างจะเป็นไรไป
|
|
|
|
|