Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2536








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2536
สมควร วัฒกีกุล เอ็มดีคนแรกของ "ไทยลู้บ"             
 


   
search resources

ไทยลู้บเบส, บมจ.
สมควร วัฒกีกุล




"ผมเป็นคนโชคดี"

สุภาพบุรุษวัย 50 เศษสรุปสั้น ๆ ถึงประสบการณ์ที่สั่งสมมาด้วยน้ำเสียงแจ่มใสดุจดังผู้ที่มีอารมณ์ดีอยู่เป็นนิจ

เขาเชื่อว่า ความโชคดีทั้งจากงานดี ที่ทำงานดี และนายที่ดี จะทำให้เขาปลุกปั้นอนาคตของ "ไทยลู้บ" ไปได้ด้วยดี…!

"สมควร วัฒกีกุล" ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในตำแหน่งรองผู้ว่าการทรัพยากรบุคคล การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทไทยลู้บเบส จำกัด โรงงานผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานแห่งแรกของไทยแล้ว เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมานี้

บริษัท ไทยลู้บเบส จำกัด หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า "ไทยลู้บ" นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาน้ำมันหล่อลื่นในส่วนที่เป็นอุตสาหกรรมขั้นต้น…!

เนื่องจากที่ผ่านมา ไทยต้องนำเข้าน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานเข้ามาเป็นวัตถุดิบในการผสมน้ำมันหล่อลื่นเกรดต่าง ๆ ที่เราใช้กันอยู่ทั้งหมดกว่า 350 ล้านลิตรต่อปี บริษัทมิตซูบิชิ ออยล์ แห่งประเทศญี่ปุ่น จำกัด เห็นโอกาสเหมาะและช่องทางตลาดที่ยังขยายตัวอีกมหาศาลในไทย และภูมิภาคนี้จึงทาบทามปตท.ขอตั้งโรงผลิตน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานเพื่อทดแทนการนำเข้า

ดูแนวโน้มการใช้น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานในอีก 5 ปีข้างหน้าจะโตได้เหนาะ ๆ ไม่น้อยกว่า 9% ต่อปี โดยมีความต้องการเกือบ 600 ล้านลิตรต่อปีในปี 2540 และแม้หลังจากนั้นก็ยังมีอนาคตดีอยู่ คือ ที่ 8.5% ต่อปี

ขณะนี้ "ไทยลู้บ" มีผู้ร่วมหอสร้างธุรกิจร่วมกันเรียบร้อยแล้ว คือ ปตท.ถือหุ้น 30% ไทยออยล์ 38% บีพีออยล์ (ไทย) 10% และมิตซูบิชิ (ญี่ปุ่น) 22%

"ตอนนี้ได้ทำงานบริษัทเอกชนซึ่งก็คงดีไปอีกแบบหนึ่ง" สมควรกล่าวอย่างกระตือรือร้นต่องานในตำแหน่งใหม่ หลังจากที่ผ่านชีวิตรัฐวิสาหกิจอย่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถึง 24 ปี และที่ ปตท.อีก 6 ปี

เมื่อคราวที่อยู่ กฟผ. ก็ทำงานครอบคลุมหลายตำแหน่ง ตั้งแต่หัวหน้ากองบำรุงรักษาซ่อมแซมและก่อสร้าง ผู้ช่วยนายช่างโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างเขื่อนศรีนครินทร์ โดยเฉพาะกับตำแหน่ง ผอ.โครงการสร้างเขื่อนเขาแหลม ซึ่งเป็นงานที่พูดได้ว่าเมื่อเสร็จแล้วก็ภูมิใจ

แต่เมื่อมาดูงานบุคคล คือ เป็น ผอ.สำนักงานแผนวิสาหกิจ และ ผอ.ฝ่ายการพนักงาน "เป็นงานที่กว้างและละเอียดอ่อนกว่างานแผนและโครงการมาก โดยเฉพาะกับ กฟผ.ที่มีคนมากถึง 3 หมื่นคน" สมควรย้อนถึงวันวานอันสดใสว่าถึงจะมากคน แต่ก็ไม่มากความให้เป็นที่หนักใจ

แม้เมื่อมาเป็นรองผู้ว่า ปตท. ตามคำชักชวนในยุคที่ อาณัติ อาภาภิรม เป็นผู้ว่า ก็นับเป็นความโชคดีที่ได้ทำงานกับองค์กรรัฐวิสาหกิจชั้นนำอีก "การทำงานของ ปตท.ยืดหยุ่นและต้องปรับตัวกับตลาดโลกตลอดเวลา" ทำให้สมควรได้เห็นภาพของการแข่งขันในเชิงธุรกิจมากขึ้น

จะเห็นว่า ตลอดชีวิตการทำงาน "ผมได้ทั้งงานดีน่าสนใจ องค์กรดี และนายดี ซึ่งทำให้เราเก็บความดีของแต่ละคนมาเป็นตัวอย่าง" ไม่ว่าจะเป็น เกษม จาติกวณิช และองคมนตรี น.ต.กำธน สินธวานนท์ อดีตผู้ว่า กฟผ. หรืออาณัติ อาภาภิรม อดีตผู้ว่า และเลื่อน กฤษณกรี ผู้ว่า ปตท.คนปัจจุบัน นี่พูดเฉพาะคนที่อยู่สูงสุดขององค์กร ไม่รวมผู้บังคับบัญชาคนอื่นต่างล้วนให้ความไว้วางใจ เมื่อมอบงานให้แล้วก็ให้อิสระ และกำลังใจในการทำงานเต็มที่ "ทำให้เราสนุกกับงานได้ตลอดเวลา"

พอกลับจากเรียนคอร์ส AMP (ADVANCE MANAGEMENT PROGRAM) ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดวันแรก เลื่อนก็แจ้งข่าวดีแก่เขา

เพราะสมควรยังมีอายุงานอีกหลายปี ที่สำคัญ เขาประสานงานได้ดี จึงมองว่าน่าที่จะเชื่อมและสร้างวัฒนธรรมจากกลุ่มผู้ถือหุ้นไปสู่เอกภาพที่หวังว่า จะเป็นเอกลักษณ์ของ "ไทยลู้บ" ได้ดี

"ตอนนี้ ไทยลู้บกำลังอยู่ระหว่างให้ผู้สนใจเสนอรายละเอียดการประมูล จะเปิดซองวันที่ 20 ธันวาคมปีนี้ เมษา 2537 เริ่มก่อสร้าง ปลายปี 2539 เริ่มเดินเครื่องและผลิตสู่ตลาดในปี 2540" สมควรลำดับขั้นตอนของโครงการ

โดย "ไทยลู้บ" ได้ซื้อเทคโนโลยีของเท็กซาโก้ ซึ่งเป็นที่เชื่อถือทั่วโลก ขณะเดียวกันก็เตรียมคนไทยเข้าประกบและเรียนรู้ทุกช่วงงาน เพื่อจะได้ยืนด้วยขาตนเองได้เมื่อเริ่มผลิตท่ามกลางการแข่งขันในโลกธุรกิจที่ไม่มีช่องว่างสำหรับผู้แพ้

ในเรื่องของคุณภาพสินค้า "ตรงนี้จึงมั่นใจได้ว่า ไม่มีปัญหา จะต้องเป็นมาตรฐานเอพีไอ ซึ่งเป็นมาตรฐานโลกอันมีแนวโน้มเน้นการผลิตที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด" เรียกว่า เป็นสินค้าอินเตอร์ว่างั้นเถอะ สมควรการันตีต่อโรงงานใหม่ที่มีมูลค่าการลงทุนถึงหมื่นล้านบาท

ด้านราคาก็ไม่ต้องห่วง เพราะมีต้นทุนที่แข่งขันได้ โดยอาศัยความได้เปรียบที่สร้างในบริเวณเดียวกับโรงกลั่นไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ทำให้ใช้สาธารณูปโภคร่วมกันได้อย่างสบายๆ

ที่สำคัญที่สุด คือ ตลาดแม้จะผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้า ขณะที่บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ผู้นำเข้าน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานรายใหญ่อย่างเชลล์ และเอสโซ่ มีโรงงานของตนในสิงคโปร์ไม่ได้ร่วมทุนด้วยแล้วจะไม่มีปัญหาดอกหรือ…?

"ไม่มีปัญหา" สมควรย้ำอย่างหนักแน่น เนื่องจากตลาดจากลูกค้ารายอื่นบนฐานของการขยายตัวที่กล่าวแล้วข้างต้นมากพอที่จะรับได้หมด และถ้าบังเอิญตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดหมายไว้ เกิดซัพพลายโอเวอร์ดีมานด์ ทางมิตซูบิชิซึ่งมีตลาดอยู่ทั่วโลกจะเป็นรับผิดชอบในการส่งออก

ในกรณีหลังนี้ ยังอาจใช้วิธีแลกเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานกับเชลล์หรือเอสโซ่ก็ได้ โดยให้ทั้ง 2 ราย รับจากโรงกลั่นในประเทศ แล้ว "ไทยลู้บ" ก็เอาจากโรงกลั่นเชลล์หรือเอสโซ่ในสิงคโปร์เพื่อส่งออกในปริมาณที่ตกลงกันก็ยอ่มได้ อันเป็นวิธีการที่วงการน้ำมันทั่วโลกใช้กันอยู่

วันนี้ สมควรจึงเริ่มบทบาทใหม่แล้ว เขาไม่รอช้าได้เดินสายไปพบเหล่าบริษัทน้ำมันซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแต่ละราย พร้อม ๆ วางรากลงฐานองค์กร "ไทยลู้บ" ไปสู่บริษัทมืออาชีพอินเตอร์ในฐานะที่เป็นกรรมการผู้จัดการคนแรกของที่นี่…!

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us