Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์30 สิงหาคม 2553
'แทงโก้' ฉีกกรอบถุงยาง ทุบกำแพงความอาย             
 


   
search resources

Personal cares




ตลาดถุงยาง 800 ล้านบาท กลับมาสยิวกิ้วอีกครั้ง เมื่อค่ายดีเคที ส่ง 'แทงโก้' ลงสมรภูมิชิงแชร์จาก 'ดูเร็กซ์' ชูอินโนเวชั่นด้านแพกเกจจิ้งเป็นจุดขาย ด้วยดีไซน์แบบซองฉีกกรอบจากคู่แข่ง เพื่อสร้างความกล้าการซื้อมากขึ้น หลังพบพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่ ต้องซื้อสินค้าประเภทอื่นควบคู่กับถุงยางเพื่อลดความเขินอาย นำร่อง 'แทงโก้ ชาโดว์' ออกสู่ตลาดเป็นรุ่นแรก ก่อนทยอยออกครบ 5 รุ่นในสิ้นปีนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'เพลย์บอย สุภาพบุรุษ' ตั้งเป้าปีแรกคว้าส่วนแบ่ง 10%

หลังจากเปิดตัวสินค้ากลุ่มยาคุมกำเนิด ภายใต้แบรนด์ 'B-lady' และ 'Micro Cenyn' ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ล่าสุดค่ายดีเคทีได้ส่ง 'แทงโก้' เข้าสู่ตลาดถุงยางอนามัย เพื่อรุกตลาดสินค้ากลุ่มวางแผนครอบครัวอย่างเต็มสูบ ซึ่งหากเทียบการแข่งขันระหว่างสินค้า 2 ประเภท แน่นอนว่า ตลาดถุงยางอนามัยย่อมเป็นเวทีที่ตื่นเต้น เร้าใจกว่า ส่วนหนึ่งมาจากยาคุมกำเนิดถูกจัดเป็นสินค้าประเภทยาที่อาจมีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการควบคุมมากกว่า ขณะเดียวกัน ปัจจัยจากตัวผู้เล่นในสมรภูมิถุงยางอนามัยที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเจ้าตลาดอย่าง 'ดูเร็กซ์' รวมทั้งการเข้ามาของผู้ท้าชิงรายอื่นๆ ก็ล้วนสร้างสีสัน ทั้งในรูปแบบการสื่อสารต่างๆ หรือแม้แต่การเรียกเสียงฮือฮาด้วยตัวโปรดักส์ จึงไม่แปลกที่หลายครั้งเมื่อมีผู้เล่นรายใหม่ก้าวเข้าสู่การแข่งขัน จะเป็นที่สนใจทั้งในกลุ่มนักการตลาดและผู้บริโภค

สำหรับการเข้ามาของ 'แทงโก้' แม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ ที่เริ่มวางตลาดไปได้เพียง 1 เดือน ทว่า ด้วยลูกเล่นจากตัวโปรดักส์ที่พัฒนามาจากพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ค่ายดีเคทีมั่นใจว่าในปีแรกแทงโก้จะทำยอดขายได้กว่า 70 ล้านบาท ทั้งนี้ ฉัฐรินทร์ หงส์ลดารมภ์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท ดีเคที เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า จุดขายของแทงโก้ที่จะดึงความสนใจครั้งแรกจากผู้บริโภค คือ แพกเกจจิ้ง ซึ่งเป็นรูปแบบซองที่มีลวดลายของเสื้อเป็นตัวระบุรุ่นของถุงยาง โดย 'แทงโก้ ชาโดว์' ราคา 45 บาท เป็นรุ่นแรกที่ออกสู่ตลาด และจะทยอยออกครบทั้ง 5 รุ่นในสิ้นปีนี้ ประกอบด้วย แทงโก้ ด็อทท์ ราคา 45 บาท, แทงโก้ ซิงเกิลส์, แทงโก้ อัลทิมา และแทงโก้ พลัส ราคา 50 บาท

ทั้งนี้ หากกวาดตามองบนเชลฟ์สินค้าใกล้จุดชำระเงิน ไม่ว่าจะเป็นในไฮเปอร์มาร์เกต หรือร้านสะดวกซื้อก็ตาม จะเห็นว่า ถุงยางอนามัยเป็นสินค้าตัวหนึ่งที่เลือกทำเลนี้เป็นที่โชว์สินค้า และแน่นอนว่าเจ้ากล่องสี่เหลี่ยมกะทัดรัดที่หลากหลายลวดลายตามแบรนด์ คือ แพกเกจจิ้งที่คุ้นตาสำหรับผู้บริโภค ที่กลายเป็นความเข้าใจตรงกันเกือบ 100% ว่านั่นคือ ถุงยางอนามัย จึงไม่แปลกที่ผู้ต้องการซื้อถุงยางอนามัยส่วนใหญ่ จะเกิดความรู้สึกเขินอาย หรือไม่กล้าซื้อเมื่อมีลูกค้าคนอื่นๆ อยู่ใกล้บริเวณนั้นด้วย ทำให้การซื้อขายถุงยางบนอินเทอร์เน็ตจึงเป็นที่นิยม

'ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะอายและไม่กล้าซื้อถุงยาง เห็นได้จากพฤติกรรมจะเห็นว่า ลูกค้าหลายคนต้องซื้อสินค้าอย่างอื่นควบคู่กับถุงยางอนามัยด้วย โดยเฉพาะการซื้อในร้านสะดวกซื้อ เช่น น้ำ ขนม ซึ่งการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เป็นแบบซอง ไม่เพียงช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าง่ายขึ้น ยังสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้ด้วย'

และนี่จึงเป็นที่มาในการทลายกำแพงความอาย และเพิ่มความกล้าในการหยิบซื้อให้กับผู้บริโภค ขณะเดียวกันผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของแทงโก้ ยังเชื่อว่า แพกเกจจิ้งที่ต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน จะดึงความสนใจและสร้างการตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชายอายุ 18-35 ปีที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแทงโก้ เพราะต้องยอมรับว่า ถุงยางอนามัยเป็นสินค้าที่ต้องขายความน่าเชื่อถือและความมั่นใจควบคู่กับคุณภาพของสินค้า ทั้งในแง่การคุมกำเนิดและการป้องกันโรคติดต่อ ซึ่งเป็น 2 จุดประสงค์แรกของผู้บริโภคในการใช้ถุงยางอนามัย จึงไม่แปลกที่ปัจจุบัน 'ดูเร็กซ์' แบรนด์ที่อยู่ในตลาดมานาน ยังครองตำแหน่งแชมป์ถุงยางอนามัยมูลค่า 800 ล้านบาท ด้วยส่วนแบ่ง 57% ขณะที่แบรนด์อื่น เช่น ดูโอ, วัน-ทัช, โอกาโมโตะ ร่วมแชร์ส่วนแบ่งที่เหลือ 43%

ไม่เพียงแต่ความโดดเด่นด้านแพกเกจจิ้งเท่านั้น 'ราคา' เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ค่ายดีเคทีเตรียมมางัดกับคู่แข่งอย่าง 'ดูเร็กซ์' โดยเฉพาะ แม้ว่าแทงโก้จะมีฐานการผลิตในมาเลเซีย เนื่องจากเป็นประเทศที่อยู่ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบ เช่นเดียวกับ 'โอกาโมโตะ' ถุงยางสัญชาติญี่ปุ่นที่เข้ามาเปิดตลาดบ้านเราเมื่อราว 4 ปีก่อน โดยผู้ที่เคยอยู่ในธุรกิจถุงยางเล่าว่า โอกาโมโตะได้ซื้อโรงงานไทย ไฮยีนส์ โปรดักส์เพื่อใช้เป็นฐานผลิตด้วย เพราะไทยถือเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่มียางพาราซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญ โดยผู้เล่นแบรนด์ดังกล่าวเน้นการส่งออกมากกว่าการทำตลาดในไทย

อย่างไรก็ตาม ด้วยการจัดการกอปรกับการเป็นแบรนด์ที่อาจยังมีต้นทุนการทำตลาดที่ต่ำกว่า ทำให้ผู้ท้าชิงรายนี้กำหนดราคาได้เป็นอย่างดี โดย 'แทงโก้' รุ่นปรกติ ขนาด 1 ซอง 3 ชิ้น จะมีราคา 45 บาท 'ดูเร็กซ์' รุ่นปรกติ 1 กล่อง 3 ชิ้น มีราคา 49 บาท ขณะที่รุ่นพิเศษของแทงโก้ กำหนดราคาที่ 50 บาท ส่วนดูเร็กซ์มีราคาตั้งแต่ 50-60 บาท แม้ว่าราคาจะไม่ค่อยมีผลต่อการตัดสินใจซื้อในสินค้ากลุ่มนี้มากนัก แต่เพื่อช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในครั้งแรก เชื่อว่าย่อมมีผลไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งผลสำรวจปีก่อนพบว่าชายไทยที่ใช้ถุงยางมีสัดส่วนเพียง 60%

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการทำตลาดถุงยาง นั่นคือ การสื่อสารกับผู้บริโภค ซึ่งปีแรกแทงโก้ได้จัดสรรงบการทำตลาดไว้ที่ 20% ของยอดขาย สำหรับการจัดกิจกรรมให้ความรู้ในเชิงซีเอสอาร์ เช่น การร่วมกับสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สวท.) จัดทำเอกสารให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรคติดต่อและการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง พร้อมแจกสินค้าตัวอย่าง 1 แสนชิ้น พร้อมกันนี้ก็จะมีการจัดกิจกรรมตามสถานที่เที่ยวกลางคืนกับกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบปาร์ตี้ร่วมกับพาร์ตเนอร์ เช่น แฮงค์ เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และสะท้อนคอนเซ็ปต์ 'เพลย์บอย สุภาพบุรุษ' ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะที่แผนระยะยาวจะเข้าไปใช้สื่อทีวี วิทยุ และสื่อออนไลน์ และขยายสู่ช่องทางร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-11 และโมเดิร์นเทรดมากขึ้นด้วย จากตอนนี้ที่เริ่มจำหน่ายในร้านขายยา ปั๊มน้ำมัน กว่า 300 จุดทั่วประเทศ

สำหรับ 'แทงโก้' แม้จะเป็นผู้เล่นที่สร้างความฮือฮาได้ในครั้งแรก ทว่า ถุงยางไม่ใช่สินค้าแฟชั่น เป็นตลาดที่ต้องดูกันระยะยาว เพราะสุดท้าย 'คุณภาพ' คือ ปัจจัยแรกในการตัดสินใจซื้อ ที่สำคัญแชมป์ 'ดูเร็กซ์' คงไม่ปล่อยให้แทงโก้ออกไปโชว์สเตปเก็บคะแนนได้ง่ายๆ แต่จะรับน้องใหม่อย่างไร เร็วๆ นี้คงได้ชม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us