Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน29 สิงหาคม 2553
ละเลง79ลบ.จัดเทศกาลเที่ยวไทย5ภาค ททท.ยอมรับไม่เน้นขายขอแค่โปรโมต             
 


   
search resources

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
Tourism




ททท. ละลายงบจัดงานเทศกาลเที่ยวไทย 5 ภาค 79 ล้านบาท ยอมรับเป็นงานสร้างกล่อง เสริมความรู้แหล่งท่องเที่ยวเมืองไทย ให้เข้าถึงคนต่างจังหวัด มากกว่าการสร้างรายได้จากการขายแพกเกจ ท่องเที่ยว เผยปีนี้ให้สำนักงานในพื้นที่จัดงานเป็นพี่เลี้ยง แนะผู้ประกอบการจัดสินค้าให้ตรงกับความต้องการตลาด พร้อมใช้สื่อท้องถิ่นกระจายข่าว คาด 3 พื้นที่ สุพรรณฯ อุดรฯ สุราษฎร์ เกิดเงินสะพัดรวม 90 ล้านบาท

นายสุวรรณชัย ฤทธิรักษ์ ที่ปรึกษา 10 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ใช้งบประมาณจากกระตุ้นฉุกเฉินวงเงิน 79 ล้านบาท จัดโครงการ “เทศกาลเที่ยวไทย 5 ภาค” กำหนดจัดงาน ใน 3 พื้นที่หลัก ได้แก่ สุราษฎร์ธานี สุพรรณบุรี และอุดรธานี โดยใช้งบประมาณแห่งละ 22 ล้านบาท รวม 66 ล้านบาท ส่วนอีก 13 ล้านบาท เป็นงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ และงบบริหารจัดการโครงการ คาดหวัง มีผู้เข้าชมงานพื้นที่ละ 6 หมื่นคน รวมเป็น 1.8 แสนคน เกิดการใช้จ่ายในช่วงจัดงานพื้นที่ละ 30 ล้านบาท รวมเป็น 90 ล้านบาท ซึ่งอาจเป็นการใช้จ่ายเพื่อซื้อของกินของใช้ที่มาร่วมออกบูธมากกว่าการซื้อแพกเกจทัวร์ท่องเที่ยว

สำหรับปีนี้ ได้จัดจ้างบริษัทรับจัดงาน 3 ราย ในการจัดงาน ได้แก่ 1.อุดรธานี จัด 27-29 ส.ค. 53 ว่าจ้าง บริษัท ซีเอ็ม ออกาไนซ์ จำกัด 2.สุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 3-5 ก.ย.53 ว่าจ้างบริษัท RIGHT MAN ออกาไนซ์ เป็นผู้จัดงาน และ 3. จ.สุพรรณบุรี จัด 24-26 ก.ย.53 ว่าจ้าง บริษัท ศุภัคษร จำกัด เป็นผู้จัดงาน ซึ่งทั้ง 3 ราย ล้วนเป็นมืออาชีพมีประสบการจัดงาน ขณะที่งานด้านประชาสัมพันธ์จะว่าจ้างสื่อท้องถิ่นในการโปรโมต อาทิ เคเบิลทีวีท้องถิ่น รถโฆษณา ป้ายบิลบอร์ด สปอร์ตวิทยุท้องถิ่น แผ่นพับ เป็นต้น เป้าหมายผู้ชมงาน คือ ประชาชนคนในพื้นที่ และ จังหวัดใกล้เคียงในรัศมีการเดินทางมาร่วมงานไม่เกิน 1 ชั่วโมง โดยที่อุดรธานี ยังได้คาดหวังกลุ่ม เอ็กซ์แพก หรือชาวต่างชาติที่ ทำงานอยู่ในประเทศลาว และ เขยฝรั่งในพื้นที่ ได้มีโอกาสรับรู้ข้อมูลท่องเที่ยวของประเทศไทยผ่านงานนี้ด้วย

นายสุวรรณชัย กล่าวยอมรับว่า การจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยว ของ ททท. จะไม่มุ่งหวังรายได้เหมือนกับการจัดงานของเอกชน จึงไม่เน้นที่จะนำเสนอขายแพกเกจทัวร์ แต่จะมุ่งให้ความรู้ ด้านแหล่งท่องเที่ยว ประเพณีวัฒนธรรม ของแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยย่อเป็นโมเดล เฉพาะที่สำคัญของแต่ละจังหวัด ในรูปแบบโมบายยูนิต ออกไปพบกับประชาชนในภูมิภาคต่างๆ ใช้จุดขายเรื่องอาหาร และ สินค้าโอท็อป ดึงคนในพื้นที่เข้ามาชมงาน และเดินชมบูธด้านท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดที่มาจัดแสดง ซึ่งจะสามารถสร้างกระแสการเดินทางข้ามภูมิภาคได้ในอนาคต


ครั้งนี้เป็นปีที่ 2 ของการจัดงาน เทศกาลเที่ยวไทย 5 ภาค ซึ่งผลจากการจัดงานครั้งแรก ทำให้ ททท. ทราบดีว่า อย่ามุ่งหวังให้เกิดการซื้อขายแพกเจทัวร์ภายในงานมากนัก ขอเป็นเพียงเวทีที่ให้ข้อมูลแก่ประชาชนเรื่องการท่องเที่ยว เพราะเอกชนที่ร่วมออกบูธก็ไม่เสียค่าใช้จ่าย ปีนี้ ททท. แนะนำเอกชนในส่วนของการนำเสนอแพกเกจทัวร์ โดยให้ สำนักงานททท.ในพื้นที่เป็นพี่เลี้ยงแนะนำว่า สินค้าท่องเที่ยวประเภทไหนที่ คนในพื้นที่ต้องการ ต่างจากปีก่อน ที่ไม่มีไกด์ในการแนะนำ ทำให้ผู้ประกอบการบางราย นำสินค้าที่พื้นที่นั้นมีอยู่แล้วมานำเสนอขาย เช่น งานที่พัทยา ก็ไม่ควรนำสินค้าประเภทหาดทรายชายทะเลไปขาย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ททท.ไม่ได้ประเมินผลรายได้ที่เกิดขึ้นภายหลังการจัดงาน แต่ก็มีการว่าจ้าง สถาบัน “ไทยคดีศึกษา” เป็นผู้ประเมินผลการจัดงาน ส่วนปีหน้าจะกำหนดจัดงานนี้อีกหรือไม่ต้องรอดูสถานการณ์ ปัญหาของ ททท.ขณะนี้คือเรื่องของการจัดเก็บตัวเลขสถิตินักท่องเที่ยว เพราะ เป็นหน่วยงานด้านการตลาด แต่ไม่รู้ สถานการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวที่เป็นปัจจุบันที่สุด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us