Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน29 สิงหาคม 2553
"กุ๊ก"อัดพันล้านผุดรง.เพิ่มผลิต ขยายตลาดส่งออกรับเอฟทีเอ             
 


   
search resources

Food and Beverage
ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช, บจก.




กุ๊ก เท 1,000 ล้านบาท ผุดโรงงานใหม่ขยายกำลังผลิต 2,500 ตันต่อวัน เร่งลุยส่งออกรับเปิดเสรีการค้าเอฟทีเอ และตลาดน้ำมันถั่วเหลืองในประเทศโตพรวด หลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้น กำลังซื้อคึกคัก อานิสงส์เทรนด์สุขภาพบูมคนแห่ใช้ ลั่นบริหารต้นทุนผลิต หวั่นสินค้าต่างประเทศลุยตลาด เท 40 ล้านบาท รีเฟรชแบรนด์ใหม่”ชูโอเมก้า -ไขมันทรานส์0 กรัม” เจาะคนรุ่นใหม่ สิ้นปีแชร์พุ่ง 23% รั้งเบอร์สอง

นายอดุลย์ เปรมประเสริฐ กรรมการ และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันถั่วเหลืองยี่ห้อกุ๊ก เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบลงทุน 1,000ล้านบาท สร้างโรงงานใหม่ขึ้น ที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อขยายกำลังการผลิตน้ำมันถั่วเหลืองเพิ่ม 1,650ตันต่อวัน เพิ่มเป็น 2,500ตันต่อวัน ซึ่งคาดว่าโรงงานแล้วเสร็จปลายปีนี้ เพื่อรองรับการขยายตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น จากการเปิดการค้าเสรีระหว่างประเทศ (FTA) จากปัจจุบันบริษัทส่งออกไปในตลาดอาเซียนเป็นหลัก เนื่องจากการส่งออกน้ำมันพืชในอุตสาหกรรมอาหารมีข้อดี คือ สินค้าที่ไม่ถูกควบคุมราคา เมื่อเทียบกับการทำตลาดภายในประเทศ น้ำมันพืชจะเป็นสินค้าควบคุม

นอกจากนี้การขยายกำลัง ยังรองรับการผลิตกลุ่มธุรกิจนอนฟู้ดส์ และกลุ่มกากถั่วเหลือง และการเติบโตภายในประเทศของตลาดน้ำมันถั่วเหลือง เนื่องจากกระแสสุขภาพที่มาแรง ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาใช้น้ำมันถั่วเหลืองมากขึ้น และยิ่งภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ผู้บริโภคมีกำลังการซื้อ ก็จะเป็นส่วนผลักดันให้ตลาดน้ำมันถั่วเหลืองเติบโตเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดมีมูลค่า 3,800ล้านบาท หรือในเชิงปริมาณ 8หมื่นตันต่อปี คิดเป็นสัดส่วน23- 25% เท่านั้น เมื่อเทียบกับน้ำมันปาล์มมีสัดส่วน 70-73% จากตลาดรวม 3.4แสนตันต่อปี


“ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคไทยใช้น้ำมันปาล์มเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่าน้ำมันถั่วเหลือง 20% โดยน้ำปาล์ม ขนาด 1 ลิตร ราคา 36 -38บาทต่อขวด ขณะที่ถั่วเหลือง 43 บาทต่อขวด”

ด้านการผลิตบริษัทได้บริหารต้นทุนการผลิตน้ำมันถั่วเหลืองให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรองรับกับการเปิดการค้าเสรี ส่งผลให้มีสินค้าใหม่ๆ เข้ามาทำตลาด อีกทั้งถั่วเหลืองเป็นพืชที่สามารถนำไปใช้ทำพลังงาน จึงมีแนวโน้มว่าราคาปรับเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันราคาน้ำมันพืชจะปรับขึ้น-ลงผกผันตามภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งการแข่งขันราคาในช่องทางโมเดิร์นเทรดที่มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง

แผนการตลาดในประเทศปีนี้บริษัททุ่มงบการตลาด 40ล้านบาท โดยมุ่งเน้นการทำตลาดรับกับกระแสสุขภาพที่มาแรง โดยชูจุดเด่นของสินค้ามีโอเมก้า 3 และสามาผลิตจนได้ไขมันทรานส์ 0กรัม เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพ พร้อมกับนำ “เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์กลุ่มเป้าหมายน้ำมันพืชกุ๊ก คือ รักลูกและครอบครัวเลือกสิ่งที่ดีที่สุด เลือกกุ๊กเท่านั้น และได้ปรับเปลี่ยนฉลากสินค้าใหม่ ให้ดูทันสมัย ตลอดจนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย “กุ๊ก คู่บุญ” ลุ้นทองคำ และไปทำบุญร่วมกับเคนธีรเดช พร้อมรับทองคำ 20รางวัล เริ่มตั้งแต้วันนี้- 15ธันวาคม นี้

พร้อมกันนี้บริษัทยังได้แตกไลน์ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตน้ำมันถั่วเหลือง อาทิ การผลิตเลซิตินป้อนในอุตสาหกรรมอาหารและนอนฟู้ดส์ สำหรับสิ้นปีนี้น้ำมันถั่วเหลืองกุ๊ก ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 19% เป็น 23% หรือมียอดขายเติบโต 20% โดยยังรั้งอันดับ 2 ของตลาดน้ำมันถั่วเหลือง ส่วนอันดับ 1 องุ่น ครองส่วนแบ่ง 60%

สภาพตลาดน้ำมันถั่วเหลืองในช่วงครึ่งปีแรกทรงตัว จากผลกระทบเรื่องความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง ประกอบกับส่วนต่างราคาขายปลีกของน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันปาล์ม 6-8 บาทต่อขวด มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังนี้ ตลาดน้ำมันถั่วเหลือง คาดว่าขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลก จากความกังวลผลผลิตปาล์มมาเลเซียที่อาจจะปรับลดลง ทั้งนี้คาดว่าปีนี้ตลาดน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวด 3,800 ล้านบาท โต 6% และตลาดรวมน้ำมันพืช 3.4 แสนตันต่อปี โต 6-7%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us