|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
SMEs ผนึกเอกชนท่องเที่ยว ประกาศบุกยึดตลาดเมดิคัลทัวร์ ดันไทยเป็นศูนย์กลางการให้บริการทางการแพทย์ระดับโลก เล็งชงของบรัฐบาล 20 ล้าน เผย รายได้ธุรกิจเมดิคัลต่อปี 4 แสนล้านบาท โตเฉลี่ย 14%
วานนี้ (26 ส.ค.) การเสวนาเรื่อง “โอกาสและความเป็นไปได้ในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์” ในการประชุมสมาชิกสมาคมไทยธูรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) นายสุเมธารัตน์ สีตบุตร ที่ปรึกษาอาวุโส สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs) กล่าวว่า เพื่อประกาศบุกตลาดการให้บริการทางการแพทย์ของประเทศไทย จึงได้มีการรวมกลุ่มกันเพื่อข้อมูลด้านการตลาด โดยรวมกัน 8 หน่วยงานที่เดี่ยวข้อง ได้แก่ SMEs, แอตต้า, สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ), Thai International Health Care Standard Training Cemter(TITC) และกรมส่งเสริมการส่งออก สมาคมโรงพยาบาลเอกชนไทย เป็นต้น จัดตั้ง เมดิคัลทัวริสซึ่ม คลัสเตอร์ พร้อมเปิดเว็บไซต์ www.thailandtourismculture.org
โดยรัฐสนับสนุนวงเงิน 8 ล้านบาท ในปีก่อน เพื่อจัดทำข้อมูลเชิงรุกให้แก่ผู้ประกอบการในธุรกิจเมดิคัลทัวร์ ได้ใช้ประโยชน์เพื่อการจัดทำแผนการตลาด ล่าสุดเตรียมเสนอของบอีกราว 20 ล้านบาท มาต่อยอดโครงการ
นอกจากนั้น ยังเตรียมจัดให้ความรู้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ในการที่จะจัดทำทัวร์ด้านการแพทย์และพยาบาล การประชุมคณะทำงานพิจารณาลดกฎเกณฑ์ เพื่อเอื้อให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้ามาพักรักษาพยาบาลที่ประเทศไทย ให้มีกระบวนการที่ง่ายขึ้น เรื่องของมาตรฐานโรงพยาบาล JCI ปัจจุบัน ไทยมีอยู่ 14 แห่ง เช่น รพ.สินแพทย์ รพ.กรุงเทพ รพ.บำรุงราษฎร์ เป็นต้น และในอีก 3 ปี ไทยจะมี รพ.ที่ได้มาตรฐานดังกล่าวมากกว่า 20 แห่ง มากที่สุดในโลก มากกว่า อเมริกา และ สิงคโปร์ จุดขายสำคัญของประเทศไทย คือ ค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่าสิงคโปร์ เท่าตัว ถูกกว่า อเมริกา 7 เท่าตัว คู่แข่งสำคัญของไทย คือ เกาหลี อินเดีย มาเลเซีย และสิงคโปร์
ทั้งนี้ ไทยมีรายได้จากธุรกิจเมดิคัลและธุรกิจต่อเนื่องต่อปีเฉลี่ยที่ 2-4 แสนล้านบาท ในที่นี้เป็นรายได้เข้าสู่ธุรกิจการแพทย์และโรงพยาบาลราว 30-40% ที่เหลือเป็นธุรกิจต่อเนื่อง เช่น สปา ชอปปิ้ง ร้านขายของที่ระลึก ศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ต่อปีอยู่ที่ 10-14% หากไม่มีผลกระทบทางการเมือง การดำเนินการของ เมดิคัลทัวริสซึม คลัสเตอร์จะตอกย้ำให้ไทยผงาดขึ้นเป็นศูนย์กลางการให้บริการทางการแพทย์ของโลกกได้ภายในอีก 5 ปี ข้างหน้า
ปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยกว่าปีละ 14 ล้านคน เป็นกลุ่มที่มาเพื่อรักษาพยาบาลและครอบครัวรวมแล้วราว 2 ล้านคน ขณะที่ สิงคโปร์ มีเพียง 4 แสนคน อินเดีย 3 แสนคน แต่เติบโตปีละ 20%
ตลาดสำคัญที่ควรบุกมี 7 ตลาด แบ่งเป็นตลาดเดิม 5 ตลาด คือ 1.ตะวันออกกลาง 2.อเมริกา/แคนาดา 3.ยุโรป 4.เอเชีย/ญี่ปุ่น และ 5.อาเซียน ส่วน 2 ตลาดใหม่ที่น่าสนใจ คือ แอฟริกาตะวันออก และ รัสเซีย เพราะเป็นประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่เติบโตสูง
ทางด้าน นายสุรพล ศรีตระกูล นายกแอตต้า กล่าวว่า สถานการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มดีขึ้น 7 เดือนเติบโต 13% คาดไตรมาสสุดท้ายฟื้นเป็นปกติ โดยตลาดที่เพิ่มจำนวนสูงมาก ได้แก่ รัสเซีย สแกนดิเนเวีย ยุโรป ส่วนญี่ปุ่น ยังไม่ฟื้น เพราะไทยยังประกาศใช้ พ.รก.ฉุกเฉิน
|
|
|
|
|