Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน29 สิงหาคม 2553
“เอ็มพิคเจอร์ส” ขยายพันธมิตร คาดปีนี้โกย850ล.             
 


   
search resources

Films
เอ็ม พิคเจอร์ส, บจก.




“เอ็มพิคเจอร์ส” เร่งขยายตลาดบันเทิง ควานหาพันธมิตรร่วมมือมากขึ้น เผยปีนี้ขยายตลาดศูนย์เช่าได้มาก มั่นใจปีนี้รายได้รวมทะลุ 850 ล้านบาท

นายเผด็จ หงษ์ฟ้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มพิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯวางนโยบายในการดำเนินธุรกิจโดยจะมุ่งเน้นการทำตลาดภาพยนตร์ในหลายประเภท ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งเก่าใหม่ เพื่อให้ฐานตลาดกว้างมากขึ้น

โดยเฉพาะในส่วนของภาพยนตร์ไทยนั้น มีแผนที่จะเพิ่มพันธมิตรมากขึ้นกว่าเดิม จากขณะนี้ที่บริษัท มี 2 บริษัทคือ บริษัท เอ็ม 555 จำกัด ที่ร่วมมือกับทาง “เป็ด-เชิญยิ้ม” เพื่อสร้างภาพยนตร์แนวตลก สนุกสนาน และบริษัท เอ็ม 36 จำกัด ซึ่งล่าสุด ทางเอ็มพิคเจอร์สฯ ได้ร่วมมือกับทางบริษัท มหากาพย์ จำกัด ของ นพพร วาทิน เพื่อสร้างภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่อีกเรื่องของปีนี้คือเรื่อง “ซามูไร อโยธยา”

ขณะเดียวกันในส่วนของธุรกิจศูนย์เช่าหนังนั้น ในปีนี้บริษัทฯได้ทำการขยายช่องทางในส่วนของตลาดศูนย์ได้อีกมากกว่า 300 แห่ง สาเหตุที่ขยายได้มาก เพราะว่าปีนี้ตลาดศูนย์เช่ามีการเติบโตที่ดี ผู้บริโภคหันมาดูหนังที่บ้านมากขึ้น เพราะจากปัญหาความไม่สงบของบ้านเมืองช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้คนอยู่บ้านมากขึ้น จึงพักผ่อนด้วยการดูหนังที่บ้านมากขึ้นนั่นเอง

“แต่แม้ว่าตลาดศูนย์เช่าจะดีขึ้นก็ตาม แต่ปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์หนังก็ยังมีอยู่ตลอด ยังไม่หมดไป โดยปีนี้บริษัทฯได้นำภาพยนตร์เข้ามาทำตลาดรวม 72 เรื่อง เป็นภาพยนตร์ไทย 12 เรื่อง เป็นภาพยนตร์ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 42 เรื่อง” นายเผด็จกล่าว

ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 850-880 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 100 กว่าล้านบาท จากรายได้ปีก่อนที่มีอยู่ประมาณ 750 ล้านบาท เพราะว่าตลาดรวมด้านบันเทิงเติบโตดีทั้งจากโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์และจากโรงภาพยนตร์

สำหรับรายได้ในปัจจุบันของบริษัทฯ แบ่งสัดส่วนแต่ละช่องทางได้ดังนี้ รายได้จากศูนย์เช่า 35% และรายได้จากการจำหน่ายภาพยนตร์ในรูปแบบวีซีดีและดีวีดี 65%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us