|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“เอ็มพิคเจอร์ส” เร่งขยายตลาดบันเทิง ควานหาพันธมิตรร่วมมือมากขึ้น เผยปีนี้ขยายตลาดศูนย์เช่าได้มาก มั่นใจปีนี้รายได้รวมทะลุ 850 ล้านบาท
นายเผด็จ หงษ์ฟ้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มพิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯวางนโยบายในการดำเนินธุรกิจโดยจะมุ่งเน้นการทำตลาดภาพยนตร์ในหลายประเภท ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งเก่าใหม่ เพื่อให้ฐานตลาดกว้างมากขึ้น
โดยเฉพาะในส่วนของภาพยนตร์ไทยนั้น มีแผนที่จะเพิ่มพันธมิตรมากขึ้นกว่าเดิม จากขณะนี้ที่บริษัท มี 2 บริษัทคือ บริษัท เอ็ม 555 จำกัด ที่ร่วมมือกับทาง “เป็ด-เชิญยิ้ม” เพื่อสร้างภาพยนตร์แนวตลก สนุกสนาน และบริษัท เอ็ม 36 จำกัด ซึ่งล่าสุด ทางเอ็มพิคเจอร์สฯ ได้ร่วมมือกับทางบริษัท มหากาพย์ จำกัด ของ นพพร วาทิน เพื่อสร้างภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่อีกเรื่องของปีนี้คือเรื่อง “ซามูไร อโยธยา”
ขณะเดียวกันในส่วนของธุรกิจศูนย์เช่าหนังนั้น ในปีนี้บริษัทฯได้ทำการขยายช่องทางในส่วนของตลาดศูนย์ได้อีกมากกว่า 300 แห่ง สาเหตุที่ขยายได้มาก เพราะว่าปีนี้ตลาดศูนย์เช่ามีการเติบโตที่ดี ผู้บริโภคหันมาดูหนังที่บ้านมากขึ้น เพราะจากปัญหาความไม่สงบของบ้านเมืองช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้คนอยู่บ้านมากขึ้น จึงพักผ่อนด้วยการดูหนังที่บ้านมากขึ้นนั่นเอง
“แต่แม้ว่าตลาดศูนย์เช่าจะดีขึ้นก็ตาม แต่ปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์หนังก็ยังมีอยู่ตลอด ยังไม่หมดไป โดยปีนี้บริษัทฯได้นำภาพยนตร์เข้ามาทำตลาดรวม 72 เรื่อง เป็นภาพยนตร์ไทย 12 เรื่อง เป็นภาพยนตร์ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 42 เรื่อง” นายเผด็จกล่าว
ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 850-880 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 100 กว่าล้านบาท จากรายได้ปีก่อนที่มีอยู่ประมาณ 750 ล้านบาท เพราะว่าตลาดรวมด้านบันเทิงเติบโตดีทั้งจากโฮมเอนเตอร์เทนเมนท์และจากโรงภาพยนตร์
สำหรับรายได้ในปัจจุบันของบริษัทฯ แบ่งสัดส่วนแต่ละช่องทางได้ดังนี้ รายได้จากศูนย์เช่า 35% และรายได้จากการจำหน่ายภาพยนตร์ในรูปแบบวีซีดีและดีวีดี 65%
|
|
|
|
|