Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มิถุนายน 2530








 
นิตยสารผู้จัดการ มิถุนายน 2530
เอเลนมา บอกความสำคัญของการตรวจสอบประวัติ             
 

   
related stories

แก๊งเครดิตการ์ดปลอมผยองโกงไปแล้ว 1,000 ล้านบาท

   
search resources

Credit Card
เอเลนมา




กรณีของ เอเลนมา เป็นกรณีที่สะท้อนให้เห็นว่า ถ้าจะจัดการลงโทษตามความผิดฐานฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ (บัตรเครดิต) ของผู้กระทำความผิดให้เข็ดหลาบและก็น่าที่จะเซ็กประวัติของอาชญากรเศรษฐกิจระดับนานาชาติประเภทนี้ให้ถ่องแท้ เพราะก็อาจจะเป็นไปได้ว่า พวกนี้เคยถูกกระทำผิดแบบเดียวกันมาแล้วจากประเทศอื่นแล้วหลบหนีพร้อม ๆ วาดลวดลายเดิมในประเทศไทย

เอเลนมา หรือมาคิมซู หรือคิมซูมา มนุษย์หลายชื่อคนนี้ถือพาสปอร์ตแสดงตัวว่าเป็นคนฮ่องกง เขาอายุเพิ่งจะ 24 ที่อยู่ในพาสปอร์ตระบุบว่าเขาพำนักอาศัยอยู่ที่เลขที่ 14-21 เองฮ่องทาวเวอร์ทางด้านฝั่งเกาลูนของฮ่องกง

ภายหลังเดินทางข้ามมาในประเทศไทยหลายเดือน วันที่ 17 สิงหาคมปีที่แล้วเอเลนมาก็ได้ไปติดต่อขอซื้อเครื่องหนังจากร้านขายเครื่องหนังของมาลินี วงศ์ลี้เจริญ เขาตกลงซื้อกระเป๋าหนังแบบหีบ 2 ใบ ราคา 2000บาท กระเป๋าหนังสำหรับใส่ธนาบัตรสองอีก 1 ใบ ราคา 370 บาท

ถึงตอนที่จะต้องจ่ายเงิน เอเลนมา ก็ควักบัตรเครดิตเชลแมนฮัตตันของมิชเตอร์เซ็ง ไลวา ออกมาเพื่อช่ำระค่าเครื่องหนัง 3 ชิ้น ที่รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,370 บาท อาจตัวว่าเขาคือมิชเตอร์เซ็ง ไลวา ผู้เป็นเจ้าของบัตรอย่างน่าตาเฉย และเขาก็ลงชื่อตามลายเซ็นของมิชเตอร์เซ็งไลวา ในใบบันทึกรายการขายหรือเซลสลิปของธนาคารกสิกรไทยที่ใช้กับบัตรเครดิตเซสแมนฮันตันเป็นหลักฐานได้อย่างแนบเนียน

แต่ก็คงจะเป็นความซวยของเอเลนมา มาลินี วงศ์ลี้เจริญ เจ้าของร้านเครื่องหนังตรวจสอบพบเสียก่อนว่า คนฮ่องกงที่มาขอซื้อเครื่องหนังจากเธอคนนี้ไม่มิชเตอร์เซ็ง ไลวา เนื่องจากบัตรเครดิตเลขหมายเดียวกันที่เป็นของมิชเตอร์เซ็ง ไลวา เพิ่งจะแจ้งว่าถูกลักขโมย ไปและธนาคารเซลแมนฮันตันเจ้าของบัตรยกเลิกการใช้บัตรเรียบร้อยแล้ว

แทนที่จะได้เครื่องหนังไปใช้ฟรี ๆ ปล่อยให้เจ้าของร้านเครื่องหนัง ธนาคารเซสแมนฮันตัน เจ้าของบัตรและธนาคารกสิกรไทยเจ้าของเซลสลิปต้องเสียหาย เอเลนมา ก็เลยต้องออกจากร้านด้วยมือเปล่า ตรงแน่วเข้าห้องขังโรงพักปทุมวันโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปด้วย

คดีนี้เอเลนมาให้การรับสารภาพ

สอบสวนเสร็จรุ้งขึ้นวันที่ 18 สิงหาคม 2529 ตำรวจก็ให้เอเลนมา ได้รับการประกันตัวออกไป

แล้วเอเลนมาก็หนีประกันตัวเข้ากีบเมฆ

ต่อมาจากการส่งภาพถ่ายและซื่อไปตรวจสอบประวัติโดยบริษัทเครดิตการ์ดชั้นนำในประเทศไทยแห่งหนึ่ง ก็ พบว่าเฮเลนมา คนนี้เป็นตัวแสบ มาก ๆ ของขบวนการปลอมแปลงเครดิตการ์ด สร้างผลงานชั่ว ๆ เอาไว้หลายประเทศ และล่าสุดก็เพิ่งหนีคดีปลอมแปลงเครดิตการ์ดและฉ้อฉลโกงมาจากประเทศสิงคโปร์ อีกทั้งก่อนหน้าที่จะไปก่อคดีไว้กับร้านขายเครื่องหนังที่ทำให้ถูกจับส่งตัวให้โรงพักปทุมวัน เฮเลนมาคนเดียวกันนี้เองที่ได้อ้างตัวว่าชื่อ มิชเตอร์ แคมเบล อาร์ เบทส์กับสุนีรัตน์ วิเศษบุญชัย และสมพงษ์ แซ่ลิ้ม 2 พนักงานของบริษัทเซนโซคอร์ปเรชั่นเพื่อขอซื้อรองเท้าคัชซู ชายจำนวน 2 คู่ ราคา 2,700 บาท และรองเท้าแตะชาย 1 คู่ ราคา 155 บาท รวมเป็นเงิน 2,855 บาท

เขาช่ำระเงินด้วยการ "รูด" บัตรอเมริกันเอ็กซเพรสของมิชเตอร์แคมเบล อาร์เบทส์

ซึ่งก็ทำได้สำเร็จเรียบร้อยไม่มีพิรุธอเทริกันเอ็กซเพรสเพิ่งจะมาตรวจสอบได้ภายหลังว่าเป็นรายการ "โกงอีกแล้ว" ก็อีกหลายวันจากนั้น

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2529 และเมื่ออเมริกันเอ็กซเพรสพบว่าผลงานชิ้นนี้เป็นผีมือของเฮเลนมา ก็เป็นช่วงที่เฮเลนมาโดนจับที่ร้านเครื่องหนังที่เฮเลนมา มาใช้บัตรปลอมเป็นมิชเตอร์เซ็ง ไลวา จริง ๆ แล้วทางอเมริกันเอ็กซเพรสก็ได้ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนถึงพฤติกรรมข้ามชาติของเฮเลนมา พร้อมกับสำทับว่าคนร้ายมีประวัติการหนีประกันมาสด ๆ ร้อน ๆ จากสิงคโปร์

แต่จนแล้วจนรอดเฮเลนมาก็ได้รับการประกันตัวในวันรุ้งขึ้นและหนีประกันอย่างที่ว่าไปแล้วข้างต้น

ปล่อยให้ตำรวจไทยทั้งหลาย "หน้าม้าน " ไปตาม ๆ กัน!!!

เฮเลนมาเพิ่งจะถูกจับตัวได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2530 เป็นผลงานของสำนักกิจกรรมพิเศษของเอเม็กซ์ ร่วมมือกับตำรวจกองปราบปราม สืบสวนจนทราบแหล่งกบดานและลงมือจับตัวด้วยการขับรถไล่ ติดามกันหลายสิบโลกว่าจะได้ตัวมาส่งท้องที่

ก็เป็นที่เชื่อกันว่า ถ้าได้สอบสวนผู้ต้องหารายนี้ กันอย่างจริงจังพร้อมตรวจสอบข้อมูลแหล่งต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างละเอียดแล้ว บางที่อาจจะพบว่าเฮเลนมา คนนี้เที่ยวใช้เครดิตการ์ดกว้างขวางแค่ไหน พร้อมทั้งอาจจะดึงเชี่ยมโยงไปถึงคนอื่น ๆ ในแก็งมิจฉาชีพแก็งนี้ ได้อีกด้วย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us