ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มีต่อการดำเนินงานทางการตลาดของกิจการต่างๆ ทำให้กลยุทธ์การตลาดแบบอินเทอร์เน็ต มาร์เกตติ้ง เป็นหนึ่งในความหวังที่จะช่วยให้ยอดการจำหน่ายและผลประกอบการของกิจการดีขึ้น

เหตุผลที่ทำให้การตลาดแบบอินเทอร์เน็ต มาร์เกตติ้ง เหมาะสมกับช่วงเศรษฐกิจขาลง ประการแรก ในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี เงินหายาก ต้องใช้จ่ายอย่างสมเหตุสมผล ผู้บริโภคจะเริ่มเชื่อถือในสิ่งที่ตนได้ยินจากงานการตลาดน้อยลงไปจากช่วงที่เศรษฐกิจดี เงินทองหาง่าย พร้อมกันนั้น ผู้บริโภคยังต้องการจะค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม จนกว่าจะมีความแน่ใจว่าสิ่งที่จะตัดสินใจซื้อหานั้นคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ซึ่งการตลาดแบบอินเทอร์เน็ต มาร์เกตติ้ง จะช่วยสนับสนุนงานการตลาดหลักหรือการตลาดดั้งเดิมในมุมนี้ได้

ประการที่สอง การตลาดแบบอินเทอร์เน็ต มาร์เกตติ้งสามารถสร้างออนไลน์วิดีโอ ที่จัดวางไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสมบนการตลาดแบบอินเทอร์เน็ต มาร์เกตติ้ง จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการเติมเต็มได้อย่างเหมาะเจาะ โดยออนไลน์วิดีโอส่วนใหญ่เป็นการให้ข้อมูลโดยบุคคล ไม่ใช่จากผู้ประกอบการโดยตรง ทำให้เกิดมุมมองที่แตกต่างด้านความน่าเชื่อถือกับกลุ่มเป้าหมายได้

ประการที่สาม ผู้ประกอบการที่นำเอาการตลาดแบบอินเทอร์เน็ต มาร์เกตติ้งมาใช้ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ เริ่มมีความตระหนักว่าการให้ข้อมูลต่างๆ จะต้องเป็นข้อมูลความจริง เพื่อจะได้สร้างความน่าเชื่อถือและความมั่นใจที่จะใช้การตลาดแบบอินเทอร์เน็ต มาร์เกตติ้งในระยะยาว

ในปี 2010 มีการคาดหมายว่าการตลาดแบบอินเทอร์เน็ต มาร์เกตติ้งที่น่าจะนำมาใช้เป็นเทคนิคทางการตลาดมากขึ้น ได้แก่

เทคนิคแรกคือ โมบายมาร์เกตติ้ง ซึ่งเป็นเทคนิคในระดับตลาดโลกที่เริ่มได้รับความสนใจจากนักการตลาดของกิจการต่างๆ มากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพียงแต่การใช้ประโยชน์จากโมบายมาร์เกตติ้งของผู้ประกอบการต่างๆ ยังเป็นไปอย่างจำกัดและยังไม่เต็มที่

โมบายมาร์เก็ตติ้ง มีความคึกคัก เมื่อไม่นานมานี้ ตามการคึกคักของการใช้ไอ-โฟนของค่ายแอปเปิ้ล จนเริ่มมีบทบาทในการเป็นช่องทางการตลาดไฮเทคมากขึ้น

เทคนิคที่สองคือ การโฆษณาทาง Facebook ซึ่งเริ่มมีความสำคัญกับการตลาดแบบอินเทอร์เน็ต มาร์เก็ตติ้งเมื่อไม่นานมานี้ จากการปรับตัวและขยายบทบาทของ Facebook จนสามารถเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันของลูกค้าในโลกได้มากขึ้น

คาดกันว่าในปี 2010 นี้ การโฆษณาทางตลาดผ่าน Facebook จะมีความสามารถในการสร้างผลกำไรหรือผลตอบแทนที่คุ้มค่าแก่การลงทุนมากขึ้น จากจำนวนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนั้น Twitter Marketing ซึ่งในปีที่แล้ว Twitter เป็นช่องทางที่มีคนเข้าไปเยี่ยมชมมากที่สุดเว็บหนึ่งของโลก ทำให้ความสามารถในการทำยอดขายของผู้ประกอบการผ่านทาง Twitter เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ามาก จากการที่สามารถเข้าไปแทรกอยู่ในการใช้ชีวิตประจำวันบนโลกอินเทอร์เน็ตได้ไม่ต่างจาก Facebook

เทคนิคที่สาม คือ วิดีโอมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งพบว่าหลังจากที่ YouTube ได้ถูกขายให้กับกูเกิ้ลแล้ว ช่องทางการตลาดแบบนี้กลายเป็นช่องทางที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นแบบผิดหูผิดตา และกลายเป็นเสิร์จเอ็นจิ้นอันดับ 2 ของโลกรองจากกูเกิ้ลไปแล้ว

แม้ว่าการใช้ประโยชน์ทางการตลาดบนวิดีโอ ออนไลน์จะยังกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มของเอ็นเทอร์เทนเม้นท์เป็นส่วนใหญ่ แต่เป็นที่คาดกันว่าวิดีโอมาร์เก็ตติ้งจะขยายออกไปยังกลุ่มผู้ประกอบการอื่นมากขึ้นในปีนี้

การตลาดแบบอินเทอร์เน็ต มาร์เก็ตติ้ง นับวันจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของการตลาดของผู้ประกอบการต่างๆ ซึ่งจากการสำรวจล่าสุดพบว่า บริษัทใน 500 อันดับของฟอร์จูนล้วนแต่มีกลยุทธ์การตลาดที่เรียกว่าการตลาดแบบอินเทอร์เน็ต มาร์เก็ตติ้งกันหมดแล้ว