ตลาดรถหรูเมืองไทยและการขับเคี่ยวกันระหว่างบีเอ็มดับเบิลยู และเมอร์เซเดส-เบนซ์ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่จากเยอรมัน คึกคักขึ้นอีกครั้ง บีเอ็มฯ ได้อาวุธใหม่ ซีรีส์ 5 โมเดลเชนจ์ พร้อมแผนตลาดใหม่จับพันธมิตรบิ๊กอสังหาริมทรัพย์ หวังขย่มตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง ซึ่งเบนซ์ทำตลาดด้วยโมเดล อี-คลาส และเพิ่งปรับโฉมไปเมื่อปีที่ผ่านมา ท่ามกลางแผนการไล่ล่าตำแหน่งผู้นำตลาดของค่ายบีเอ็มฯ ในปีนี้ และผลการเดินงานช่วง 6 เดือนแรกของปี ตัวเลขการเติบโตของบีเอ็มดับเบิลยูก็สูงถึง 59.8% ขณะที่ค่ายคู่แข่งมีอัตราการเติบโตเพียง 0.4% จากตลาดรถยนต์รวมที่มีการเติบโตกว่า 54%

แผนการไล่ล่าตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์ระดับหรูของบีเอ็มดับเบิลยู เริ่มส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้หลังจากทำยอดขาย 6 เดือนได้ถึง 1,408 คัน สูงกว่ายอดขาย 6 เดือนของช่วงเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมาเกือบเท่าตัว โดยทำยอดขายได้ 881 คัน และตามหลังเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ทำยอดขายได้ 2,226 คัน ซึ่งถือว่าห่างไม่มากแล้ว เพราะในปี 2552 ช่วงครึ่งปีแรก เมอร์เซเดส-เบนซ์มียอดขายนำบีเอ็มฯ อยู่ถึงราว 1,400 คัน

หลังการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 ในตลาดรถหรูขนาดซูเปอร์ซาลูน และการปรับแผนด้านผลิตภัณฑ์ ด้วยการส่งซีรีส์ 5 ราคาพิเศษเจาะตลาดฟรีต เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ตัวเลขยอดขายบีเอ็มฯ ดีขึ้น และการเลื่อนเปิดตัวรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ให้เร็วขึ้น เพื่อเจาะตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง ก็เพื่อเปิดเกมบุกในช่วงครึ่งหลังปี 2553 ซึ่งตลาดรถยนต์โดยรวม และรถยนต์ระดับหรูมีสัญญาณเติบโตมากขึ้น

'จากความสำเร็จอย่างท่วมท้นของ BMW ซีรีส์ 5 ในตลาดเมืองไทยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมันได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับเซกเมนต์ซาลูนระดับผู้บริหาร ทั้งในด้านประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมัน ความหรูหราสะดวกสบาย และอารมณ์การขับขี่สไตล์สปอร์ตซาลูน เราจึงตัดสินใจเลื่อนแผนเปิดตัว BMW ซีรีส์ 5 ใหม่ให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะรุ่นประกอบในประเทศ เพื่อที่จะให้เกิดความต่อเนื่องของตลาด อีกทั้งเป็นการต่อยอดความสำเร็จบนรากฐานที่มั่นคงที่รุ่นเดิมได้สร้างไว้' มิคาเอล คอร์ดิส ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าว

สำหรับแผนการเปิดตัวรถยนต์ซีรีส์ 5 ใหม่ จะดึงเอาคาแรกเตอร์ของรถรุ่นนี้ที่โดดเด่นทั้งในด้านเทคโนโลยีทันสมัยและดีไซน์ที่หรูหราสง่างาม ด้วยการจัดงาน BMW Xpo 2010 ปลายไตรมาสที่ 3 นี้ พร้อมกับการสร้างพันธมิตรด้านโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบ mixed-use ที่ประกอบไปด้วยที่พักอาศัยเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก โครงการที่มีสถาปัตยกรรมที่หรูหราสง่างามโดดเด่นที่สุดในกรุงเทพฯ ซึ่งบีเอ็มฯ มองว่า สอดรับกับพันธกิจหลักทางด้านดีไซน์ของบีเอ็มดับเบิลยูได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ดี ก่อนจะถึงเวอร์ชั่นผลิตในประเทศ บีเอ็มฯ ส่งซีรีส์ 5 ใหม่ รุ่นนำเข้าทั้งคัน หรือ CBU เข้ามาทำตลาดก่อนเพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มที่ต้องการรถยนต์ก่อน โดยมีด้วยกัน 2 รุ่น ประกอบด้วย 535i ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตรแบบ 6 สูบแถวเรียงรุ่นใหม่ล่าสุด กำลังสูงสุดถึง 306 แรงม้า ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 7,599,000 บาท และรุ่น 530d ใช้เครื่องยนต์ดีเซลแบบ 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุดถึง 245 แรงม้า ราคา 7,299,000 บาท

ดังนั้น ด้านผลิตภัณฑ์แล้ว นอกจากซีรีส์ 5 ใหม่แล้ว บีเอ็มดับเบิลยูยังได้เสริมไลน์ผลิตภัณฑ์ในเซกเมนต์อื่นๆ ของตลาดรถหรูอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น 320d Sport ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ รวมถึง X1 รถยนต์กลุ่มครอสโอเวอร์ และ Z4 รุ่น35iS สำหรับตลาดรถยนต์สปอร์ต

นอกจากตัวผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่บีเอ็มฯ วางกลยุทธ์ให้มีความสดใหม่อยู่ตลอดเวลาแล้ว บีเอ็มดับเบิลยูได้มีการปรับกลยุทธ์ด้านช่องทางการจำหน่ายอีกด้วย จากเดิมเป็นการขยายด้วยโชว์รูมขนาดใหญ่ ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบของโชว์รูมเอาต์เลตที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งโชว์รูมบางแห่งอาจไม่เน้นการขาย แต่เป็นการให้บริการ และอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู เช่น โชว์รูมแบบสยามพารากอน เป็นต้น ทั้งนี้ ปัจจุบันบีเอ็มดับเบิลยูมีเอาต์เลตจำนวน 17 แห่ง และมีแผนงานจะเปิดใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีก 2 แห่งภายในสิ้นปีนี้