*ใครจะไปเชื่อว่า 'โปรเจกเตอร์' คือตลาดอนาคตที่สดใสแบบสุดๆ
* มาร์เกตไซส์ที่ยังเติบโตได้อีกมาก กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนถวิลหา
* ยักษ์ใหญ่พาเหรดกันเก็บเกี่ยวส่วนแบ่งตลาดกันอย่างสนุกมือ
* เทคโนโลยีครั้งแรกในโลกกำลังทยอยเปิดตัวบนโปรเจกเตอร์
สินค้าที่อัตราการเติบโตสูงถึง 600% ย่อมเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเทน้ำหนักให้อย่างมากในการทำตลาด ยิ่งในตลาดยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดครองตลาดได้แบบเบ็ดเสร็จ แต่เป็นการแข่งขันกันอย่างสูสี ย่อมถือเป็นโอกาสให้เกิดการขับเคี่ยวกันอย่างสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
หนึ่งในสินค้าไอทีที่ดูจะมีอนาคตที่สดใสผลิตภัณฑ์หนึ่ง น่าจะต้องยกให้ 'โปรเจกเตอร์' เห็นได้ชัดว่าปีนี้ถือเป็นปีที่ตลาดโปรเจกเตอร์มีการเปิดตัวออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ผลิตโปรเจกเตอร์รายใหญ่ ต่างเห็นตลาดที่มีอนาคตและยังมีโอกาสการเติบโตที่มากมาย
โปรเจกเตอร์ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่ซัมซุงให้ความสำคัญอย่างมากในการทำตลาดในแต่ละประเทศ เนื่องจากเป็นการเติมเต็มโพซิชันนิ่งของซัมซุงในการเป็น 'World Best World Large'
'ตลาดโปรเจกเตอร์ใหญ่พอที่ซัมซุงจะทุ่มงบการลงทุนในการผลักดันสู่การเป็นผู้นำตลาดนี้'
เป็นคำกล่าวของ บุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
สำหรับประเทศไทยนั้น ซัมซุงซุ่มทำตลาดตั้งแต่ปี 2552 ที่ผ่านมา แต่เป็นการเน้นสร้างตลาดในงานโปรเจกต์เป็นหลัก แต่สำหรับปี 2553 นั้น ซัมซุงขนผลิตภัณฑ์โปรเจกเตอร์แบบครบไลน์เข้ามาทำตลาดครบทุกเซกเมนต์
ซัมซุงมองว่าภาพรวมของตลาดโปรเจกเตอร์ทั่วโลกจะมีการเติบโตขึ้น 40% และเป็นตลาดที่มีการเติบโตไปอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต ซึ่งตอบรับกับตลาดอุตสาหกรรมไอทีในประเทศไทยที่มีอัตราการเติบโตสูงเช่นกัน โดยแบรนด์ต่างๆ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีศักยภาพสูง พร้อมตอบสนองความต้องการสมบูรณ์แบบสำหรับผู้ใช้งาน ส่งผลให้ซัมซุงได้มีการวิจัยและเล็งเห็นโอกาสในการก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์โปรเจกเตอร์ที่คาดว่าปีนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 2,600 ล้านบาท หรือโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 15% ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด อีกทั้งซัมซุงยังเล็งเห็นถึงศักยภาพของธุรกิจโปรเจกเตอร์ในการเป็นหนึ่งตัวผลักดันที่สำคัญสำหรับเติมเต็มธุรกิจ Visual Display Division ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
แนวทางการดำเนินธุรกิจโปรเจกเตอร์ ซัมซุงวางแผนในการขยายฐานตลาดไปยังกลุ่มร้านค้าย่อย (Corporate Retail) มากขึ้น โดยมีสัดส่วน 45% สำหรับร้านค้าองค์กร และ 35% สำหรับกลุ่มร้านค้าย่อย และ 20% สำหรับกลุ่มร้านค้าในห้างสรรพสินค้า
สำหรับผลิตภัณฑ์ซัมซุงโปรเจกเตอร์แบ่งออกตามลักษณะการใช้งาน ได้แก่ ดาต้า โปรเจกเตอร์ F ซีรีส์ เครื่องแรกของโลกที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 50,000 ชั่วโมง ด้วยหลอดไฟแบบประหยัดไฟพิเศษ โฮมโปรเจกเตอร์ ที่ให้ภาพคมชัดในทุกสภาพแสงด้วยเทคโนโลยี DLP ช่วยให้แสงสว่างจากหลอด LED ได้มากกว่าบนจอภาพ DMD (Digital Mirror Device) สามารถเข้าถึงความบันเทิงต่างๆ เพียงเชื่อมต่อ USB ด้วยโปรแกรมเล่นมัลติมีเดียในตัว สามารถรับชมรับฟัง วิดีโอ เพลง และภาพต่างๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องต่อกับคอมพิวเตอร์ พ็อกเกตโปรเจกเตอร์ M ซีรีส์ ให้ภาพคมชัดสมบูรณ์แบบสมจริงเป็นธรรมชาติ พร้อมฟังก์ชั่น Office Viewer ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น เพียงเชื่อมต่อ USB ก็สามารถเชื่อมข้อมูลสู่ MS Application โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ และพิโคโปรเจกเตอร์ H ซีรีส์ ทันสมัยด้วยดีไซน์พร้อมขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 130 กรัม จึงสามารถพกพาไปฉายในห้องต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว และใช้งานมัลติมีเดียได้อเนกประสงค์ เพียงแค่เชื่อมต่อ USB ทั้งดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกม ด้วยเทคโนโลยี World Best Brightness LED Pocket ความสว่างที่ 300 ANSI LED Pocket พร้อมภาพที่คมชัดแบบธรรมชาติ
ทั้งนี้ ซัมซุงมีการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ถึง 8 ซีรีส์ ได้แก่ A, F, D, L, M, P, U และ H เพื่อตอบสนองทุกการใช้งานในสำนักงาน ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ และกลุ่มร้านค้าย่อย โดยมีการนำเสนอสินค้าใหม่กว่า 25 รุ่น โดยมีนวัตกรรมไฮไลต์ 'คัลเลอร์ แอลอีดี โปรเจกเตอร์' ซึ่งเป็นที่สุดและหนึ่งเดียวในโลก ด้วยศักยภาพการใช้งานยาวนานถึง 50,000 ชั่วโมง
'โปรเจกเตอร์ซัมซุงสามารถตอบสนองทุกความต้องการในทุกธุรกิจเชิงพาณิชย์และสถาบันการศึกษาอย่างครบสูตร' บุญเลิศ กล่าว
เอปสันทำตลาด
รักษาแชมป์ปีที่ 10
ก่อนหน้านี้ 'เอปสัน' ซึ่งถือเป็นค่ายผู้นำในตลาดโปรเจกเตอร์ที่ครองสถิติทำยอดขายสูงสุด 9 ปีติดต่อกัน กำลังเดินเกมเพื่อรักษาแชมป์เอาไว้ให้ได้ต่อไป โดยถือว่าปี 2553 เป็นปีที่ท้าทายอย่างมากสำหรับโปรเจกเตอร์ของเอปสันไม่เพียงตลาดในประเทศไทย แต่ในทุกตลาดทั่วโลก
ในส่วนของประเทศไทยนั้น เอปสันจะเพิ่มน้ำหนักไปที่ตลาดเครื่องรุ่นใหญ่มากขึ้น นอกเหนือจากการออกสินค้าใหม่มากระตุ้นตลาดเครื่องขนาดเล็กและกลาง เอปสันได้มองกระแสความนิยมในการใช้โปรเจกเตอร์ขณะนี้คืออินเตอร์แอกทีฟ โปรเจกเตอร์ และโปรเจกเตอร์ระยะฉายสั้น กำลังเติบโตขึ้นอย่างมากในตลาดสถาบันการศึกษา ซึ่งเอปสันได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติทั้งสองอย่างในเครื่องเดียวกัน โดยโปรเจกเตอร์ประเภทนี้จะสร้างประสบการณ์การเรียนการสอนแบบใหม่ ไม่มีการใช้กระดานดำอีกต่อไป ขอแค่มีสกรีนหรือผนังสีขาวเท่านั้น
เอปสันได้มีการเปิดตัวโปรเจกเตอร์พร้อมกันถึง 8 รุ่นเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เจาะทุกตลาดที่มีความน่าจะเป็น บวกกับสองเทคโนโลยีหลักในโปรเจกเตอร์ของเอปสันคือ เทคโนโลยี 3LCD และหลอดภาพ E-TORL
เอเซอร์บันเทิงพกพา
ฉายภาพได้แบบ 3 มิติ
เอเซอร์ได้มีการส่งโปรเจกเตอร์ใหม่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย รุ่นล่าสุด ดีแอลพี โปรเจกเตอร์รุ่น P3251 มีขนาดกะทัดรัด เล็กกว่ากระดาษ A4 สามารถพกพาไปได้ทุกที่ ด้วยน้ำหนักเบา 1.2 กิโลกรัม มีฟีเจอร์ฟังก์ชั่นที่รองรับการทำงานทุกอย่าง รวมถึงการรับชมความบันเทิงมัลติมีเดียความละเอียดสูง และสามารถแสดงภาพได้อย่างง่ายดายด้วยการเชื่อมต่อผ่าน USB Reader และ SD Card อายุการใช้งานหลอดภาพสูงสุด 5,000 ชั่วโมง
ด้านซันโยก็มีโปรเจกเตอร์ใหม่รุ่น PLC-WM5500 ที่เพิ่งทำตลาดเมื่อไม่นานมานี้ เป็นโปรเจกเตอร์ที่ให้ความสว่างสูงที่สุดในตลาดโปรเจกเตอร์ เหมาะกับการใช้งานห้องประชุมและห้องบรรยายขนาดใหญ่ รวมถึงบริเวณติดตั้งป้ายดิจิตอล และมีจุดเด่นที่ระบบภาพแบบไวด์สกรีนที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานกับจอภาพคอมพิวเตอร์และระบบเครื่องเล่นวิดีโอ
|