ความได้เปรียบด้านช่องทางการขายของบริษัทประกันที่อยู่ในเครือเดียวกับธนาคาร ด้วยการขายผ่านแบงก์แอสชัวรันส์ และนโยบายของแบงก์ในยุคนี้ที่หันมาเน้นการหารายได้จากค่าธรรมเนียมมากขึ้นจากเดิมที่เน้นรายได้จากส่วนต่างดอกเบี้ยเป็นหลัก ทำให้เราได้เห็นการแข่งขันที่สูงยิ่งขึ้นของธุรกิจประกัน นอกจากนี้ยังได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ ของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดูผิวเผินเหมือนเป็นเงินฝากระยะยาว แต่แท้จริงแล้ว คือ ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ระยะยาวที่ถูกนำเสนอในรูปแบบของเงินออม เพื่อให้ลูกค้าไม่เกิดการปฏิเสธเมื่อมีการนำเสนอจากพนักงานขาย
การเติบโตของเบี้ยประกันปีแรกผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์อย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าช่องทางดังกล่าวเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้เบี้ยประกันภัยปีแรกมาจากช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์กว่า 55% มาจากตัวแทน 37% และมาจากช่องทางอื่นๆ 8% ในขณะที่เบี้ยประกันภัยต่อส่วนใหญ่ยังมาจากช่องทางตัวแทนเป็นหลักถึง 61% สะท้อนได้ว่าฐานลูกค้าเก่าของธนาคารที่มีอยู่มหาศาลได้ถูกนำมาต่อยอด เพื่อสร้างยอดขายต่อให้กับธุรกิจประกันได้เป็นอย่างดี
สำหรับค่ายไทยพาณิชย์ได้รับการยอมรับว่าเป็นเบอร์ 1 ในช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ โดยมีผลิตภัณฑ์ของไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิตเข้ามาขายอยู่ในธนาคาร เป็นต้น ในขณะที่กสิกรไทยในระยะหลังก็เร่งสปีดตัวเองเพื่อไล่ตามผู้นำตลาดให้เร็วขึ้น ด้วยการผนวกผลิตภัณฑ์เงินฝากเข้ากับความคุ้มครองในรูปแบบต่างๆ เพื่อสร้างความแตกต่างให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น ด้วยการเจาะเซกเมนต์เด็ก สำหรับพ่อแม่ที่ต้องการออมเงินให้แก่บุตรหลาน ผ่านสินค้า Pro Education ประกันอนาคตการศึกษาลูก โดยอาศัยฐานลูกค้าของธนาคารที่มีอยู่แล้วในการขยายตลาด ทำให้ในครึ่งปีแรกกสิกรไทยมีค่าเบี้ยประกันภัยปีแรก 4,827 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากปีที่แล้วที่มีค่าเบี้ยประกันภัยปีแรก 3,551 ล้านบาท แม้จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง แต่ก็ยังเติบโตอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดจากตัวเลขของสมาคมประกันชีวิตไทยที่ ณ ช่วงครึ่งปีแรกเบี้ยประกันภัยปีแรกเติบโตเพียง 9% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่เติบโตถึง 22%
“ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ปีนี้ธุรกิจประกันมีโอกาสจะเติบโต 18-23% จากปัจจัยเรื่องผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงิน แม้จะต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจ ความไม่แน่นอนทางการเมือง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เริ่มส่งสัญญาณปรับขึ้น แต่สถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่แน่นอนในระยะหลัง ทำให้ความเสี่ยงมีมากขึ้น ก็เป็นสิ่งที่ลูกค้าตระหนัก และผลักให้ธุรกิจประกันเติบโตขึ้นอีก” ศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าว
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังที่มีปัจจัยเรื่องดอกเบี้ยนโยบายที่เริ่มขยับขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อธุรกิจประกันในแง่ของผลตอบแทน เคแบงก์จะมีการปรับผลิตภัณฑ์ เน้นการชูจุดขายด้านความคุ้มครองมากขึ้นจากเดิมที่เน้นสินค้าประกันแบบออมทรัพย์ เพื่อรักษายอดขายให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเจาะเซกเมนต์ใหม่เพิ่มเติม จากเดิมที่มีการเจาะเซกเมนต์เด็ก ในแง่การออมเพื่อการศึกษา (Pro Education)
2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวในครึ่งปีหลังจะเป็นการจัดแพ็คเก็จผนวกรวมความคุ้มครองเข้ากับเงินฝากประจำ พร้อมอัตราดอกเบี้ยสูง ซึ่งจะดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ดี เช่น เงินฝากคุ้มครองวัยซน เป็นการควบรวมเงินฝากและประกันอุบัติเหตุและค่าชดเชยรายวันจากการรักษาพยาบาล 6 โรคฮิตในเด็กเข้าด้วยกัน สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1-15 ปี ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตทั่วไปจากอุบัติเหตุ 300,000 บาท และเสียชีวิตจากการใช้รถจักรยานยนต์ 50,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุวงเงิน 20,000 บาทต่อครั้ง หรือเงินชดเชยรายวันกรณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุสูงสุดวันละ 2,000 บาทต่อวัน และในกรณีเจ็บป่วยจาก 6 โรคตามที่กำหนด 1,500 บาทต่อวัน ทั้งนี้จะต้องเปิดบัญชีเงินฝากเงินฝากประจำ 24 เดือน ที่ฝากต่อเนื่องเดือนละ 1,000-25,000 บาท ดอกเบี้ยสูงและไม่เสียภาษี เมื่อครบกำหนดจะได้รับโบนัสเพิ่มอีก 2.50% ของดอกเบี้ยที่ได้รับ โดยไม่ต้องเสียภาษีดอกเบี้ย และรับสิทธิในการชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายเดือน เดือนละ 200 บาท ตลอดอายุการฝาก 24 เดือนของเงินฝาก จากปกติกำหนดให้ชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายปี ปีละ 2,850 บาท
ส่วนอีกผลิตภัณฑ์เป็นการเจาะเซกเมนต์วัยทำงาน ในแพคเก็จสุขภาพชื่อ Pro Life 90/5...5-5-5 ที่นำประกันชีวิตแบบตลอดชีพ Pro Life 90/5 มาจัดแคมเปญคู่ไปกับอนุสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ (Health Benefit Plus) และสัญญาเพิ่มเติมทุพพลภาพ (WP Plus) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่ต้องการทำประกันชีวิตที่ได้ครอบคลุมความคุ้มครองชีวิตในระยะยาวและผลตอบแทนคืนสม่ำเสมอตลอดสัญญา และมีความคุ้มครองสุขภาพและทุพพลภาพ โดยความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพจะเป็นผลประโยชน์ชดเชยรายวัน หากต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล โดยลูกค้าที่สมัครแคมเปญนี้จะได้รับสิทธิพิเศษเปิดบัญชีเงินฝากประจำ 5 เดือน อัตราดอกเบี้ย5% ต่อปี โดยฝากได้สูงสุดไม่เกิน 5 เท่าของเบี้ยประกันที่ชำระ
ปัจจุบันเคแบงก์มีลูกค้าของธนาคารที่ซื้อประกันผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ 13% เพิ่มจากปี 2552 ที่มีอยู่ 9% ซึ่งหมายความว่ายังมีลูกค้าอีก 82% ที่ยังไม่ได้ซื้อประกัน และจะเป็นโอกาสสร้างลูกค้าใหม่ได้ในอนาคต โดยกลยุทธ์ด้านสินค้า และการปรับกระบวนการทำงานภายในและการเร่งพัฒนาทักษะทีมขาย จะช่วยผลักดันให้เบี้ยประกันภัยรวมในสิ้นปีนี้ให้เติบโตขึ้น 100% หรืออยู่ที่ 17,000 ล้านบาทตามเป้าที่ตั้งไว้ได้
|