“พาณิชย์” ปรับเป้าส่งออกปีนี้ เพิ่มเป็น 20% ขานรับ ศก.โลกฟื้นตัว แย้มกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง เดินหน้าลุยตลาดเอเชีย อาเซียน ยันบาทแข็งค่าเกาะกลุ่ม เอกชนยอมรับได้ ส่วนการค้าไทย-เขมร ยังต้องเกาะติดสถานการณ์

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับเป้าหมายตัวเลขการส่งออกในปี 2553 ใหม่จากเดิม ตั้งเป้าขยายตัว 19% เพิ่มเป็น 20% คิดเป็นมูลค่า 189,912 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากตลาดในต่างประเทศได้มีการปรับเป้าหมายเพิ่มขึ้นจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัว อาทิ สหรัฐอเมริกาจากเดิม 12% เพิ่มเป็น 20% จีนจากเดิม 30% เพิ่มเป็น 50% กลุ่มประเทศอาเซียนจาก 27.3% เพิ่มเป็น 30%

“มั่นใจว่า ส่งออกจะขยายตัวไม่น้อยกว่า 20% เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลัง กรมส่งเสริมการส่งออกมีแผนการจัดกิจกรรมการตลาด จากเศรษฐกิจโลกฟื้น และจะมุ่งเน้นไปที่เอเชีย ทั้งอาเซียน จีน ญี่ปุ่น อินเดีย รองลงมาเป็นภูมิภาคอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจ”

ทั้งนี้ ช่วงครึ่งหลังของปี ทิศทางยุทธศาสตร์การส่งออกไทยจะมุ่งเน้นไปที่เอเชีย ทั้งอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และ อินเดีย รองลงมาเป็นภูมิภาคอื่นๆ ที่มีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งตะวันออกกลาง แอฟริกา และ ละตินอเมริกา ขณะเดียวกันยังคงรักษาตลาดหลักๆ คือ สหรัฐฯ อียู และญี่ปุ่น ไปพร้อมกัน

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับตัวเลขส่งออกในแต่ละตลาด อาทิ สหรัฐฯ ปรับเป้าส่งออกขยายตัวเป็น 20% จากเดิมที่คาดไว้ 12%, อาเชียน ปรับเป้าใหม่เป็น 30% จากเดิมคาด 27.3%, จีน ปรับเป้าใหม่เป็น 50% จากเดิมคาด 30%, รัสเซีย ปรับเป้าใหม่เป็น 50% จากเดิมคาด 35%, แอฟริกา ปรับเป้าใหม่เป็น 5% จากเดิมคาด 2%

ส่วนตลาดยุโรป ญี่ปุ่น อินเดีย และตะวันออกกลาง คงเดิมที่ 11% 18% 25% และ 12% ตามลำดับ ด้านปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น เชื่อว่า เอกชนยังรับได้อยู่หากเป็นการแข็งค่าทั้งภูมิภาค

สำหรับแนวทางการผลักดันการส่งออกของประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง 2553 รมว.พาณิชย์ เตรียมจะแถลงกลยุทธ์ภายในเร็วๆ นี้ รวมถึงแนวทางการทำงานของหัวหน้ากลุ่มสินค้า หรือ เซฟออฟโปรดักส์ของสินค้าต่างๆ เพื่อผลักดันให้การส่งออกของประเทศไทยเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 19%

ส่วนภาคการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา นั้น ได้มีการสั่งการให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบปัญหาของการค้าที่ผิดปกติ แต่อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ศึกษาเพื่อให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาธุรกิจการค้าชายแดนไทยกัมพูชาและการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันโดยจะมีการเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาเร็วๆ นี้