ก.อุตฯ แนะนำ สสว.พัฒนา SMEs เน้นเรื่องราวสินค้า สร้างมูลค่าเพิ่ม ยันตอนนี้ เดินมาถูกทางแล้ว ทั้งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สวยงาม ให้ข้อมูลประวัติความเป็นมาของสินค้านั้นที่สั่งสมมานานปี จะทำให้ผู้ซื้อยินดีจะซื้อในราคาที่แพงขึ้น พร้อมแนะให้มองต้นแบบที่ญีปุ่นประสบความสำเร็จ

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงการประกวดรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2553 โดยระบุว่า การช่วยเหลือ SMEs สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินมาถูกทางแล้ว แต่ต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น เช่น ช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ SMEs ให้มีมูลค่าเพิ่ม และมีเรื่องราวน่าสนใจ ทั้งการพัฒนาบรรจุภัณฑ์สวยงาม ให้ข้อมูลประวัติความเป็นมาของสินค้านั้นที่สั่งสมมานานปี จะทำให้ผู้ซื้อยินดีจะซื้อในราคาที่แพงขึ้น การพัฒนาในลักษณะนี้ที่ญี่ปุ่นประสบผลสำเร็จมาแล้ว

นายปราโมทย์ วิทยาสุข รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ นับเป็นรางวัลระดับสากล เปรียบเสมือนตราสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความมีมาตรฐานในการบริหารจัดการ และความเป็นมืออาชีพ ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมประกวดได้ตั้งแต่วันนี้-31 สิงหาคม 2553 นี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการ สสว.เปิดเผยว่า การจัดประกวดรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ จัดมาแล้ว 2 ครั้ง ส่วนการจัดครั้งที่ 3 จะใช้ชื่อว่าการประกวดรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2553 หรือ 3rd SMEs National Awards 2010 โดยเริ่มรับสมัครตั้งแต่วันนี้ - 31 สิงหาคม 2553 จะประกาศ และมอบรางวัลในงานไทยแลนด์เอสเอ็มอีเอ็กซ์โป 2011 ที่จะจัดขึ้นช่วงต้นปีหน้า ซึ่งสสว.และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องยังมุ่งหวังว่า เวทีการประกวดนี้จะช่วยค้นหาและสร้างเสริม SMEs ต้นแบบที่ได้มาตรฐานในกลุ่มธุรกิจ SMEs จาก 4 ภาคอุตสาหกรรมหลัก 15 กลุ่มธุรกิจย่อย เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ โดยการศึกษาข้อมูลเพื่อนำมาพัฒนาตนเองอย่างมืออาชีพและพร้อมก้าวไปสู่การแข่งขันบนเวทีการค้าโลกต่อไป

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า การแข่งขันแต่ละครั้งมีส่วนสำคัญในการสร้างแรงจูงใจ และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีพัฒนาธุรกิจให้มีมาตรฐานมากขึ้นในระดับสากล โดยการประกวดครั้งแรกในปี 2549 มีธุรกิจเอสเอ็มอี สนใจสมัครเข้าร่วมประกวด จำนวน 1,016 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธุรกิจเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ และการประกวดครั้งที่ 2 จัดขึ้นในปี 2552 มีจำนวนผู้สมัครถึง 1,008 ราย โดยมีกลุ่มธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ สมัครเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวนมากที่สุด

นายพานิช เหล่าศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ กล่าวว่า การเฟ้นหาสุดยอด SMEs แห่งชาติ และการพิจารณาตัดสินรางวัลในการประกวดทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งในปีนี้ยังคงยึดถือ และนำแนวทางของเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติมาปรับใช้ เพื่อให้การพิจารณาต่างๆ มีความเหมาะสมและตรงกับวัตถุประสงค์ของกิจกรรม นอกจากนี้ การได้มาซึ่งรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ องค์กร SMEs ที่สมัครขอรับรางวัลจะต้องผ่านการตรวจประเมินองค์กรที่ละเอียดถี่ถ้วนและโปร่งใสจากคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้ง ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูงจากภาคราชการและภาคเอกชน

สำหรับการประกวดรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2553 ได้กำหนดกลุ่มธุรกิจ SMEs เป้าหมาย รวม 4 ภาคอุตสาหกรรมหลัก 15 กลุ่มธุรกิจย่อย ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมประกวดได้ตั้งแต่วันนี้-31 สิงหาคมนี้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่เว็บไซต์ของ สสว.www.sme.go.th และนำส่งใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบทั้งหมดมายังฝ่ายประสานและบริการ SMEs หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประสานและบริการ SMEs ของ สสว.