Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน6 สิงหาคม 2553
พีแอนด์จีขยับรับแชมพูเดือด “แพนทีน” โหมดิจิตอลมีเดีย             
 


   
search resources

พร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย), บจก.
Pantene
Personal cares




พีแอนด์จี อัดดิจิตอลมีเดีย ลุยตลาดแชมพูและครีมนวดผม “แพนทีน” โหนกระแสโซเชียล เน็ตเวิร์ก บูม ระเบิดโกลบอลแคมเปญ “ความลับแชมพูปริศนา” สร้างกระแสการรับรู้แบรนด์ปากต่อปาก พร้อมยกเครื่องแชมพูและครีมนวด รับมือการแข่งขันแชมพูเดือด ลอรีอัลบุกตลาด สอยแชร์ทิ้งห่างโดฟ จ่อ 5 ปี บาลานซ์ช่องทางจำหน่ายโมเดิร์นเทรด-เทรดิชันนัลเทรด

นายเมธี จารุมณีโรจน์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสื่อสารการตลาดและองค์กร บริษัท พรอคเตอร์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแชมพูและครีมนวดผมแพนทีน เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทได้ปรับสูตรแชมพูและครีมนวดผมแพนทีน และบรรจุภัณฑ์ใหม่ด้วยกัน 3 สูตร ได้แก่ โททอล แคร์ สำหรับผมแตกปลาย แฮร์ ฟอล คอนโทรล สำหรับผมขาดหลุดร่วง และ สมูธ แอนด์ ซิลค์กี สำหรับผมพันกัน ขาดน้ำหนัก เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์การเป็นผู้ดูแลปัญหาของผมเสีย ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการตลาดเชิงรุกเปิดตัวโกลบอลแคมเปญ “ความลับแชมพูปริศนา” ท้าพิสูจน์ประสบการณ์เปลี่ยนผมเสียเป็นผมสวย 14 วัน ภายใต้การใช้กลยุทธ์ดิจิตอล มีเดีย ผ่านทางโซเชียล เน็ตเวิร์ก หรือ สังคมออนไลน์

โดยได้การจัดกิจกรรมเวิร์กชอปให้กับบล็อกเกอร์จำหน่ายกว่า 20 คน จากเว็บไซต์ความงามและ เซเลบริตี้ หรือผู้บริโภคที่ได้รับการคัดเลือกผ่านการร่วมสนุกในเว็บเพจแชมพูปริศนา รวมทั้ง โซเชียล เน็ตเวิร์ก อย่าง เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และโฟร์สแควร์ ให้ทดลองและร่วมประสบการณ์ผมสวยกับเหล่าดารา นอกจากนี้ ยังได้แจกสินค้าตัวอย่างให้กับบล็อกเกอร์ เป็นต้น ซึ่งแคมเปญดังกล่าวได้ดำเนินการในประเทศญี่ปุ่นนำร่องเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้ ตามมาด้วย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับประเทศไทยปรากฏได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมายทางสัมคมออนไลน์ 1-2 ล้านคน

“การดำเนินกิจกรรมการตลาดผสมผสานกับการทำโซเชียล เน็ตเวิร์ก ที่มาแรง เป็นการสร้างโอกาสทางการตลาด ซึ่งผลักดันเกิดการรับรู้ปากต่อปากได้อย่างรวดเร็วเกี่ยวกับแบรนด์ นอกจากนี้ นโยบายของบริษัทต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์หรือกระทั่งแพกเกจจิ้งซึ่งได้ปรับใหม่ให้มีทันสมัย สอดรับกับความต้องการด้านการใช้และความสวยงาม”

พร้อมกันนี้ บริษัทได้เปิดตัวแคมเปญ “The Revelation of 14 Days Transformation สัมผัสผมสวยได้ใน 14 วัน” ภายใต้แนวคิดจุดประกายเพิ่มการปกป้องให้กับเส้นผมและเกล็ดผมที่ถูกทำลาย โดยได้ดำเนินการตลาดผ่านทั้งอะโบฟเดอะไลน์โดยใช้งบสัดส่วน 60% ส่วนอีก 20% เป็นบีโลว์เดอะไลน์ และอีก 20% เป็นช่องทางจำหน่ายสินค้า นำร่องเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ นำเซเลบริตี้ 3 คน มาเป็นแอมบาสเดอร์ให้กับแพนทีน ได้แก่ พิม-พิมมาดา, รถเมล์-คะนึงนิจ และ นุ่น-วรนุช ขณะเดียวกัน แจกสินค้าอย่างตัว 3 แสนชิ้นในย่านสีลม

สำหรับตลาดแชมพูและครีมนวดผม ปีที่ผ่านมา มีมูลค่า 12,600 ล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดแชมพู 9,000 ล้านบาท โต 5% และครีมนวด 3,600 ล้านบาท โต 4% และคาดว่า ปีนี้อัตราการเติบโตของตลาดแชมพู 5-6% ส่วนครีมนวดโต 4-5% โดยในครึ่งปีแรกตลาดโดยรวมเติบโต 4% ซึ่งถือว่าเป็นเติบโตที่ดี จากการมีผู้ประกอบการใหม่อย่างลอรีอัลเข้ามาทำตลาด และการแข่งขันในตลาดของผู้ประกอบการในแต่ละค่าย ขณะที่อัตราการใช้แชมพู และครีมนวดผมของคนไทยโดยรวมเฉลี่ย 80% นับว่าสูงที่สุดในเอเชีย เนื่องจากคนไทยรักสวยรักงาม

“การแข่งขันตลาดแชมพูและครีมนวดผม จะเป็นเรื่องประโยชน์หรือผลลัพธ์ที่ได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์ ซึ่งแบรนด์ใดที่ตอบสนองความต้องการได้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน”

นายเมธี กล่าวว่า ในระยะ 5 ปี บริษัทพยายามสร้างความสมดุลช่องทางจำหน่ายแชมพูและครีมนวดผมระหว่างโมเดิร์นเทรดและเทรดิชันนัลเทรดเป็น 50:50 จากปัจจุบัน โมเดิร์นเทรด สัดส่วน 60% และเทรดิชันนัลเทรด 40% สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกนี้ พีแอนด์จีมีส่วนแบ่งโดยรวมทุกแบรนด์ 31.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งปีมีส่วนแบ่ง 30% แบ่งเป็นแชมพูแพนทีนมีส่วนแบ่ง 14.1% รีจอยส์ 9.8% เฮดแอนด์โชว์เดอร์ 8.6% ซึ่งมี เฮอร์บัล เอสเซ้นส์ ส่วนแบ่งลดลงเหลือเป็น 1.9% ส่วนยูนิลีเวอร์ ครึ่งปีแรกของปีนี้ 48.2% จากปีที่ผ่านมาทั้งปี 49.4% โดยแชมพูโดฟ มีส่วนแบ่ง 8.4% ซันซิล 23.4%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us