|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เซ็นทรัลเทรดดิ้ง ดันยีนส์ลีขยายตลาดกลุ่มวัยรุ่น วางสัดส่วนทะลุ 60% ในอนาคต พร้อมเปิดตัวรุ่น Lee Solar ผลิตเพียง 2,500 ตัว ทำเก๋เป็นยีนส์เรืองแสงตอนกลางคืน มั่นใจปีนี้เพิ่มแชร์รวมเป็น 30%
นายพุทธิชัย ไชยเวช ผู้จัดการอาวุโสผลิตภัณฑ์ LEE/ลี บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด ในเครือเซ็นทรัล เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายที่จะขยายตลาดในสัดส่วนกลุ่มวัยรุ่น (อายุเฉลี่ย 17-25 ปี) มากขึ้นเป็น 60% จากรายได้รวมของผลิตภัณฑ์ลี ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 20-30% เท่านั้น ขณะที่กลุ่มหลัก คือ ผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปีขึ้นไป) ที่มียีนส์เบสิกทำตลาดอยู่ในเวลานี้มีสัดส่วนหลักกว่า 50-60% ที่เหลือเป็นอื่นๆ เช่น ลีคิดส์ หลังจากที่ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทไม่ได้โหมตลาดกลุ่มวัยรุ่นมากนัก
กลยุทธ์ในการขยายตลาด คือ 1.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยี เนื่องจากกลุ่มนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงง่ายและบ่อย ซื้อด้วยอารมณ์ และความแปลกใหม่เป็นหลัก ขณะที่กลุ่มผู้ใหญ่จะมีแบรนด์รอยัลตีค่อนข้างสูง รวมทั้งกลยุทธ์การทำซีเอสอาร์ พร้อมเปิดตัวรุ่นเอ็มกับลูกค้า เช่น ลีคลับ สำหรับคนรักยีนส์ลี การทำเฟซบุ๊ก เพื่อให้เข้าถึงความต้องการและไลฟ์ไตล์ของลูกค้าวัยรุ่นโดยตรง
ล่าสุด บริษัทเปิดตัวลี รุ่นพิเศษ Lee Solar Denim Limited Edition เป็นยีนส์แบรนด์แรกในเอเชียที่ใช้เทคโนโลยีการทำสีฟอกแบบใหม่ที่สามารถเรืองแสงได้ในที่มืดจากการสะสมพลังงานจากแสงอาทิตย์ ราคาเฉลี่ย 2,500 บาท ผลิตออกมาจำนวน 2,500 ตัวเท่านั้น โดยผลิตรุ่นพิเศษกับยีนส์ของลีที่มี 3 ทรงหลัก ได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่น คือ Ramone และ Powell สำหรับผู้ชาย และ Lynn Narrow สำหรับผู้หญิง ซึ่งเป็นรุ่นที่วัยรุ่นนิยมอย่างมาก และขายดีด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อสอดรับกับแผนกลยุทธ์ขยายฐานกลุ่มวัยรุ่นจึงได้ออกมาใหม่อีก 2 ทรง คือ Jogging สำหรับผู้ชาย และทรง Kuna สำหรับผู้หญิง ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่นี้มานำเสนอไปพร้อมกันด้วย
นายพุทธิชัย กล่าวต่อว่า ในปีนี้ บริษัทเตรียมที่จะขยายจุดจำหน่ายเพิ่มอีกด้วย ทั้งชอป และเคาน์แตอร์ จากปัจจุบันนี้มีจุดขายกว่า 145 จุด ทั้งที่เป็นเคาน์เตอร์และชอป ขณะที่แผนเปิดจุดจำหน่ายใหม่ในปีนี้ได้เปิดชอปไปแล้วมากถึง 5 จุด โดยตั้งงบการตลาดรวมปีนี้ที่ 30 ล้านบาท เน้นสื่อออนไลน์เป็นหลักและกิจกรรม
นายพุทธิชัย กล่าวด้วยว่า ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานี้ แบรนด์ลีมีการเติบโตมาถึง 10% แม้ว่าจะมีผกระทบจากปัญหาการเมืองบ้างก็ตาม แต่กระทบไม่มากนัก ขณะที่ตลาดรวมเติบโตเฉลี่ย 8% จากมูลค่าตลาดรวมในช่องทางห้างสรรพสินค้าประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยที่ แบรนด์ลีอยู่ในระดับท็อปทรี มีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 20% และตั้งเป้าหมายปีนี้จะเพิ่มแชร์อีก 10% รวมเป็น 30% โดยที่สัดส่วนลูกค้าเป็นผู้ชาย 60% และผู้หญิง 40%
|
|
|
|
|