Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา สิงหาคม 2553
สร้างพลังศรัทธาและความหวัง             
โดย นภาพร ไชยขันแก้ว
 


   
www resources

โฮมเพจ วัดคำประมง

   
search resources

Health
วัดคำประมง
พระอาจารย์ ดร.ปพนพัชร์ ภิบาลพักตร์นิธี




ภาพผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งถูกเผาบนเชิงตะกอนที่มีแต่เพียงโลงศพและกิ่งไม้ทำเป็นฟืน ไม่มีดอกไม้ประดับหรูหรา มีแต่หลวงตาปพนพัชร์ จิรธัมโม ทำพิธีอย่างเรียบง่ายและญาติร่วมงานเพียงไม่กี่คน

การจากไปของผู้ป่วยที่เข้ามารักษาโรคมะเร็ง เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไข้บางคนที่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ แต่การได้เข้ามาอยู่ในวัด มีโอกาสฟังธรรม ช่วงสุดท้ายของลมหายใจจะมีหลวงตายืนดูแลอยู่ใกล้ๆ เพื่อให้ดวงวิญญาณไปอย่างสงบสุข โดยไม่เจ็บปวด หลวงตามักจะบอกเสมอว่าตายแบบยิ้มได้

กระนั้นก็ดียังมีผู้ป่วยโรคมะเร็งจากทั่วสารทิศเดินทางมาวัดคำประมงทุกวัน เพราะเชื่อว่ายังมีโอกาสและความหวัง

อโรคยศาล เป็นสถานอภิบาลพักฟื้นผู้ป่วยด้วยสมุนไพรตามธรรมชาติ วัดคำประมง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร www.khampramong.org ได้ก่อตั้งเมื่อปี 2548 ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษา 1,900 คน

แรงบันดาลใจที่ทำให้พระอาจารย์ ดร.ปพนพัชร์ ภิบาลพักตร์นิธี (จิรธัมโมภิกขุ) ก่อตั้งอโรคยศาล เพราะเคยป่วยเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก

หลวงตาเริ่มรักษาอาการจากแพทย์แผนปัจจุบันแต่ไม่หาย มีอาการเลือดไหลออกตลอดเวลา สร้างความเจ็บปวดและทรมานเป็นอย่างมาก กระทั่งได้หันมาลองทานยาสมุนไพร อาการเริ่มดีขึ้น จึงศึกษาสมุนไพรอย่างจริงจังจนสามารถคิดค้นสูตรยาสมุนไพรรักษามะเร็ง

จากประสบการณ์ที่หลวงตาได้รับ จึงต้องการบำบัดรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง เพราะเข้าใจความทุกข์แสนสาหัสที่ผู้ป่วยได้รับจากโรคมะเร็งเป็นอย่างดี

วิธีการรักษาจะเป็นรูปแบบการบำบัดรักษาผู้ป่วยมะเร็งแบบองค์รวม คือผสมผสานระหว่างการแพทย์แผนไทย (สมุนไพร) การแพทย์แบบตะวันตก การแพทย์แผนจีน (การฝังเข็ม) สมาธิบำบัด ดนตรีบำบัด ธรรมบำบัด และอาหารเพื่อสุขภาพ

วัตถุประสงค์ของอโรคยศาล ต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทุกชาติ ศาสนา ที่มีความทุกข์จากการเจ็บป่วยเป็นโรคมะเร็ง ด้วยการรักษาฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพราะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการดูแลรักษาได้มาจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค

หลวงตาตระหนักดีว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกข์สาหัสด้านร่างกายแล้ว บางรายก็ไม่มีเงินรักษา หรือบางคนต้องขายทรัพย์สิน กลายเป็นทุกข์ทางใจ ดังนั้นหลวงตาจึงต้องการช่วยเหลือผู้ป่วยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ การรักษาผู้ป่วยจึงเป็นการรักษาด้านร่างกายและจิตใจไปพร้อมๆ กัน

ผู้ป่วยที่เข้ามารักษาจะพักอยู่บ้านพักคนไข้มีญาติมาคอยดูแล โดยผู้ป่วยจะต้องดื่มน้ำสมุนไพรทุกวัน วันละ 2 เวลา ทุกเช้าและเย็น

ผู้ป่วยแต่ละคนจะรับยาแตกต่างกันไปแล้วแต่อาการ เพราะโรคมะเร็งเกิดจากหลายแห่ง เช่น มะเร็งปอด มะเร็งข้างหู มะเร็งเต้านม มะเร็งหลังโพรงจมูก

ยาสมุนไพรที่ให้ผู้ป่วยก็จะตั้งชื่อไปตามอาการของโรค แต่ก็มีชื่อยาแปลก ฟังแล้วเก๋ๆ เช่น สมุนไพรน้ำสาบาน บำรุงตับ ยาสมานฉันท์ แก้น้ำเหลืองเสีย เป็นต้น

นอกจากยาที่อโรคยศาลจะจัดเตรียมไว้ให้แล้ว ผู้ป่วยจะต้องต้มยาของตัวเองด้วย โดยเฉพาะยามะเร็ง การต้มยามะเร็งจะทำพิธีกรรม

การประกอบพิธีกรรมมีสาระที่แฝงเร้น คือการทำจิตใจให้สงบ ผ่องแผ้วจากความทุกข์ใจต่อความเกรงกลัวโรคภัยไข้เจ็บที่กำลังรุมเร้า และสร้างความศรัทธาในสิ่งที่ทำอยู่

พิธีกรรมจะมีขั้นตอนเริ่มจากผู้ป่วยและญาติจัดเตรียมกายใจ อาบน้ำท่าให้สะอาดเรียบร้อย เตรียมขันหมากเบ็ง หรือบายศรี ขันธ์ 5 หมาก พลู บุหรี่ ผลไม้ ดอกไม้ และให้ทุกคนจุดธูปสักการะพ่อปู่ฤาษีที่ประดิษฐานอยู่ข้างโรงต้มยาสมุนไพร

หลังจากนั้นหลวงตาปพนพัชร์ จิรธัมโม เจ้าอาวาสวัดคำประมงเป็นประธาน ทุกคนไหว้พระรับศีลห้า และให้ผู้นำพิธีกรรมอ่านโองการอัญเชิญเทพยดา เทพพรหม ปู่ฤาษีชีวกโกมารภัจจ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์

ผู้ป่วยสวดพระอาฏานาฎิพระปริตรแปล บทสวดมนต์พระคาถาชินบัญชร บทสักกัตวา พาหุง มหาการุณิโกนาโถ และอื่นๆ จนจบ ผู้ป่วยนำห่อยาสมุนไพรยกขึ้นอธิษฐานก่อนให้ญาตินำไปต้ม หลังจากนั้นผู้ป่วยนั่งกรรมฐาน 9 นาที ก่อนแผ่เมตตา และหลวงตาบอกวิธีการต้มยา กินยา การอุ่นยา

บรรยากาศพิธีต้มยาแสดงให้เห็นถึงความรักและสามัคคีระหว่างคนไข้ ญาติผู้ป่วยคนอื่นๆ ที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือจุดไฟต้มน้ำในหม้อดินใบใหญ่ และต้องเคี่ยวยานานกว่า 2 ชั่วโมง

ช่วงเวลาที่เคี่ยวยาต้องเติมฟืน คอยคุมไม่ให้ไฟร้อนเกินไป หากร้อนมากจะทำให้หม้อดินแตกได้ง่าย การต้มยาจึงเหมือนกับเป็นการฝึกความอดทนของทั้งคนไข้และญาติ

พิธีกรรมนับว่าเป็นกุศโลบายอันแยบยล ช่วยสร้างพลังจิตให้คนไข้มีพลังศรัทธาที่จะรักษาตัวเองให้มีอาการดีขึ้นจากอาการป่วย

นอกจากพิธีกรรมต้มยาแล้ว การฟังธรรมะจากหลวงตาทุกเย็น ยังช่วยปลอบประโลมใจผู้ป่วยและญาติให้สงบเยือกเย็นลง

มีคนไข้บางคนกล่าวไว้ว่า โชคดีที่เป็นมะเร็ง ทำให้รู้จักชีวิต รู้จักธรรมะ รู้คุณค่าของชีวิต และรู้จักหนทางสร้างศรัทธามั่นคงแน่วแน่ต่อพระพุทธศาสนาอย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us