มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีกำเนิดมาจากวิทยาลัยวิชาการศึกษา ซึ่งได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัย
โดยพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปี 2517 "ศรีนครินทรวิโรฒ"
เป็นชื่อที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานแก่มหาวิทยาลัยนี้
มีความหมายว่า "มหาวิทยาลัยที่เจริญเป็นศรีสง่าแก่มหานคร" คำว่า
"วิโรฒ" มาจากคำว่า "วิรฒ" ในภาษาสันสกฤต ซึ่งแปลว่างอกงามหรือเจริญ
และเทียบได้กับ "วิรุฬห์" ในภาษาบาลีอันปรากฏในตราของวิทยาลัยวิชาการศึกษาว่า
"สิกขา วิรุฬหิ สมปตตา" ซึ่งหมายความว่า "การศึกษาคือการเจริญงอกงาม"
วิทยาลัยวิชาการศึกษานั้นสถาปนาขึ้นจากโรงเรียนฝึกหัดครูชั้นสูง โดยที่มีความมุ่งหมายที่จะส่งเสริมวิชาชีพและวิทยฐานะของครูอาจารย์
ตั้งแต่เริ่มมานั้นได้ผลดีพอสมควร ได้ผลิตครูประเภทต่าง ๆ นับแต่ครูอนุบาลจนถึงอาจารย์มหาวทิยาลัยกระทรวงศึกษาธิการได้คำนึงถึงความสำคัญ่ของการฝึกหัดครูเป็นอย่างยิ่ง
จึงได้พยายามขยายโรงเรียนฝึกหัดครูเป็นลำดับมาจนได้จัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูโดยเฉพาะขึ้นที่ถนนประสานมิตร
อำเภอพระโขนง พระนคร เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2492 มีชื่อว่าโรงเรียนฝึกหัดครูชั้นสูงถนนประสานมิตร
กิจการของโรเรียนฝึกหัดครูนี้ได้รับการปรับปรุงขยายอาคารสถานที่เป็นลำดับมา
ถึงเช่นนั้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะรับนักศึกษาให้ได้เต็มความต้องการ และยังไม่อาจจัดวิทยฐานะทางครูให้ถึงขั้นสูงสุดได้
กระทรวงศึกษาธิการจึงเห็นสมควรปรับปรุงให้ยกวิทยฐานะถึงปริญญาในวิชาการศึกษา
เทียบเท่ามาตรฐานของต่างประเทศ เพื่อติดต่อสัมพันธ์กับสถาบันศึกษาชั้นสูงของต่างประเทศได้การปรับปรุงโรงเรียนฝึกหัดครูชั้นสูงครั้งนี้ยังผลให้กำเนิดแก่วิทยาลัยการศึกษาขึ้น
ณ โรงเรียนฝึกหัดครูชั้นสูงถนนประสานมิตร เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2496
เพื่อให้วิทยาลัยวิชาการศึกษาได้มีอำนาจให้การศึกษาถึงขั้นปริญญาได้โดยสมบูรณ์
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้เสนอพระราชบัญญัติวิทยาลัยวิชาการศึกษา พ.ศ. 2497
ต่อสภาผู้แทนราษฎรและตราเป็นพระราชบัญญัติเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2497
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัตินี้ วิทยาลัยวิชาการศึกษามีอำนาจให้อนุปริญญา (อ.กศ.)
ปริญญาตรี (กศ.บ.) ปริญญาโท (กศ.ม.) และปริญญาเอก (กศ.ด.) ในวิชาการศึกษาและวิชาชีพอื่นที่เกี่ยวข้องแก่ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยได้
และอาจจัดให้มีการศึกษาสอบไล่เพื่อรับประกาศนียบัตรตามหลักสูตราและวิธีการที่สภาวิทยาลัยกำหนดได้ด้วย
เพื่อให้ผู้บริหารการศึกษา ครูอาจารย์ ตลอดจนผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับเด็กมีความรู้ความเข้าใจเรื่องพัฒนาการของเด็กไทยยิ่งขึ้น
ซึ่งจะช่วให้การจัดการศึกษาและอบรมสั่งสอนเป็นไปอย่างเหมาะสมกับระดับพัฒนาการของเด็กและสอดคล้องกับหลักวิชาจิตวิทยา
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ร่วมมือกับองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
(UNESCO) จัดตั้ง "สถาบันระหว่างชาติสำหรับการค้นคว้าเรื่องของเด็ก"
(INTERNATIONAL INSTITUTE FOR CHILD STUDY) ขึ้นในบริเวณวิทยาลัยวิชาการศึกษา
ถนนระสนมิตร เมื่อเดือนตุลาคม 2497 เพื่อทำการค้นคว้าวิจัยทางจิตวิทยา เกี่ยวกับความเจริญงอกงามของเด็กในด้านต่าง
ๆ และให้วิทยาลัยวิชาการศึกษาทำงานร่วมกับสถาบันระหว่างชาตินี้อย่างใกล้ชิด
เมื่อถึงปี 2506 สถาบันนี้ก็ได้รับโอนให้เป็นของรัฐบาลไทยโดยตรง และได้เปลี่ยนชื่อเป็น
"สถาบันสำหรับการค้นคว้าเรื่องเด็กกรุงเทพฯ" BANGKOK INSTIUTE
FOR CHILD STUDY (B.I.C.S.) ในปี 2515 เมื่อิวทยาลัยวิชาการศึกษาแยกจากกรมฝึกหัดครูเป็นกรมหนึ่งในกระทรวงศึกษาธิการ
สถาบันแห่งนี้ก็ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาลัยโดยสมบูรณ์เป็นต้นมา ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเรียกว่า
"สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์"
กิจกรรมของวิทยาลัยดำเนินไปด้วยดี กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ขยายกิจการให้กว้างขวางออกไปอีก
โดยออกประกาศโอนแผนกฝึกหัดครูมัธยม พญาไท ปทุมวัน มาเป็นสาขาหนึ่งของวิทยาลัยวิชาการศึกษา
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2498 เรียกชื่อวา "วิทยาลับวิชาการศึกษาปทุมวัน"
และได้ขยายกิจการของวิทยาลัยวิชาการศึกษาออกไปสู่สวนภูมิภาค เพื่อช่วยเพิ่มประมาณการผลิตรูให้มากขึ้น
ด้วยการจัดตั้ง "วิทยาลัยวิชาการศึกษาบางแสน" ขึ้นอีกแห่งหนึ่งที่
หมู่ 7 ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี วิทยาลัยวิชาการศึกษาบางแสนเริ่มเปิดเป็นทางการเมื่อวันที่
8 กรกฎาคม 2498 ซึ่งจัดได้ว่าเป็นสถาบันชั้นอุดมศึกษาในส่วนภูมิภาคแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดสอนถึงระดับปริญญาตรีทางการศึกษา
สาขาทั้งสองแห่งนี้ได้เริ่มเปิดทำการสอนตั้งแต่ปีการศึกษา 2498
ปี 2510 วิทยาลัยวิชาการศึกษาได้ขยายสาขาไปสู่ภาคเหนือคือ "วิทยาลัยวิชาการศึกษา
พิษณุโลก" ตั้งอยู่ที่ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่
25 มกราคม 2510
ปี 2511 ได้เปิดสาขาของวิทยาลัยวิชาการศึกษาขึ้นอีก 2 แห่ง คือ "วิทยาลัยวิชาการศึกษา
มหาสารคาม" ที่อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม และ "วิทยาลัยวิชาการศึกษา
สงขลา" ที่อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
ปี 2512 ได้จัดตั้งสาขาวิทยาลัยวิชาการศึกษาขึ้นในส่วนกลางอีกแห่งหนึ่งเรียกว่า
"วิทยาลัยวิชาการศึกษา พรนคร"ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับวิทยาลัยครูพระนคร
ในที่ดินของวัดพระศรีมหาธาตุ อำเภอบางเขน กรุงเทพมหานคร
1 เมษายน 2513 วิทยาลัยพลศึกษาได้เข้ามาสมทบเป็นสาขาหนึ่งของวิทยาลัยวิชาการศึกษา
โดยกรมพลศึกษาเป็นผู้ดำเนินการ และเรียกชื่อว่า "วิทยาลัยวิชาการศึกษา
พลศึกษา"
ตั้งแต่ปี 2512 เป็นต้นมาได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับฐานะของวิทยาลัย แต่เนื่องจากความผันผวนทางเหตุการณ์บ้านเมืองทำให้การพิจารณาเป็นไปอย่างล่าช้า
จนถึงวันที่ 29 มิถุนายน 2517 วิทยาลัยวิชาการศึกษาจึงได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นมหาวิทยาลัย
และได้ดอนไปสังกัดทบวงมหาวิทยาลัยของรัฐ วิทยาลัยวิชาการศึกษาทั้ง 8 แห่งนี้รวมกันเป็น
"มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ" และเรียกชื่อมหาวิทยาลัยโดยระบุที่ตั้งเช่นที่เคยเรียกมาแต่เดิม
ยกเว้นวิทยาลัยวิชาการศึกษาพระนคร ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า "มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
บางเขน"
ในด้านการเรียนการสอนเริ่มรับนิสิตเข้าเรียนตามหลกสูตรปริญญาการศึกษาบัณฑิต
ในปีการศึกษา 2496 จนกระทั่งเป็นมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒในปัจจุบันกิจการของสถานศึกษาแห่งนี้ได้เจริญก้าวหน้ามาโดยลำดับ
ดังนี้
ปี 2496 เริ่มเปิดสอนตามหลักสูตรการศึกษาบัณฑิต สาขาต่าง ๆ คือ สาขาประถมศึกษา
มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และการบริการการศึกษา
ปี 2498 ได้เริ่มเปิดสอนหลักสูตรการศึกษาบัณฑิตสำหรับบุคคลภายนอก เพื่อเป็นการส่งเสริมวิชาชีพและวิทยฐานะของครู
อาจารย์ และเจ้าหน้าที่บริหารการศึกษาที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่ให้สูงขึ้น
ปี 2499 เปิดสอนขั้นปริญญาโท โดยในขั้นแรกเปิดสอนเฉพาะสาขาจิตวิทยาประชากร
โดยร่วมกับสถาบันระดับชาติสำหรับการค้นคว้าเรื่องเด็ก
ปี 2504 เปิดสอนหลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิต ซึ่งวิทยาลัยวิชาการศึกษาจัดสอนขึ้นเองโดยตรง
ปี 2506 เริ่มเปิดสอนขั้นประกาศนียบัตรชั้นสูงวิชาเฉพาะ
ปี 2517 เริ่มเปิดสอนขั้นปริญญาเอก โดยเปิดสอนในสองสาขาวิชา คือ สาขาพัฒนศึกษาศาสตร์
และสาขาการวิจัยและการพัฒนาหลักสูตร
ปี 2519 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีวิทยาศาสตร์
และศิลปศาสตร์ ในบางแขนงวิชาเพิ่มขึ้น และในปีเดียวกันก็ได้รับหลักสูตรปริญญาการศึกษาบัณฑิต
(สาขาครูพยาบาล) ของวิทยาลัยพยาบาลกรุงเทพ กระทรวงสาธารณสุข เข้ามาสมทบ
ปี 2523 ตั้งสถาบันทักษิณคดีศึกษา ที่วิทยาเขตสงขลาซึ่งเริ่มต้นจากโครงการศูนย์ส่งเสริมภาษาและวัฒนธรรมภาคใต้
ปี 2525 จัดตั้งคณะพยาบาลศาสวตร์ขึ้นที่วิทยาเขตบางแสนเพื่อผลิตบัณฑิตสาขาพยาบาลศาสตร์ในระดับปริญญาตรี
และเป็นการสนองตอบต่อนโยบายของรัฐที่มุ่งเพิ่มปริมาณการผลิตบุคลากรพยาบาล
ให้มีจำนวนเพียงพอที่จะให้บริการด้านการพยาบาลและสุขภาพอนามัยแก่ประชาชนของประเทศได้อย่างทั่วถึง
ปี 2527 เปิดสอนหลักสูตรขั้นปริญญาโทสาขาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์และสาขาการศึกษาก่อนวัยเรียน
ปี 2528 เปิดสอนหลักสูตรปริญญาโททางสาขาศิลปศาสตร์
ตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลขึ้นที่วิทยาเขตบางแสนและคณะแพทยศาสตร์ที่วิทยาเขตประสานมิตร
ในด้านการวิจัย ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่งของสถาบันอุดมศึกษานั้น
วิทยาลัยวิชาการศึกษาได้จัดตั้งคณะวิชาวิจัยการศึกษาขึ้นตั้งแต่เริ่มแรกเมื่อปี
2497 ซึ่งคณะวิชาวิจัยการศึกษาได้ทำการสำรวจและค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับปัญหาต่าง
ๆ ทางการศึกษาหลายเรื่อง และได้เร่มิทำแบบทดสอบมาตรฐานในวิชาต่าง ๆ สำหรับชั้นประถมศึกษาตอนต้น
โดยร่วมมือกับกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาในปี 2504 สภาวิทยาลัยวิชาการศึกษาได้จัดตั้ง
"สำนักงานทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา" โดยใช้ขึ้นต่อคณะวิชาวิจัยการศึกษาและให้มีฐานะเป้นแผนกวิชาหนึ่งในคณะวิชานี้
และในปี 2518 ก็ได้ยกฐานะเป็นหน่วยงานเทียบเท่าคณะมีชื่อว่า "สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา"
มีหน้าที่บริการทางวิชาการ ทำการวิจัยและสร้างแบบทดสอบมาตรฐานระดับต่าง ๆ
ที่สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยาสร้างขึ้นสำหรับใช้กับนิสิตระดับต่าง
ๆ และนักเรียนทั่ว ๆ ไป ซึ่งมีทั้งแบบทดสอบความถนัดทางการเรียนและแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์วิชาต่าง
ๆ และได้ให้บริการแก่โรงเรียน หน่วยราชการ ในการทดสอบความรู้และความสามารถของบุคคลด้วย
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒยังได้ร่วมมือกับหน่วยราชการต่าง ๆในด้านบริการทางวิชาการ
เช่น ทำการอบรมครู ให้ความรู้เกี่ยวกับการวัดผลการศึกษาตั้งแต่ปี 2513 จัดอบรมทางการแนะแนว
บรรณารักษศาสตร์ พลศึกษา เป็นต้นและได้ขยายและปรับปรุงกิจการเหล่านี้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้นอีกด้วย
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒมีการแบ่งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยฯออกเป็น 10
ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 สำนักงานอธิการบดี แบ่งหน่วยงานออกเป็น
- กองกลาง
- กองกลางเจ้าหน้าที่
- กองกิจการนิสิต
- กองคลัง
- กองแผนงาน
- กองธุรการวิทยาเขตปทุมวัน
- กองธุรการวิทยาเขตบางเขน
- กองธุรการวิทยาเขตพลศึกษา
- กองธุรการวิทยาเขตบางแสน
- กองธุรการวิทยาเขตพิษณุโลก
- กองธุรการวิทยาเขตมหาสารคาม
- กองธุรการวิทยาเขตสงขลา
ส่วนที่ 2 คณะพลศึกษา แบ่งส่วนราชการออกเป็น
- สำนักงานเลขานุการ
- ภาควิชาพลศึกษา
- ภาควิชาสันทนาการ
- ภาควิชาสุขศึกษา
ส่วนที่ 3 คณะมนุษย์ศาสตร์ แบ่งส่วนราชการออกเป็น
- สำนักงานเลขานุการ
- ภาควิชาจิตวิทยา
- ภาควิชาดุริยางคศาสตร์
- ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์
- ภาควิชาภาษาตะวันตก
- ภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก
- ภาควิชาภาษาศาสตร์
- ภาควิชาศิลปะและวัฒนธรรม
ส่วนที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์ แบ่งส่วนราชการออกเป็น
- สำนักงานเลขานุการ
- ภาควิชาคณิตศาสตร์
- ภาควิชาคหกรรมศาสตร์
- ภาควิชาเคมี
- ภาควิชาชีววิทยา
- ภาควิชาฟิสิกส์
- ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไป
- ภาควิชาวาริชศาสตร์
-
ส่วนที่ 5 คณะศึกษาศาสตร์ แบ่งส่วนราชการออกเป็น
- สำนักงานเลขานุการ
- ภาควิชาการแนะแนวและจิตวิทยาการศึกษา
- ภาควิชาการบริการการศึกษา
- ภาควิชาการศึกษาผู้ใหญ่และการศึกษาพิเศษ
- ภาควิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา
- ภาควิชาพื้นฐานการศึกษา
- ภาควิชาหลักสูตรและการสอน
นอกจากนี้คณะศึกษาศาสตร์ยังเป้นคณะที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินงานการเรียนการ
สอนของโรงเรียนสาธิตซึ่งเป็นศูนย์ฝึกงานด้านเทคนิคการสอน ค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาวิธีการสอน
เป็นที่ทอลอง ฝึกสอนและฝึกงานของนิสิต ตอลดจนการสาธิตและเผยแพร่วิธีการสอนแก่สถาบันที่ต้องการ
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มีโรงเรียนสาธิตในสังกัดคือ
โรงเรียนประถมสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร
โรงเรียนมัธยมสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร
โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
โรงเรียนสาธิตพิบูลบำเพ็ญ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒบางแสน
ส่วนที่ 6 คณะสังคมศาสตร์ แบ่งส่วนราชการออกเป็น
- สำนักงานเลขานุการ
- ภาควิชาบริหารธุรกิจ
- ภาควิชาประวัติศาสตร์
- ภาควิชาภูมิศาสตร์
- ภาควิชารัฐศาสตร์
- ภาควิชาเศรษฐศาสตร์
- ภาควิชาสังคมวิทยา
ส่วนที่ 7 คณะพยาบาลศาสตร์ แบ่งส่วนราชการออกเป็น
- สำนักงานเลขานุการ
- ภาควิชาการพยาบาลชุมชน
- ภาควิชาการพยาบาลแม่และเด็ก
- ภาควิชาการพยาบาลอายุรศาสตร์และศัลยศาสตร์
- ภาควิชาวิจัย ประเมินผล และการบริหารทางการพยาบาล
- ภาควิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐานการพยาบาล
- ภาควิชาสุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช
ส่วนที่ 8 คณะแพทยศาสตร์ แบ่งส่วนราชการออกเป็น
- สำนักงานเลขานุการ - ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
- ภาควิชาอายุรศาสตร์ - ภาควิชาจักษุ-โสต-ศอ-นาสิก
- ภาควิชาศัลยศาสตร์ - ลาริงช์วิทยา
- ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ - ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม
- ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ - ภาควิชานิติเวชศาสตร์
- ภาควิชารังสีวิทย - ภาควิชากายวิภาคศาสตร์
- ภาควิชาพยาธิวิทยา - ภาควิชาจุลชีววิทยา
- ภาควิชาวิสัญญีวิทยา - ภาควิชาเภสัชวิทยา
- ภาควิชาออโธพีดิกส์ - ภาควิชาชีวเคมี
- ภาควิชาสรีรวิทยา
ส่วนที่ 9 สำนักงานเลขานุการ ในสถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์
ส่วนที่ 10 สำนักงานเลขานุการ ในสำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา
ส่วนที่ 11 สำนักงานเลขานุการ ในสำนักหอสมุดกลาง
ส่วนที่ 12 สำนักงานเลขานุการ ในสถาบันทักษิณคดีศึกษา
ส่วนที่ 13 สำนักงานเลขานุการ ในสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล
ส่วนที่ 14 บัณฑิตวิทยาลัย
สีทางราชการประจำมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คือ เทา-แดง
"สีเทา" หมายถึงสีของสมอง แปลว่า ความคิดหรือปัญญา
"สีแดง" หมายถึงสีของเลือด แปลว่า ความกล้าหาญ
เทา-แดง แปบว่า มีความคิดอย่างกล้าหาญ หรือมีความกล้าที่จะคิด
ตราทางราชการของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้มาจากกราฟของสมการ y=e ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการเพิ่มหรือความงอกงามโดยทั่ว
ๆ ไป ซึ่งตรงกับหลักการศึกษาที่ว่า "การศึกษาคือการงอกงาม สิก?ขา วิรุฬ?หิ
สม?ปต?ตา"