หากการแถลงข่าวของค่ายรถยนต์สักแห่งจะมีความโดดเด่นและจุดสนใจอยู่ที่นวัตกรรมทางยานยนต์ หรือรูปลักษณ์ของรถยนต์ แต่ละรุ่นที่จะนำเสนอออกสู่ตลาด การแถลงข่าวของ General Motor ประเทศไทย เมื่อไม่นานมานี้ต้องถือว่าเป็นการฉีกขนบดังกล่าวและให้ภาพที่แตกต่างไปไม่น้อย

เพราะแม้ว่าความสนใจของสื่อสารมวลชนจำนวนหนึ่งจะผูกพันอยู่กับความเป็นไปได้ในการเปิดตัวรถยนต์ Chevrolet รุ่นใหม่ๆ ออกมาทำตลาด แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่ GM ต้องการสื่อสารกับสังคมกลับเป็นเรื่องของกระบวนทัศน์และทิศทางในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเสียมากกว่า

ซึ่งนั่นทำให้ Martin Apfel ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย/เอเชียตะวันออกเฉียงใต้: GMTH/GMSEA) และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กลายเป็นไฮไลต์หนึ่งเดียวของการแถลงข่าวในวันนั้น

เรียกว่าเป็นการแถลง ข่าวเปิดตัวและแสดงวิสัยทัศน์ของประธานกรรมการอย่างเป็นทางการก็น่าจะได้ หลังจากที่ Martin Apfel เข้ารับตำแหน่งเป็น หัวเรือใหญ่ของ GM ในประเทศไทยมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา

“การลงทุน 16,000 ล้านบาทเพื่อสานต่อโรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซลและโครงการผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จังหวัดระยอง ทำให้ GM เป็นองค์กรที่มีพันธสัญญาใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะผลิตเครื่องยนต์ดีเซลที่ล้ำสมัย เพื่อตอบสนองทั้งตลาดในประเทศและเพื่อการส่งออก”

Martin Apfel ยังขยายความต่อไปอีกว่า การลงทุนดังกล่าว จะทำให้เกิดการสร้างงานและเปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับคู่ค้าของ GM เป็นจำนวนมาก และประเมินว่าจะส่งผลให้มูลค่าการจัดซื้อส่วนประกอบภายในประเทศ ต่อปี (APV: Annual Purchasing Value) จะเพิ่มจากระดับ 100 ล้านเหรียญสหรัฐไปสู่ระดับ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว

จุดเน้นที่ Martin Apfel พยายามนำเสนอในการแถลงข่าว วันนั้น นอกจากจะย้ำเรื่อง commitment ที่ GM มีต่อสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นในมิติของการลงทุน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การให้บริการหลังการขาย และที่ขาดไม่ได้คือการสร้างเครือข่ายของผู้แทนจำหน่ายที่กำลังเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้แบรนด์ Chevrolet มุ่งหน้าสู่ถนนแห่งความสำเร็จในอนาคต “GM ทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้แทนจำหน่ายในการพัฒนา คุณภาพของการบริการ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้ใช้รถยนต์เชฟโรเลต”

ภายใต้ความรับผิดชอบที่ครอบคลุมภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะตลาดอาเซียนเท่านั้น หากยังครอบ คลุมไปสู่ตลาดน้อยใหญ่รวมกว่า 18 ประเทศในแปซิฟิกใต้อีกด้วย และถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในเอเชียรองจากจีนและอินเดีย บทบาทของ Martin Apfel ในฐานะประธานกรรมการ GM SEA ในห้วง จากนี้คือการวางรากฐานและยุทธศาสตร์สำหรับการเติบโตในระยะยาว โดยวิสัยทัศน์และความมุ่งหมาย ที่น่าสนใจของเขาอยู่ที่การผลักดันให้ GM SEA เป็นหนึ่งในศูนย์กลางหลักของ GM ในระดับโลก

ข้อมูลที่น่าสนใจก็คือในช่วงปีที่ผ่านมา ยอดการจำหน่ายของ GM ในภูมิภาคนี้ เติบโตขึ้นถึง 22.9% เฉพาะในประเทศไทย ยอดการจำหน่ายรถยนต์ Chevrolet เติบโตขึ้นถึง 24% ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ขณะที่ในมาเลเซียก็เติบโตถึง 20% เช่นกัน

แนวความคิดของ Martin Apfel ที่ได้นำเสนอในวันนั้น ผูกพันอยู่กับวลีหลักว่าด้วย design-build-sale ที่เชื่อมโยงต่อเนื่อง กัน ภายใต้การกำหนดให้ความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งนั่นทำให้ยุทธศาสตร์ของ GM ในยุคใหม่สามารถตอบสนองต่อ ตลาดในแต่ละภูมิภาคได้ดียิ่งขึ้น “Chevrolet Cruz เป็นตัวอย่างที่ดีในกรณีนี้ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ได้เริ่มเปิดตัวในภูมิภาคนี้ จากการออกแบบที่ได้รับการตีความใหม่ให้มีความแตกต่าง ทว่ามีความเป็นมาตรฐาน เดียวกันทั่วโลก และประสบความสำเร็จอย่างดีทั้งในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์”

แม้ Chevrolet Cruz จะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ GM พร้อม จะคาดหวังให้เป็นประหนึ่ง category killer ในกลุ่มคอมแพคซีดาน เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดยานยนต์ในประเทศไทยก็ตาม แต่สำหรับการแถลงข่าวในวันนั้น Chevrolet Cruz ต้องอยู่ในฐานะตัวประกอบ ที่ได้แต่เดินผ่านฉากเท่านั้น “GM ได้ผ่านช่วงเวลาที่หนักหน่วงมาสู่ยุคใหม่ที่พร้อมจะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วยยนตรกรรมที่ล้ำหน้า ภายใต้คำมั่นสัญญาของการเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตสู่ความสำเร็จร่วมกันของทุกฝ่าย นี่คือองค์กรใหม่ของ GM”

Martin Apfel กล่าวย้ำ ซึ่งขับเน้นให้เขาเป็นไฮไลต์หนึ่งเดียวของการแถลงข่าวในวันนั้นอย่างแท้จริง ตั้งแต่ต้นจนสิ้นสุดการแถลงข่าวเลยทีเดียว