Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2529
บางกอกอินเตอร์-คลับ คลับชั้นดีสำหรับคนชั้นกลาง             
 


   
search resources

Entertainment and Leisure
บางกอกอินเตอร์คลับ




กรุงเทพฯ นั้นเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งของโลก

การไหลบ่าเข้ามาของ “วัฒนธรรมเมืองใหญ่” จึงดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับที่เมืองใหญ่ทั้งหลายในโลกนี้ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ตาม

“วัฒนธรรมเมืองใหญ่” นั้น สำหรับบางคนที่ความคิดคับแคบก็มักจะมองว่า เป็นวัฒนธรรมตะวันตกที่ไหลบ่าเข้ามาทำลายวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนไทย พวกเขาพยายามจะวาดภาพถึงกรุงเทพฯ เมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว ซึ่งทำอย่างไรก็คงจะหวนกลับมาไม่ได้อีก

แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจถึงสิ่งที่จะต้องเป็นไป และพยายามดัดแปลงให้เหมาะสม สอดคล้องกับคนไทยมากที่สุด ไม่ใช่รับ “วัฒนธรรมเมืองใหญ่” กันเข้ามาทั้งดุ้น

อย่างเช่น “คลับ” ที่กำลังโผล่กันเป็นดอกเห็ดในกรุงเทพฯ ระยะใกล้ ๆ นี้นั้นก็อาจจะถือเป็น “วัฒนธรรมเมืองใหญ่” อย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นการดำเนินงานในรูปของธุรกิจเพื่อการสันทนาการ มีทั้งที่เป็นสาขาของ “คลับ” ชั้นนำของโลก และก็มีทั้งที่ร่วมทุนกันระหว่างคนไทยและชาวต่างประเทศ โดยมุ่งให้บริการกับผู้มีรายได้สูงเป็นหลัก

ส่วนวัตถุประสงค์ก็มีต่าง ๆ กันพอสมควร เช่น เป็นคลับเพื่อออกกำลังกายมีทั้งที่เป็นกีฬาในร่มและกีฬากลางแจ้ง ซึ่งแน่นอน ต้องเป็นกีฬาที่คนมีเงินเขาเล่นกัน อย่างเช่น กอล์ฟหรือเทนนิส เป็นต้น และก็มีที่เน้นให้เป็นคลับสำหรับการพบปะสังสรรค์หรือการประชุมทางธุรกิจ โดยเฉพาะ หรืออาจจะรวมเพื่อความสุขความบันเทิงของส่วนตัวและครอบครัวด้วยก็ได้

หรือพูดอีกทีก็คือการจำลองเอารูปแบบตลอดจนเนื้อหาของบรรดา “คลับ” ทั้งหลายในต่างประเทศมาตั้งกันขึ้นที่กรุงเทพฯ ทั้งดุ้น

แต่มีคลังแห่งหนึ่งที่มีหลาย ๆ อย่างน่าสนใจเป็นพิเศษ

คลับที่ว่านี้ชื่อ บางกอกอินเตอร์-คลับ

คลับที่รวมกิจกรรมทุกอย่างไว้พร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่สำหรับการประชุมการพบปะสังสรรค์ การเลี้ยงรับรอง การออกกำลังกายตลอดจนความบันเทิง ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่เหมาะมากกับสภาพการจราจรและสภาพแวดล้อมในกรุงเทพฯ

เพราะมาที่นี่ทีเดียวสามารถใช้บริการได้หลาย ๆ อย่าง จะมาคนเดียวหรือมาหลาย ๆ คนก็สะดวกง่ายดาย

นอกจากนี้ที่ยังพิเศษอย่างจะหาจากคลับที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ก็คือ เป็นคลับชั้นดีที่นักธุรกิจและเจ้าของกิจการขนาดกลางจนถึงขนาดเล็กสามารถไปใช้บริการได้สบาย ๆ ด้วยอัตราค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าที่สุด

การรวบรวมสรรพสิ่งไว้แห่งเดียวกันหมดและการวางกลุ่มเป้าหมายไว้ที่คนชั้นกลางนี้แหละที่ “ผู้จัดการ” อยากจะบอกว่าเป็นลักษณะพิเศษของบางกอก อินเตอร์-คลับ

ซึ่งดูจะเข้ากับวัฒนธรรมของคนไทยเอามาก ๆ

คลับแห่งนี้ก่อตั้งและบริหารโดยนักธุรกิจคนไทยและคนต่างประเทศกลุ่มหนึ่งในนามบริษัท บางกอกอินเตอร์-คลับ

กลุ่มนักธุรกิจคนไทยนั้นล้วนแต่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี คือประกอบด้วย พานิช และพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ 2 พ่อลูกแห่งกลุ่มสยามเพนท์เฮ้าส์ และทรงศักดิ์ จันทรประเสริฐ กับวันเฉลิม กาญจนมงคล แห่งกลุ่มปาปากรุ๊ป ร่วมกับนักธุรกิจชื่อดังอีกหลายคน

ส่วนกลุ่มผู้ร่วมทุนจากต่างประเทศก็ประกอบด้วยไมเคิล ซิมส์ และ เลสลี่ ซิมส์ โดยที่ทั้ง 2 คนนี้เคยประสบความสำเร็จมาแล้วจากการก่อตั้งคลับที่ฮ่องกง

บางกอก อินเตอร์-คลับ จะต้องใช้งบลงทุนประมาณ 80 ล้านบาท ซึ่งสถานที่ตั้งก็จะอยู่บนชั้น 19-21 ของอาคารสีลมเทรดเซ็นเตอร์รวมพื้นที่ของคลับทั้ง 3 ชั้นนั้นก็จะเท่ากับ 3,000 ตารางเมตร

โดยแต่ละชั้นก็จะประกอบด้วย

ชั้นที่ 19 ทำเป็นศูนย์ออกกำลังกาย มีอุปกรณ์สำหรับให้ออกกำลังกายมากมากพร้อมทั้งมีห้องนวดแผนโบราณ ห้องเล่นบิลเลียดห้องอ่านหนังสือ ร้านทำผมสำหรับผู้ชายและผู้หญิงและมีห้องอบไอน้ำ ซึ่งทางคลับได้สั่งซื้อระบบห้องอบไอน้ำและอบไอน้ำร้อน (เซาน่า) ระบบละ 2 ห้อง ยี่ห้อ TYLO ของสวีเดนมาติดตั้ง โดยถือกันว่าเป็นระบบห้องอบไอน้ำยี่ห้อที่แพงที่สุดในโลก

ขึ้นมาอีกชั้นคือชั้นที่ 20 ชั้นนี้จัดเป็นฟังก์ชันรูมสำหรับนักธุรกิจที่ต้องการใช้สถานที่จัดการประชุม หรือสัมมนาขนาดกะทัดรัด ที่คงจะไปจัดตามโรงแรมไม่เหมาะ เพราะจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเกินไปเนื่องจากห้องจัดประชุมขนาดเล็กของโรงแรมไม่มีจะมีก็ประเภทที่ต้องเป็นสิบ ๆ คนขึ้นไป ห้องประเภทนี้คลับได้จัดไว้ 7-10 ห้อง มีเครื่องโสตทัศนูปกรณ์ไว้พร้อมมูล

ส่วนบนชั้นที่ 21 ซึ่งเป็นชั้นเพนต์เฮาส์ นั้นถูกจัดให้เป็นศูนย์เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ มีทั้งห้องใหญ่ที่สามารถนั่งจิบเครื่องดื่มรสนุ่ม ๆ เคล้าเสียงเพลงขนาด 200 คน และมีอีกส่วนหนึ่งที่จัดแบ่งไว้เพื่อให้เป็นการพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวโดยเฉพาะจริง ๆ

นอกจากนั้นบนชั้นเดียวกันนี้ก็ยังจะมีห้องอาหารแบบยุโรปและญี่ปุ่นไว้บริการด้วยอีกอย่างหนึ่งต่างหาก

และที่พิเศษกันอย่างมโหฬารอีกอย่างก็คือ สนามฝึกกอล์ฟขนาดความยาว 35 เมตร บนชั้น 11 ซึ่งเป็นเฉลียงชมวิวของอาคาร

ก็คงเป็นคลับแห่งแรกที่มีสนามฝึกกอล์ฟลอยฟ้าให้นักกอล์ฟทั้งหลายหวดลูกไปชมวิวไป ซึ่งจะหาที่ไหนไม่ได้แล้ว

ซึ่งบริการทั้งหมดนี้สมาชิกของบางกอก อินเตอร์-คลับ สามารถเข้าใช้ได้ทันทีตั้งแต่ปลายปีนี้ซึ่งกำหนดไว้ว่าจะเป็นช่วงเปิดให้บริการของคลับอย่างเป็นทางการ

ส่วนการเป็นสมาชิกนั้นก็ไม่ยาก

บางกอก อินเตอร์-คลับแบ่งการเป็นสมาชิกออกเป็น 4 ประเภท

ประเภทแรกเรียกว่า GOLD INDIVIDUAL ต้องเสียค่าธรรมเนียมตอบรับเป็นสมาชิกคนละ 40,000 บาท

ประเภทที่สองคือ GOLD CORPORATE สมาชิกคือหน่วยงานหรือบริษัทห้างร้านเป็นสมาชิกประเภทนี้แล้วสามารถส่งรายชื่อผู้บริหารหรือใครก็ได้เข้ามา 2 คนเป็นสมาชิกของคลับโดยเสียค่าธรรมเนียมรวม 70,000 บาท

ประเภทที่สาม ADDITIONAL CORPORATE DESIGNEE ประเภทนี้เสียค่าธรรมเนียม 27,000 บาทต่อคน เป็นสมาชิกประเภทหน่วยงานหรือบริษัทที่ต้องการส่งคนของตนเข้ามาเกินกว่า 2 คน

และประเภทที่สี่เรียกว่า PLATINUM ต้องเสียค่าธรรมเนียม 100,000 บาท

ค่าธรรมเนียมที่สมาชิกแต่ละประเภทต้องเสียนี้อาจจะเรียกเป็น “A JOINING DEPOSIT” ซึ่งทางคลับจะคืนให้ครบทุกบาททุกสตางค์เมื่ออายุการเป็นสมาชิกนั้นครบ 30 ปีแล้ว

ส่วนค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากนี้ก็มีค่าบำรุงที่สมาชิกทุกประเภทจะต้องเสียเท่า ๆ กันเดือนละ 800 บาทต่อคน ยกเว้นเฉพาะสมาชิกประเภท PLATIUM ประเภทเดียวเท่านั้นที่ไม่ต้องเสียค่าบำรุงจนตลอดชีวิต

แล้วสำหรับแขกหรือครอบครัวของสมาชิกล่ะ จะเข้าใช้บริการของคลับได้หรือไม่

คำตอบคือ ได้ ถ้าเพียงแต่สมาชิกจะได้แจ้งรายชื่อของแขกที่จะเข้าร่วมใช้บริการของคลับ ไปยังฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ของคลับและคลับได้ออกบัตรเชิญสำหรับสมาชิกให้แล้วก็จะเข้าไปใช้บริการได้เหมือน ๆ กับสมาชิก โดยบัตรที่ออกให้แขกของสมาชิกหรือครอบครัวของสมาชิกนี้จะมีอายุ 3 วันส่วนค่าใช้จ่ายจะรวมเข้าในบัญชีของสมาชิกคนนั้น ๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอะไรทั้งสิ้น

“ทางคลับโดยคุณสมถวิล ภัทธไชยนันท์ หรือคุณเบ็ตตี้ ผู้จัดการฝ่ายสมาชิกพร้อมที่จะให้บริการอยู่แล้ว ขัดข้องอย่างไรโทรไปคุยกับเบ็ตตี้ที่โทรศัพท์หมายเลข 252-3932 ก็ได้” ผู้บริหารคนหนึ่งของบางกอก อินเตอร์-คลับ บอกกับ “ผู้จัดการ”

โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับจำนวนสมาชิกนั้น คลับได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะมีสมาชิกประมาณ 1,000 คนเมื่อคลับเริ่มเปิดดำเนินการซึ่งเมื่อประเมินรวมกับแขกของสมาชิกแล้วก็เป็นจำนวนที่พอเหมาะพอสม คือไม่มากเกินไปจนบริการไม่ไหวและก็ไม่น้อยเกินไปจนไม่คุ้มกับการลงทุน ซึ่งเฉพาะค่าตกแต่งภายในอย่างเดียวก็ต้องลงเงินไปแล้วถึง 25-30 ล้านบาท

“ทั้งนี้คณะกรรมการของคลับก็ได้ตัดสินใจเลือกบริษัทอาร์บาคัส ของจอห์น ไลท์บอดี้ เป็นผู้ออกแบบตกแต่งภายในเพราะเห็นฝีมือของเขาจากการตกแต่งภายในให้โรงแรมรีเจนท์รอยัลคริฟ มณเฑียร รามาการ์เด้น และโรงแรมนารายณ์มาแล้ว” ลลิดา จันทรประเสริฐ กรรมการผู้จัดการของบางกอกอินเตอร์-คลับ พูดให้ฟัง

การพักผ่อนและการออกกำลังกายนั้นเป็นสิ่งจำเป็นของคนในเมืองใหญ่อย่างยิ่ง

ขณะเดียวกันการพบปะสังสรรค์ทั้งเพื่อธุรกิจและสังคมก็เป็นสิ่งที่ผู้บริหารและนักธุรกิจคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้

บางกอก อินเตอร์-คลับ เป็นคลับที่รวมเอาความต้องการอย่างน้อยทั้ง 2 ส่วนนั้นไว้ในที่เดียวกัน ไม่ต้องให้เสียเวลาไปที่โน่นแห่ง ที่นี่แห่ง และก็จะเหมาะอย่างมาก ๆ สำหรับการเข้ามาพักผ่อนของครอบครัวในวันหยุด

จะว่าเป็นความเหมาะสมในยุคที่จะต้องประหยัดกันแล้วก็คงจะพูดได้ไม่อายใคร

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us