Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา สิงหาคม 2553
ส่งออกรถยนต์ไปอาเซียนพุ่งทะยานหลัง AFTA             
 


   
search resources

Import-Export
Automotive
เขตการค้าเสรีอาเซียน




ยอดการส่งออกรถยนต์เดือนมิถุนายน 2553 โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่องในระดับสูง ถึงร้อยละ 95.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว คิดเป็นจำนวนรถยนต์ส่งออก 69,279 คัน ส่งผลทำให้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 ที่ผ่านมา ประเทศไทยส่งออกรถยนต์ไปต่างประเทศเป็นจำนวน 418,178 คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันในปีที่แล้วที่มีจำนวนเพียง 234,822 คัน ถึงร้อยละ 78.1

ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญนอกเหนือจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โลกคือ ผลของการเปิดเสรีทางการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปิด เสรีภายใต้กรอบความตกลงอาเซียน ซึ่งมีประชากรในกลุ่มประเทศ สมาชิกรวมกันกว่า 500 ล้านคน และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ที่ผ่านมา สินค้าในกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนทั้งหมดก็ได้มีการลด ภาษีศุลกากรลงเหลือร้อยละ 0 ในกลุ่มประเทศสมาชิกเดิม 6 ประเทศ ส่งผลทำให้การส่งออกรถยนต์ของไทยไปยังอาเซียนขยาย ตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก

มูลค่าการส่งออกรถยนต์ของกระทรวงพาณิชย์ล่าสุดพบว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 ไทยส่งออกรถยนต์ไปยังอาเซียนเป็นมูลค่าสูงถึง 1,488.9 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 24.4 ของมูลค่าการส่งออกรถยนต์ทั้งหมดของไทย แต่มูลค่าการส่งออกดังกล่าวจะเป็นรองจากมูลค่าการส่งออกรถยนต์รวมไปออสเตรเลียที่มีมูลค่าสูงถึง 1,669.8 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาแยกเป็นประเภทรถยนต์แล้วพบว่า อาเซียนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของรถยนต์นั่งของไทย โดยไทยส่งออกรถยนต์นั่งไปยังอาเซียนคิดเป็นมูลค่า 1,147.2 ล้าน เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 35.3 ของมูลค่าการส่งออกรถยนต์นั่งของไทยทั้งหมด

โดยปัจจัยกระตุ้นการส่งออกที่สำคัญคือ การลดภาษีสำหรับ สินค้าในกลุ่มรถยนต์นั่ง (HS: 8703) ให้กับประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งเดิมอยู่ที่ร้อยละ 0 ถึง 5 ลงเหลือร้อยละ 0 ทั้งหมดตั้งแต่ต้นปีนี้ ทำให้มูลค่าการส่งออกรถยนต์นั่งไปยังอาเซียนในช่วงครึ่งปีแรกนี้ขยายตัวสูงขึ้นมากถึงร้อยละ 137.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีมูลค่าการส่งออกเพียง 482.3 ล้านเหรียญสหรัฐ

การที่ไทยมีโอกาสในการส่งออกรถยนต์นั่งไปยังตลาดอาเซียนสูงขึ้นนี้ นอกเหนือจากปัจจัยด้านภาษีนำเข้าที่ลดลงในกลุ่มประเทศอาเซียนแล้ว ทิศทางการขยายการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กมายังประเทศไทย จากการที่ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาค เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลทำให้การส่งออกรถยนต์นั่งของไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับกำลังการผลิตรถยนต์นั่งในปัจจุบันของประเทศในกลุ่มอาเซียน ยังไม่สามารถรองรับกับปริมาณความต้องการในประเทศได้ ทำให้โอกาสส่งออกรถยนต์นั่งของไทยไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มสูงขึ้น

ประเทศที่มีโอกาสในการขยายการส่งออกไปสูงที่สุด คือ อินโดนีเซีย จากปริมาณความต้องการที่อยู่ในระดับสูงขณะที่กำลัง การผลิตปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 2 ใน 3 ของความต้องการใช้ในประเทศ รองลงมาคือ ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ตามลำดับ ซึ่งมาเลเซียแม้จะเป็นประเทศที่มีความต้องการใช้รถยนต์นั่งสูงมากเช่นกัน แต่กำลังการผลิตรถยนต์นั่งในประเทศที่มีมากกว่าร้อยละ 90 ของความต้องการใช้ในประเทศ ทำให้โอกาสในการนำเข้ารถยนต์นั่งจากไทยน้อยกว่าอีก 2 ประเทศ

ประโยชน์ที่ได้รับจากการเปิดเสรีดังกล่าวส่งผลทำให้การส่งออกรถยนต์ไปยังอาเซียนในปี 2553 มีโอกาสขยายตัวสูง ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า มูลค่าการส่งออกรถยนต์รวมของไทยไปยังอาเซียนมีโอกาสขยายตัวสูงถึงประมาณร้อยละ 86-91 คิดเป็นมูลค่าการส่งออกประมาณ 3,300-3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มสูงขึ้นกว่าปี 2552 ที่หดตัวถึงร้อยละ 19.9 ซึ่งคิดเป็นมูลค่าการส่งออก 1,776.28 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยมูลค่าการส่งออกรถยนต์นั่งคาดว่าจะมีสัดส่วนสูงถึงกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าการส่งออกรถยนต์รวมทั้งหมดของไทยไปอาเซียน แม้การส่งออกรถยนต์นั่งไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนจะได้รับประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการค้าทำให้สามารถส่งออกได้มากขึ้นดังกล่าวมาข้างต้น แต่สินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนบางประเภท เช่น รถบัสและรถบรรทุก รวมถึงกระปุกเกียร์ จะได้รับผลกระทบจากการนำเข้าจาก ประเทศในกลุ่มอาเซียนเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีการขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นในกลุ่มสินค้าเหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสินค้าที่ได้รับผลกระทบ เชิงลบจากการเปิดเสรีทางการค้ายังมีมูลค่าไม่สูงนักเมื่อเทียบกับมูลค่าการค้าระหว่างประเทศรวมในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน แต่การนำเข้าชิ้นส่วนและรถยนต์ราคาถูกจากประเทศจีนหรืออินเดีย ที่อาจจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการภายในประเทศนั้น จะยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนก็ยังคงต้องประสบกับประเด็นปัญหาต่างๆ ในทางปฏิบัติในปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายตลาดและการแข่งขันด้านการค้าและการลงทุน และทำให้ผู้ประกอบการไทยไม่ได้รับประโยชน์การเปิดเสรีทางการค้าอย่างเต็มที่ในระยะยาว

ทั้งนี้ ภาครัฐเป็นอีกส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถรับ มือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในยุคสมัยที่การเปิดเสรีเป็นเรื่องที่ไม่ สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ นอกเหนือ ไปจากการที่ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวในด้านการพัฒนาความสามารถทางด้าน เทคโนโลยีและการผลิต รวมถึงการพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงที่มาถึงนี้ได้

การเปิดเสรีภายในอาเซียนอาจส่งผลให้กลุ่มอุตสาหกรรม ยานยนต์ของไทยได้รับประโยชน์ค่อนข้างมากโดยเฉพาะในส่วนของสินค้ารถยนต์นั่ง ซึ่งมีการส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน เพิ่มสูงขึ้น แต่อุปสรรคในมิติของกฎระเบียบภายในประเทศที่สอดคล้องกับข้อตกลง FTA และการจัดทำโครงสร้างภาษีศุลกากร ให้สอดคล้องระหว่างสินค้าต้นน้ำและปลายน้ำ ยังเป็นประเด็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องให้ความสนใจดูแล

หากประเทศไทยหวังที่จะเพิ่มโอกาสในการเป็นฐานการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนที่น่าลงทุนในภูมิภาคในระยะยาว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us