Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา สิงหาคม 2553
คนเก่าไปแต่คนใหม่ยังไม่มา             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกสิกรไทย

   
search resources

ธนาคารกสิกรไทย, บมจ.
บัณฑูร ล่ำซำ
Banking




หลังจากประสาร ไตรรัตน์วรกุล ลาออกไปรับตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทยยังไม่มีใครเหมาะสมในเวลานี้ จึงทำให้บัณฑูร ล่ำซำ ต้องรักษาการไปก่อน

ทุกครั้งที่บัณฑูรออกมาแถลงข่าว เขาจะสร้างบรรยากาศสีสันเพื่อสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้น ครั้งนี้ก็เช่นกันก่อนงานแถลงข่าวได้มีการเปิดเทปบันทึกการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 รอบชิงชนะเลิศระหว่างฮอลแลนด์กับเยอรมนีมาอุ่นเครื่อง ในวันนั้นบัณฑูร ยังได้โชว์เป่าวูวูเซลา แอฟริกาใต้ถึง 3 ครั้ง เป็นการโชว์ทิ้งท้าย ควันหลงฟุตบอลโลก

บัณฑูรยังพูดติดตลกกับสื่อมวลชนว่า “ประเทศไทยนี่ก็แปลก เวลาขาดผู้บริหารสายการบินแห่งชาติ เขาก็มาดึงคนของเรา แล้วตอนนี้ขาดผู้ว่าแบงก์ชาติ ก็มาเอาของเราไปอีก ถ้าเกิดวันหนึ่ง ไม่มีหัวหน้าพรรคจะทำยังไง”

คนแรกที่บัณฑูรกล่าวถึงคือ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ไปนั่งเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย ล่าสุด ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ไปเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

“ในส่วนตัวผมได้ร่วมงานกับคุณประสารมากว่า 6 ปีเป็นเพื่อนร่วมคิด ร่วมงาน ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และเชื่อว่าความรู้ของคุณประสารในภาครัฐและเอกชนตลอดชีวิตการทำงาน บวกกับวิสัยทัศน์และความดี จะสามารถทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี เป็นประโยชน์ต่อประเทศมหาศาล”

การลาออกของประสารมีผลอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ธนาคารกสิกรไทยต้องเฟ้นหากรรมการ ผู้จัดการใหญ่คนใหม่มาแทน

ก่อนหน้านี้จะมีข่าวลือหลายกระแสว่า คนที่จะมานั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของธนาคารกสิกรไทย คือกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของบัณฑูร แต่การประชุมคณะกรรมการเนื่องในวาระพิเศษของธนาคารเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมาก็พลิกโผ

คณะกรรมการตัดสินใจให้บัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รั้งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ไปก่อน และไม่มีกรอบ เวลาชัดเจนว่า จะต้องมีผู้บริหารมานั่งในตำแหน่งดังกล่าวเมื่อไหร่

เพราะท้ายที่สุดแล้วคนที่จะตัดสินใจให้ใครมานั่งตำแหน่งนี้ ก็คือบัณฑูรเท่านั้น!!

ในวันแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของช่วงบ่าย เกิดขึ้นภายหลังการประชุมของคณะกรรมการในวันเดียวกัน บัณฑูรบอกว่าแม้ว่าธนาคารจะไม่พร้อมแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการใหญ่ในตอนนี้ แต่ไม่มีแนวคิดดึงบุคคลภายนอกเข้ามา

ธนาคารจะคัดเลือกผู้บริหารภายในที่มีความรู้ด้านตลาดเงินและตลาดทุนเข้ามา เพราะปัจจุบันมีผู้บริหารอีกรุ่นหนึ่ง สามารถเข้ามาบริหารจัดการได้

แม้ว่าผู้บริหารที่บัณฑูรเอ่ยถึงจะมีความรู้ความสามารถก็ตาม แต่เขาเหล่านั้นจะต้องแสดงฝีมือด้านการบริหารงานให้บัณฑูรได้ประจักษ์แก่สายตาของเขา จนกระทั่งเกิดความเชื่อมั่น

จากนี้ไปจึงเป็นช่วงเวลาคัดสรรผู้บริหาร และบัณฑูรได้เลือกไว้ 4 คน คือ กฤษฎา ล่ำซำ อายุ 46 ปี ปรีดี ดาวฉาย 52 ปี ธีรนันท์ ศรีหงส์ 45 ปี และสมเกียรติ ศิริชาติไชย 46 ปี ปัจจุบันผู้บริหารทั้งหมดมีตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้จัดการ

ผู้บริหารทั้ง 4 คนมาพร้อมกับโครงสร้างใหม่แบ่งออกเป็น 4 ธุรกิจหลัก แต่บัณฑูรเรียกว่า Domain และชื่อภาษาไทยเรียกว่า “ภูมิ” เป็นคำแปลที่บัณฑูรกำหนดขึ้นเอง

ทั้ง 4 ภูมิ ประกอบไปด้วย ภูมิด้านธุรกิจมีกฤษฎาดูแล ภูมิด้านบริหารความเสี่ยงปรีดีรับผิดชอบ ส่วนธีรนันท์ดูแลภูมิด้านโครงสร้างพื้นฐาน และสมเกียรติดูแลภูมิด้านทรัพยากร

ผู้บริหารจะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานภูมิทั้ง 4 ฝ่าย หมายความว่าการบริหารจัดการทุกคนจะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบหลัก แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรู้งานภูมิอื่นๆ ด้วย

บัณฑูรบอกว่าโครงสร้างใหม่จะเป็นเวทีให้กับผู้บริหารทั้ง

4 คนได้มีโอกาสแสดงศักยภาพการบริหารจัดการ เป็นช่วงเวลาทดสอบการทำงานที่เรียกว่าสอบไล่ โดยบัณฑูรจะวางบทบาทตัวเองให้เล็ก เฝ้าดูการทำงานเท่านั้น

หากพิจารณาโครงสร้างใหม่จะพบว่าเป็นโครงสร้างเดิมที่มีอยู่แล้ว และผู้บริหารทั้ง 4 คนก็อยู่ในกรอบทำงานเดิมอยู่ในปัจจุบัน แต่ผู้บริหารเหล่านี้เป็นลูกหม้อของธนาคารอย่างแท้จริง โดยเฉลี่ยมีประสบการณ์ทำงานร่วมกับธนาคารกว่า 20 ปี รอบรู้การทำงานทุกด้าน

แม้ตอนนี้จะยังไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่า บัณฑูรจะเลือกใครกันแน่ ระหว่างกฤษฎาในฐานะลูกพี่ลูกน้องของเขาเอง เพราะธนาคารนี้ใครๆ ก็ทราบกันดีว่าเป็นของตระกูลล่ำซำ หรืออาจจะเป็นผู้บริหารมืออาชีพที่กำลังถูกเฝ้ามองอยู่ก็อาจเป็นได้

แต่ก็ยังไม่มีใครหยั่งรู้ความในใจของบัณฑูรแท้จริงว่า โจทย์ของเขาคืออะไรกันแน่ คงต้องรอเวลาเหมาะสมเท่านั้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us