Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน4 สิงหาคม 2553
“คิริน”รุกเอเชียใต้หลังซื้อเนเชอรัลฯเล็งโล๊ะนะมาชะ4รสชาติทิ้ง             
 


   
search resources

สยามคิริน เบฟเวอร์เรจ, บจก.
Green Tea




คิริน ลั่นกลองรบสร้างอาณาจักรเครื่องดื่มบุกเซาท์อีสเอเชีย หลังบริษัทแม่ซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็น จ่อผนึกกำลังการตลาด การผลิต วัตถุดิบ ลุยสิงคโปร์ มาเลเซีย ปีหน้าแตกไลน์เครื่องดื่มแคธิกอรี่ใหม่ ปรับแผนโหมชาดำทีเบรค หวังดันยอดโต 50% โล๊ะนะมาชะ 4 รสชาติทิ้ง

นายฮิเดยูกิ อิวาโอะ ประธานบริษัท สยาม คิริน เบฟเวอร์เรจ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายชาดำพร้อมดื่มทีเบรค เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทคิริน โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มในประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทเอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ จำนวน 14.7% จากเทมาเส็ก ที่ประกาศขายหุ้นทั้งหมด เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมานี้ซึ่งเป้าหมายการซื้อหุ้นในครั้งนี้ของบริษัทคิริน เพื่อต้องการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากปัจจุบันคิรินดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มในประเทศไทยกับเวียดนาม ขณะที่บริษัทเอฟแอนด์เอ็นมีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย สิงคโปร์และมาเลเซีย

“เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทคิรินได้ซื้อหุ้น 100% ของบริษัทเนเชอรัลฟู้ดส์ ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มนมพร้อมดื่ม ชีส ทั้งนี้เพื่อสร้างการเติบโตธุรกิจนอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น” นายฮิเดยูกิ กล่าว

ยุทธศาสตร์การเข้าซื้อหุ้นของคิริน มีโอกาสที่จะผนึกกำลังกับบริษัทเอฟแอนด์เอ็นในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การทำตลาด หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทเอฟแอนด์เอ็นในประเทศสิงคโปร์ นำเข้าเบียร์คิรินไปจำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งสิงคโปร์และมาเลเซีย ทั้งสองประเทศเป็นตลาดที่คิรินยังไม่เข้าไปทำตลาด นอกจากนี้ยังมีโอกาสร่วมมือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และวัตถุดิบ

ซึ่งเอฟแอนด์เอ็น มีความเชี่ยวชาญกลุ่มผลิตภัณฑ์นม ขณะที่คิรินมีความเชี่ยวชาญเครื่องดื่มที่หลากหลาย โดยปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดชาพร้อมดื่ม เครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ น้ำผลไม้ และกาแฟ ในประเทศญี่ปุ่น

อีกทั้งคิรินยังมีโอกาสใช้ฐานการผลิตจากโรงงานเอฟแอนด์เอ็น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการทุ่มงบ 2,000 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งใหม่ ที่ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จากปัจจุบันชาเครื่องดื่มของคิรินได้จ้างให้บริษัทโตโย แพ็ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้ผลิต โดยนโยบายการดำเนินตลาดของคิริน วางแผนขยายสินค้าหลากหลายแคธิกอรี่
ซึ่งในปีหน้านี้บริษัทได้เปิดตัวสินค้ากลุ่มใหม่ จากปัจจุบันบริษัทมีชาดำพร้อมดื่มภายใต้”ทีเบรค” เป็นสินค้าเรือธง หลังจากเปิดตัวกว่า 1 ปี มีส่วนแบ่ง 8% และชาเขียวนะมาชะ ซึ่งเป็นสินค้าตัวแรกของบริษัท มีส่วนแบ่ง 1% จากตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่าดว่า 6,000 ล้านบาท

“หลังจากเปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่มนะมาชะถึง 6 รสชาติ ปรากฎว่า สินค้าได้รับการตอบรับไม่มี จึงตัดสินใจปรับรสชาติที่ไม่สร้างรายได้ออกจากตลาด เหลือเพียง 2 รสชาติเท่านั้น และไม่ได้ดำเนินการตลาดแต่อย่างใด

ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 80 ล้านบาท ดำเนินการตลาดเชิงรุกชาดำพร้อมดื่มทีเบรค โดยแบ่งเป็น 30 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญโปรโมชันครั้งแรกและครั้งใหญ่ของบริษัท “ Yes! Tea Break! แจกBB ทุกวัน และนิสสัน มาร์ช ทุกเดือน” โดยขูดรหัสแถบสีเงิน ที่ด้านหลังคล้องคอขวด แล้วพิมพ์ TB ตามด้วยรหัส ส่งเอสเอ็มเอส มา ที่ 4890011 ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม -31 ตุลาคม นี้

พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวรสชาติใหม่”ทีเบรค ไวท์เกรปมิ้นท์”และภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ทั้งนี้คาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะกระตุ้นยอดขายเติบโต 50%

สภาพตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 20-30% มาอย่างต่อเนื่องเมื่อปี 2551-2552 ขณะที่ตลาดชาดำมูลค่า 1,000 ล้านบาท เติบโต 40% ส่วนตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่า 4,000 ล้านบาท พบว่าอัตราการดื่มของผู้บริโภคเริ่มคงที่ และมีโออิชิเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 60% อย่างไรก็ตามเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ นับว่าเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่ดีและมีศักยภาพ

สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนปีหน้านี้การขยายเครื่องดื่มกลุ่มใหม่ผลักดันให้บริษัทเติบโต 2-3 เท่าตัว และในระยะ 3-5 ปี วางเป้าหมายเติบโตมากกว่า 20%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us