|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"การบินไทย" จับมือ "ไทยเกอร์แอร์" ตั้งโลว์คอสต์แข่ง "แอร์เอเชีย" เตรียมเซ็นเอ็มโอยู วันนี้ วงในแฉข้อมูลลึก “บิ๊กการบินไทย” ดอดหารือบอร์ดหนุนซื้อหุ้น ” ไทเกอร์ แอร์เวย์ส” 51% อ้างอุดจุดอ่อนเปิดเกมชิงตลาดภูมิภาค เขี่ยนกแอร์แค่ในประเทศ พร้อมแฉเด็ก ปชป.เดินตามรอยหางแดง ใช้กลยุทธ์ไม่ต่างกลุ่มชินคอร์ปซื้อหุ้นไทยแอร์เอเชีย จนครองตลาด Low Cost “ปิยสวัสดิ์” เปิดเกมล็อบบี้บอร์ด
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยแผนการลงทุนสายการบินต้นทุนต่ำแห่งชาติ (national low cost airline) โดยเตรียมจับมือกับกลุ่มไทเกอร์แอร์โฮลดิ้งส์ ธุรกิจในเครือเทมาเสก เพื่อเปิดดำเนินการ "ไทย ไทเกอร์ แอร์เวย์ส" ขึ้นในเมืองไทย ในวันที่ 2 สิงหาคม 2553 นี้ การบินไทยเตรียมจะลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจเบื้องต้น (MOU) กับกลุ่มไทเกอร์ แอร์เวย์ส โฮลดิ้ง ซึ่งปัจจุบันไทเกอร์ฯจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ และจะเริ่มเปิดบินตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2553 เป็นต้นไป
โดยวางเป้าหมายเพื่อเข้าไปชิงส่วนแบ่งผู้โดยสารระหว่างประเทศจำนวนมหาศาลในภูมิอาเซียน และเอเชีย-แปซิฟิก แข่งขันกับเจ้าตลาดอย่างกลุ่ม แอร์เอเชีย ซึ่งขณะนี้เปิดเครือข่ายสายการบินโลว์คอสต์ครอบคลุมถึง 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ส่วน นกแอร์ซึ่งเป็นสายการบินลูกที่การบินไทยถือหุ้นใหญ่ 39.5% จะวางตำแหน่งให้พัฒนาเส้นทางบินเฉพาะภายในประเทศเท่านั้น เนื่องจากยังไม่พร้อมจะขยายเที่ยวบินไปต่างประเทศ อีกทั้งเคยเปิดบินมาแล้วในอดีต เส้นทางกรุงเทพฯ-เดลี แต่ล้มเหลว การดำเนินงานขาดทุนมโหฬาร
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เมื่อวันที่ 30 กรกฎคม 2553 ที่ผ่านมา ได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริษัท การบินไทย ในวาระพิเศษโดยฝ่ายบริหารต้องการหารือนอกรอบกับบอร์ดบางส่วนในเรื่องแผนการลงทุนสายการบินต้นทุนต่ำแห่งชาติ โดยการบินไทยจะเข้าไปซื้อหุ้นของไทเกอร์ แอร์เวย์ส ในสัดส่วน 51% โดยนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) และฝ่ายบริหารการบินไทยเสนอแผนการตั้งสายการบินตันทุนต่ำ (Low Cost Airline) ว่าเป็นการดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ TG100 Strategy โดยจะให้ ไทเกอร์ แอร์เวย์ส บินในเส้นทางภูมิภาค
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายบริหาร (EMM) ได้ประชุมเมื่อสัปดาห์ผ่านมาเห็นชอบแผนดังกล่าวและเตรียมเรื่องเสนอบอร์ดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2553 และหากได้รับความเห็นชอบได้เตรียมกำหนดลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในความร่วมมือการร่วมทุน (Joint Venture) กับ ไทเกอร์ แอร์เวย์ส ในวันนี้ (2 สิงหาคม 2553)
ก่อนหน้านี้ฝ่ายบริหารการบินไทยได้เคยนำเสนอที่ประชุมบอร์ดแล้วอย่างไม่เป็นทางการเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยกำหนดยุทธศาสตร์ ไทเกอร์ แอร์เวย์ส ชิงส่วนแบ่งตลาดในภูมิภาคซึ่ง นกแอร์ ไม่สามารถตอบสนองให้การบินไทยได้
ด้านนายปิยสวัสดิ์เคยกล่าวก่อนหน้านี้ โดยระบุว่า การบินไทยตั้งนกแอร์ เมื่อ 6 ปีก่อน ถือหุ้น 39.5% ล่าสุดได้ร่วมมือกันตามแผนกลยุทธ์ Two-Brand Strategy เพื่อทำการบินร่วม (Code share) ในเส้นทางภายในประเทศ เช่น พิษณุโลก, อุบลราชธานี และเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน แต่นกแอร์มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนเครื่องบิน ส่วนตลาดการบินในภูมิภาคซึ่งมีจุดบินที่น่าสนใจอีกมาก ทั้ง ฮานอย คุนหมิงแต่เป็นจุดอ่อนของการบินไทยที่ไม่สามารถเปิดการตลาดได้อย่างเต็มที่ ซึ่งต้องจะต้องแก้ไขในเรื่องนี้
สำหรับแผนดำเนินงานของไทเกอร์แอร์เวย์สระยะแรก หลังจากการบินไทยเข้าถือหุ้นใหญ่แล้ว คือ จะใช้เครื่องบิน A 320 จำนวน 3 ลำ ทำการบินในเส้นทางภูมิภาค โดยการบินไทยจะต้องใช้เงินประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 51% ในไทเกอร์แอร์เวย์ส โดยส่วนหนึ่งจะใช้กองทุนสวัสดิการพนักงานการบินไทย ส่วนที่เหลืออีก 49% จะเป็นของผู้ถือหุ้นเดิม คือ สิงคโปร์แอร์ไลน์ และไรอันแอร์ ซึ่งสิงคโปร์ แอร์ไลน์ มีกลุ่ม เทมาเส็กเป็นผู้ถือหุ้น ดังนั้นการที่ผู้บริหารการบินไทย ภายใต้การนำของนายปิยสวัสดิ์ทำอยู่ในขณะนี้ไม่ต่างจากตอนที่กลุ่มชินคอร์ปซื้อหุ้นแอร์เอเชีย และทำให้เกิดไทยแอร์เอเชีย เป็นสายการบินต้นทุนต่ำเข้ามาเปิดทำการบินภายในประเทศไทยได้ และไทยแอร์เอเชียเข้ามาใช้ไทยเป็นฮับแย่งตลาดการบินไทยโดยตรง และกลายเป็นผู้ครองตลาดในภูมิภาคในขณะนี้
“ตอนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลถูกครหาว่า นโยบายเสรีการบินเอื้อให้ไทยแอร์เอเชีย ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือชินคอร์ป ซึ่งมีกลุ่มเทมาเส็กถือหุ้นอยู่ด้วย ทำให้ไทยแอร์เอเชียเข้าข่ายทำผิด พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจการบิน ในกรณีสัดส่วนการถือหุ้นไม่เป็นไปตามที่กำหนด เนื่องจากตามกฎหมายกำหนดให้สัดส่วนการถือหุ้นของธุรกิจสายการบินจะต้องมีสัดส่วนของคนไทยรวมไม่ต่ำกว่า 51% ซึ่ง ไทยแอร์เอเชีย ถือหุ้นโดย บริษัท แอร์เอเชีย 49 % และบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทยในสัดส่วน 51 % แต่ใน ชินคอร์ปฯ มีต่างชาติถือหุ้นอยู่กว่า 35%”
|
|
|
|
|