บอร์ดทีโอทีปัดฝุ่นแผนลงทุน 3G ทั่วประเทศยันต้องให้เสร็จทันการประมูลใบอนุญาต 3G ของ กทช. คาดไอซีทีเสนอ ครม.อนุมัติใน 2-3 สัปดาห์งบเท่าเดิม 1.9 หมื่นล้านบาท

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมาว่าได้มอบหมายผู้บริหารทีโอที ไปสรุปแผนธุรกิจที่บอร์ดเห็นว่าเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะต้องดำเนินการในระยะ 5 ปีข้างหน้า มารายงานให้บอร์ดทราบภายใน 4-6 สัปดาห์นี้รวม 2 เรื่องคือ 1.การลงทุนและใช้ประโยชน์จากโครงข่ายเคเบิล และ2.แผนการลงทุนโครงการโทรศัพท์มือถือ3Gทั่วประเทศ ซึ่งแผนการลงทุน 3G นั้นบอร์ดเห็นว่าควรเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อให้ทันกับการประมูลใบอนุญาต 3G ของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.)ในช่วงปลายเดือนก.ย.ที่จะถึงนี้

‘แผนการลงทุน 3G เป็นเรื่องที่บอร์ดให้ความสำคัญโดยได้แยกมาพิจารณาเป็นพิเศษ คาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือนส.ค.-ก.ย.นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ฝ่ายบริหารทำรายละเอียดมาใหม่ เพื่อที่บอร์ดจะพิจารณาว่าอะไรคุ้มไม่คุ้ม และให้เข้าใจแผนลงทุนทั้งหมด ซึ่งอาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปบ้าง เพื่อให้การลงทุนมีความรัดกุมและรวดเร็วมากขึ้น’

อย่างไรก็ตามในขั้นตอนการดูรายละเอียดแผนการลงทุน 3G นั้นถือเป็นคนละส่วนกับที่การเสนอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินลงทุน 1.9 หมื่นล้านบาท เพราะส่วนดังกล่าวถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงไอซีที ที่จะต้องเสนอให้ครม.อนุมัติซึ่งคาดว่าจะเร่งพิจารณาใน 2-3 สัปดาห์นี้ แม้บอร์ดเห็นว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดแผนการลงทุนไปบ้าง แต่ก็ยังยึดกรอบเงินลงทุนเดิมที่ 1.9 หมื่นล้านบาทซึ่งถือว่าเหมาะสมอยู่แล้ว

นายอารีพงศ์ กล่าวว่า ยังมีหลายประเด็นที่บอร์ดต้องเข้าไปทบทวนเพื่อให้การดำเนินการและสถานะทีโอทีปรับตัวดีขึ้น เช่น แผนการควบคุมรายจ่าย และการหารายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งต้องมีการส่งแผนการตลาด รูปแบบการออกแพคเกจต่างๆ อีกทั้งต้องมีการปรับบทบาทเป็นทีโอทีใหม่
ใช้จุดแข็งจากการลงทุนโครงข่ายทั่วประเทศไปแล้วให้เกิดประโยชน์มากที่สุดส่วนปัญหาที่พบว่ามีลูกค้ายกเลิกการใช้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ของทีโอทีนั้น ก็ได้สั่งให้ฝ่ายบริหารเข้าไปตรวจหาสาเหตุว่ามาจากอะไร และขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้น

ส่วนประเด็นการจัดซื้อการจัดจ้างที่ล่าช้าจนส่งผลให้ทีโอที ไม่สามารถแข่งขันกับเอกชนได้ ในขณะที่ธุรกิจโทรคมนาคมมีการแข่งขันรุนแรงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้น ทีโอทีจะต้องไปพิจารณารายละเอียดเพื่อเปรียบเทียบกับรัฐวิสาหกิจอื่นเพื่อหาสาเหตุว่าเหตุใดจึงจะสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้รวดเร็ว โปร่งใสและไม่เกิดการร้องเรียนขึ้น

‘บอร์ดยังมีความกังวลถึงฐานะการเงินของทีโอทีด้วย เช่นกัน เพราะอาจเกิดปัญหาสภาพคล่องได้ หากไม่เร่งหารายได้เพิ่ม ซึ่งฝ่ายบริหารทีโอที แจ้งว่า ปัจจุบันได้คุมค่าใช้จ่ายและเร่งหารายได้เพิ่ม และจะพยายามใช้ทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วย’