Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์2 สิงหาคม 2553
เปิดโรดแมปเอเชียประกันภัย พลิกประกันสู่สินค้าสะดวกซื้อ             
 


   
search resources

Insurance
เอเชียประกันภัย 1950, บจก.




เส้นทางเอเชียประกันภัยพิชิตเป้า 3,000 ล้านปี 54 เดินกลยุทธ์ต่อเนื่องหนีคู่แข่งเจาะตลาดน่านน้ำสีคราม เปิดตัวกรมธรรม์ “กันชน” จ่ายค่าซ่อม 1 แสน อุดช่องว่างประกันชั้น 3 เดิมที่คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี เร่งยกเครื่องระบบ-ช่องทางขายครั้งใหญ่ กระจายหน้าร้านสู่ปั๊มน้ำมันทั่วประเทศ

ปี 2548-2549 ที่เอเชียประกันภัยเปิดตัว “เอเชีย 3 พลัส” ประกันภัยรถยนต์รูปแบบใหม่ในขณะนั้น พร้อมกับรุกสร้างแบรนด์อย่างหนักหน่วง จนแบรนด์เอเชียประกันภัยเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ถือเป็นกรณีศึกษาทางการตลาดที่น่าสนใจของแวดวงประกันภัย ที่พยายามเจาะช่องว่างตลาดของสินค้าประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 ทั่วไป โดยเอเชีย 3 พลัสจะให้ความคุ้มครองให้รถยนต์ของทั้ง 2 ฝ่าย และจ่ายค่าซ่อมรถให้ถึง 100,000 บาท ไม่ต้องตรวจสภาพและไม่จำกัดอายุรถ ในขณะที่ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 ทั่วไปจะคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณี โดยจะคุ้มครองความเสียหายของชีวิตร่างกายหรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ไม่มีความคุ้มครองต่อตัวรถ รถสูญหายหรือไฟไหม้ เรียกได้ว่า เป็นประกันรูปแบบใหม่ที่ให้ความคุ้มครองเทียบได้กับประกันชั้น 1 แต่จ่ายในราคาชั้น 3

ตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงครึ่งปีแรกของปีนี้เป็นช่วงที่เอเชียประกันภัยกำลังปรับโครงสร้างองค์กรให้ลงตัว หลังจากเปิดรับธนาคาร DEG-KFW หรือธนาคารด้อยอินเวสติชิโอนส์ อุนด์ เอ็น วิกคถุง เกเซลชัฟท์ เอ็มบีเอช ซึ่งเป็นธนาคารระดับแนวหน้าของเยอรมนี เข้ามาเป็นพันธมิตรถือหุ้นในบริษัทสัดส่วน 24.5% และใส่เม็ดเงินลงทุนเข้ามา 99 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2551 พร้อมกับประกาศเป้าหมายว่าจะขยับขึ้นเป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำของธุรกิจ ติด 1 ใน 10 ของอุตสาหกรรมภายใน 5 ปี และมีเบี้ยประมาณ 3,000 ล้านบาท

การยกเครื่ององค์กรในด้านการปรับปรุงโครงสร้างตัวแทนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ถือว่าได้ทำตามแผนงานไปแล้ว แม้ตัวเลขของตัวแทนขายจะลดลงฮวบฮาบเหลือเพียง 4,000 คนจากเดิมที่มีกว่า 10,000 คน อาจจะเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงลุกค้าได้ไม่ครอบคลุมพอ นิค จันทรวิทุร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 จำกัด อธิบายว่า เป็นเพราะบริษัทต้องการคุณภาพมากกว่าปริมาณ จึงเลือกให้เหลือเฉพาะตัวแทนที่ทำงานขายประกันให้กับบริษัทแบบเต็มเวลาเท่านั้น ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่ทุ่มเทให้กับงานด้านการขายอย่างเต็มที่

ผลจากการปรับโครงสร้างตัวแทนทำให้ในครึ่งปีแรกบริษัทฯ มียอดเบี้ยประกันเพียง 200 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 1,300 ล้านบาท แม้จะดูว่าน้อยและยังไปไม่ถึงครึ่งทาง แต่นิคก็มั่นใจว่าตัวเลขในครึ่งปีหลังจะกลับมาตีตื้น กลับมาพิชิตเป้าที่ตั้งไว้ได้ ซึ่งจะมาจากการออกสินค้าใหม่ที่ตรงใจลูกค้า ระบบการขายที่รวดเร็ว ช่องทางขายที่เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายกว่าเดิม เป็นการพลิกมิติของประกันภัยให้กลายเป็นสินค้าสะดวกซื้อ จับต้องได้ง่าย ทั้งหมดจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักให้ปีหน้ามีเบี้ยรับก้าวกระโดดไปถึง 3,000 ล้านบาทด้วย

ล่าสุดเอเชียประกันภัยเปิดตัว “กรมธรรม์กันชน” กรมธรรม์รูปแบบใหม่ที่นิคบอกว่า คือ การหนีจากตลาดที่แข่งขันรุนแรงมาสู่ตลาดบลูโอเชี่ยน โดยมาจากการศึกษาพฤติกรรมลูกค้าและข้อมูลตลาดที่พบว่า ในไทยมีรถยนต์กว่า 26 ล้านคัน แต่มีการทำประกันภาคสมัครใจเพียง 5 ล้านคัน ส่วนใหญ่ทำประกันประเภท 1 และประเภท 3 ซึ่งประกันภาคสมัครใจจะให้ความคุ้มครองทรัพย์สิยของรถคู่กรณีในการชนที่เกิดขึ้นทุกครั้ง ดังนั้นจึงหมายความว่าอีก 15 ล้านคันที่เหลือมีการทำประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งกฎหมายบังคับไว้เท่านั้น ซึ่งประกันตาม พ.ร.บ. ดังกล่าวจะให้ความคุ้มครองกรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเท่านั้น ไม่รวมถึงทรัพย์สินของคู่กรณี

“เมื่อมีรถมากถึง 15 ล้านคันที่ซื้อแค่ พรบ. แสดงว่าโอกาสที่เราจะโดนคันอื่นชน 3 ใน 4 มักเป็นรถที่ไม่ได้ทำภาคสมัครใจเอาไว้ นั่นหมายความว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเราต้องรับผิดชอบเอง ถือเป็นภาระของเจ้าของรถ”

จากข้อมูลดังกล่าวเอเชียประกันภัยจึงพัฒนากรมธรรม์แบบใหม่ขึ้น เจาะกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความเสี่ยง แต่ก็ยังต้องการจ่ายเบี้ยในราคาประหยัด โดยให้ความคุ้มครองกรณีถูกรถคู่กรณีที่ไม่มีประกันภัยภาคสมัครใจเฉี่ยวชนในวงเงินสูงสุด 100,000 บาท สินค้ามี 3 รูปแบบ คือ กรมธรรม์กันชน ราคา 999 บาท ซี่งเป็นการซื้อเพิ่มเติมเสริมไปกับกรมธรรม์เดิมที่มีอยู่, กรมธรรม์ พ.ร.บ.กันชน คือ การซื้อประกันภัย พ.ร.บ. คู่กับกรมธรรม์กันชน ราคา 1,559 บาท และกรมธรรม์ 3 กันชน คือ ประกันภัยประเภท 3 คู่กับกรมธรรม์กันชน ราคา 3,333 บาท ซึ่ง 2 รูปแบบหลังอยู่ระหว่างรออนุมัติจาก คปภ. ในส่วนกรมธรรม์นี้ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 60-100 ล้านบาท

สำหรับระบบและช่องทางการขาย นอกเหนือจากตัวแทน และศูนย์บริการบนสถานีรถไฟฟ้า 3 แห่ง ได้แก่ หมอชิต ศาลาแดง และชิดลมแล้ว เอเชียประกันภัยอยู่ระหว่างการดีลกับปั๊มน้ำมันทั่วประเทศอีกหลายแห่ง เพื่อให้ตัวแทนเข้าไปเปิดศูนย์ให้บริการภายในปั๊มน้ำมัน และตั้งเป้าจะขยายให้เป็น 100 ปั๊มภายใน 3 เดือนจากเดิมที่มีอยู่ 20 ปั๊ม ซึ่งนิคมองว่าเป็นจุดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่า โดยเป็นการเดินกลยุทธ์ต่อเนื่องเพื่อปรับภาพของสินค้าประกันให้เป็นสินค้าสะดวกซื้อ เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน และสามารถทำตลาดเรียกลูกค้าให้เข้ามาซื้อได้ด้วยตัวของมันเอง จากเดิมที่ต้องใช้ตัวแทนวิ่งเข้าหากลุ่มเป้าหมายเพื่อนำเสนอสินค้า ทั้งนี้การเข้าไปขายในปั๊มน้ำมันจะต้องมีการวางระบบรองรับการทำงานของตัวแทนแบบเรียลไทม์ ทั้งการออกกรมธรรม์คุ้มครองได้ทันที ระบบการชำระเงิน ระบบยืนยันความคุ้มครองผ่าน SMS ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการวางแผนด้านระบบก่อนจะเปิดใช้งานในเร็วๆ นี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us