Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน1 สิงหาคม 2553
แฟชั่นฯทุ่มลงทุน 600 ล.ลุยไลฟ์สไตล์มอลล์ ปลายปีหน้าได้ยลโฉม             
 


   
search resources

สยามรีเทล ดีเวลล้อปเม้นท์, บจก.
Shopping Centers and Department store




แฟชั่น ไอส์แลนด์ ทุ่ม 600 ล้านบาท ลุยโปรเจกต์โครงการไลฟ์สไตล์มอลล์ ส่งแฟชั่น ไอส์แลนด์สู่โมเดล “ไฮบริดจ์มอลล์” ปลายปีหน้า เตรียมยลโฉม ชี้ ย่านรามอินทราเติบโตสูง อสังหาริมทรัพย์บูม คนรวยอยู่เยอะ ส่งครึ่งปีแรกทราฟฟิคในศูนย์เพิ่มขึ้น 7% ทั้งปีเชื่อไม่ต่ำกว่าไปกว่านี้แน่นอน

นายประเสริฐ ศรีอุฬารพงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท สยามรีเทล ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของโครงการไลฟ์สไตล์มอลล์ บนบริเวณพื้นที่ 18 ไร่ ที่ติดกับแฟชั่น ไอส์แลนด์ จากเบื้องต้นที่ต้องมีการลงทุนกว่า 600 ล้านบาทนั้น ล่าสุด ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างไปบ้างแล้ว โดยเริ่มลงเสาเข็มอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2554 นี้

สำหรับโครงการไลฟ์สไตล์มอลล์นั้น ถือเป็นมอลล์ที่จะจับกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม มุ่งในเรื่องของร้านอาหารมากกว่าสินค้าแฟชั่น ซึ่งหลังจากที่โครงการนี้เสร็จสมบูรณ์ จะส่งผลให้แฟชั่น ไอส์แลนด์ จะกลายเป็นศูนย์การค้าที่มีโมเดลในรูปแบบของ ไฮบริด มอลล์ อย่างในหลายๆประเทศที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยความเป็นไฮบริดครั้งนี้ คือ กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน รวมถึงรูปแบบของศูนย์และโพซิชันนิง และกลุ่มเป้าหมาย ที่แตกต่างกัน แต่อยู่ด้วยกันนั่นเอง

การที่ทางศูนย์มุ่งสู่โมเดลไฮบริดมอลล์ครั้งนี้ เนื่องจากพบว่า ปัจจุบันประชาที่อาศัยอยู่บริเวณย่านรามอินทรา จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นมากมาย และราคาต่อหลังก็ค่อนข้างสูง ส่งผลให้ย่านนี้กลายเป็นพื้นที่สำหรับผู้บริโภคระดับพรีเมียมมากขึ้น ซี่งเดิมแฟชั่น ไอส์แลนด์ จะจับกลุ่มเป้าหมายระดับกลางขึ้นไป เชื่อว่าไลฟ์สไตล์มอลล์จะเข้ามาช่วยเสริม และตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายระดับพรีเมี่ยมได้เป็นอย่างดีเช่นกัน

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมการเติบโตของแฟชั่น ไอส์แลนด์ ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา พบว่า ในแง่ของทราฟฟิก หรือคนที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ เติบโตขึ้นประมาณ 7% เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เฉลี่ยในวันธรรมดามีผู้เข้ามาใช้บริการ 65,000 คนต่อวัน และมียอดรถเข้ามาใช้บริการราว 16,000-17,000 คันต่อวัน ขณะที่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ มียอดผู้เข้ามาใช้บริการ 80,000-100,000 คนต่อวัน และมียอดรถเข้ามาใช้บริการ 22,000-23,000 คันต่อวัน ทั้งนี้ ในสิ้นปี ทางศูนย์เชื่อมั่นว่า จะมียอดผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น 7% จากปีที่ผ่านมาได้

โดยกลยุทธ์หลักที่จะนำมาใช้ช่วงครึ่งปีหลังนี้ ทางศูนย์เตรียมงบประมาณไว้ประมาณ 15 ล้านบาท จากงบการจัดกิจกรรมทั้งปีที่วางไว้ที่ 30 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมเฉลี่ยอีกเดือนละ 1งาน รวม 6 งานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มขยับตัวขึ้น บวกกับปัญหาทางการเมืองคลี่คลายลง มั่นใจว่า กำลังซื้อในช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากสัญญาณการจับจ่ายในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งผู้บริโภคมียอดการใช้จ่ายต่อบิลเพิ่มมากขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us