การแทงหวยใต้ดินก็เป็นการแทงตัวเลขที่อาศัยอิงกับหวยรัฐบาล เพียงแต่ต้องแอบ
ๆ ซ่อน ๆ แทง และมีวิธีการแทงตลอดจนการตั้งรางวัลจ่ายต่างกับหวยรัฐบาลอยู่บ้าง
เน้นในเรื่องความสะดวกในการแทง การรับรางวัล ถ้าเทียบกับหลักการตลาดแล้ว
หวยใต้ดินก็เปรียบเสมือนการขายสินค้าแบบ DIRECT SALES
การแทงหรือซื้อหวยใต้ดินที่เป็นที่นิยมของลูกค้ามีด้วยกัน 7 แบบใหญ่ ๆ
ด้วยกันดังต่อไปนี้
แทง 3 ตัวบน หมายถึงการแทงตัวเลข 3 ตัวท้ายของรางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาลในแต่ละงวดซึ่งมีเพียงหนึ่งรางวัล
โอกาสที่ลูกค้าจะแทงถูกมีเพียง 1/1,000 เท่านั้น ตัวเลขที่จะแทงก็คือ 000-999
ถ้าแทงถูกเจ้ามือจะจ่ายในอัตรา 1/500 หรือลูกค้าแทง 1 บาท เจ้ามือจะต้องจ่าย
500 บาทแก่ผู้ที่แทงถูก อัตรานี้ไม่แน่นอน บางเจ้าจ่าย 1/600 หรือ 1/400
ก็มี แล้วแต่ท้องที่หรือแล้วแต่การตกลงกันระหว่างลูกค้ากับเจ้ามือ
จะเห็นได้ว่าเจ้ามือมีโอกาสได้เปรียบอย่างมากเพราะถ้าคิดตามหลักแล้วในเมื่อลูกค้ามีโอกาสถูกเพียง
1/1,000 การจ่ายเงินก็ควรจะเป็นไปตามหลักการนั้น คือ 1 บาทเจ้ามือต้องจ่าย
1,000 บาท
แทงโต๊ด3 ตัวบน คล้ายกับแบบแรกคือแทงเลข 3 ตัวท้ายของรางวัลที่ 1 ของหวยรัฐบาล
แต่สลับตำแหน่งตัวเลขที่แทงได้ ไม่จำเป็นต้องแทงให้ถูกตามตำแหน่งที่ออก เช่นรางวัลที่
1 ประจำงวดวันที่ 16 ธันวาคม 2528 เลขที่ออก 4006920
ในการแทงโต๊ดให้ถูกสามารถแทงได้ 6 แบบคือ 920ล 902ล 209, 290, 029 และ
092 การจ่ายรางวัล สำหรับผู้แทงถูก เจ้ามือจะจ่ายให้ในอัตรา 1/100 โดยทั่วไปการจ่ายในลักษณะที่
2 นี้เจ้ามือทั่วไปจะจ่ายเหมือนกันหมด แต่มีบางรายไม่รับการแทงประเภทนี้เพราะยุ่งยากในการ
“เคลียร์” ตัวเลข
แทง 2 ตัวบน หลักการแทงเหมือนกับแทง 3 ตัวบน เมื่อแทงถูกเจ้ามือจะจ่าย
1/70 ในขณะที่ลูกค้ามีโอกาสแทงถูกเพียง 1/100
แทงเลขวิ่งบน วิธีนี้เป็นที่นิยมกันมากสำหรับผู้ที่รักได้เสีย หมายถึงการแทงเลขตัวหนึ่งตัวใดก็ได้ท้ายเลข
3 ตัวหลังของรางวัลที่ 1 อัตราการจ่ายก็เพียง 1/3 เหตุที่นิยมกันก็เนื่องจากโอกาสในการถูกมีอยู่ค่อนข้างสูงสำหรับรายที่
“โชคดี” และ “สายป่านยาว” ผู้ที่นิยมแทงจะแทงทวีคูณจำนวนเงินเป็น 2 เท่าทุกครั้งไปจนกว่าจะถูก
หรือหมดเงิน
แทง 3 ตัวล่าง หมายถึง การแทงเลขท้าย 3 ตัว ในการออกสลากกินแบ่งของรัฐบาล
ในอดีตมีทั้งหมด 5 รางวัล แต่ในปัจจุบันลดเหลือ 3 รางวัล โดยแบ่งเป็นเลขท้าย
4 ตัวเสีย 2 รางวัล การแทงของลูกค้ายังเหมือนเดิม โดยเอาเลขท้าย 3 ตัวของรางวัล
4 ตัวมารวมเป็น 5 รางวัลเหมือนเดิม อัตราการจ่ายเมื่อแทงถูก 1/100
แทง 2 ตัวล่าง แทงเลขท้าย 2 ตัวของสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งมีอยู่รางวัลเดียว อัตราจ่ายเมื่อถูก
1/70
และสุดท้ายแทงวิ่งล่าง หมายถึงการแทงเลขตัวใดตัวหนึ่งในรางวัลเลขท้าย 2
ตัว อัตราจ่ายเมื่อแทงถูกคือ ?
ไม่ว่าใครจะแทงแบบไหนก็ตาม สัจจะอย่างหนึ่งของวงการหวยใต้ดินก็คือเจ้ามือเป็นฝ่ายได้เปรียบทุกประตู
เจ้ามือรายใดที่เจ๊งเป็นการฟ้องอยู่ในตัวว่าเจ้ามือรายนั้นต้องมีการกระทำในลักษณะที่ละเมิด
“กฎ” ของการเป็นเจ้ามือ
กฎของเจ้ามือหวยเถื่อนว่ากันอย่างง่ายก็คือ อย่าเสี่ยง อย่าประมาท และอย่าโลภ
อย่าเสี่ยงก็คือ ไม่ว่าจะเชื่อเรื่องเลขล็อกหรือเลขเด็ดอาจารย์ดีหรือไม่ก็ตาม
จะต้องพยายาม “ทำหวย” ให้การแทงของลูกค้าในแต่ละตัวเลขอยู่ในอัตราใกล้เคียงกันหรือจำนวนเงินใกล้เคียงกันเพราะเจ้ามือได้กำไรอยู่แล้ว
30-50 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนเงินที่แทง (เช่น แทง 3 ตัวบน โอกาสถูกของลูกค้า
1/1,000 เจ้ามือจ่าย 1/500 รับแทงทั้งหมด 40,000 บาทโอกาสกำไร 10,000-20,000
บาท)
เจ้ามือบางรายไม่เชื่อ ใครแทงเลขล็อกรับหมดไม่เฉลี่ยจำนวนเงิน เวลาได้ได้มากจริง
แต่เวลาลูกค้าแทงถูก หงายหลังแน่ การเป็นเจ้ามือที่ดีก็คือไม่สนใจว่าเลขตัวไหนล็อกหรือไม่ล็อก
ใช้หลักกระจายความเสี่ยงที่ไม่มีโอกาสขาดทุนเลย ตัวไหนลูกค้าทุ่มซื้อมากเกินเกณฑ์ปกติก็ไม่ต้องรับ
อย่าประมาท เจ้ามือหลายรายที่ต้องขาดทุนไปเพราะขาดความละเอียดรอบคอบในการทำหวย
โดยทั่วไปจะปิดรับแทงประมาณเที่ยงคืนก่อนวันหวยออก เพื่อที่จะได้มีเวลารวบรวมตัวเลข
และจำนวนเงินที่แทงทั้งหมดในการกระจายความเสี่ยง เพราะโดยทั่วไปหากไม่ใช่ตัวเลขที่ลือว่าเป็นตัวเลขล็อก
สามารถกระจายออกไปได้โดยการนำเงินไปแทงเจ้ามือรายอื่น ขณะเดียวกันก็อาจจะรับแทงจากเจ้ามือด้วยกันได้ด้วย
หากตัวเลขที่รับเข้ามายังมีจำนวนเงินแทงน้อยอยู่
แต่เจ้ามือบางรายเนื่องจากประมาท ไม่รอบคอบ รวบรวมตัวเลขและจำนวนเงินไม่หมด
หรือบางครั้งเกิดจากระบบไม่ดี เช่น กว่าจะได้ตัวเลขและจำนวนเงินที่มีผู้แทงมาได้หมด
ก็จวนจะได้เวลาออกสลากกินแบ่งรัฐบาล ทำให้ไม่มีโอกาสกระจายความเสี่ยงออกไปโอกาสเจ๊งเกิดขึ้นได้แม้ว่าจะน้อย
คือเลขที่กระจายไม่ออกคือตัวเลขที่ลูกค้าแทงถูก
อย่าโลภ อาจจะพูดได้ว่า 8-9 ในจำนวน 10 ราย ที่เจ๊งไปล้วนแต่เกิดจากเจ้ามือโลภมากเกินไปทั้งสิ้น
ใครแทงอะไรรับหมด เจ้ามือประเภทนี้จะมีฐานะดีขึ้นอย่างรวดเร็วในกรณีที่โชคดีแต่เท่าที่ไต่ถามในวงการมักจะอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี
เพราะเจอลูกค้าที่แทงหนักเข้างวดใดงวดหนึ่งก็ชักจะไปไม่รอดและยิ่งเจอลูกค้าแทงถูกในระยะใกล้
ๆ กัน ก็เชื่อขนมกินได้เลยว่ามี 2 อย่างคือไม่ฆ่าตัวตาย ก็ถูกเขาฆ่า หรือหนีหายสาบสูญไป
(มียกเว้นอยู่บ้าง อ่านล้อมกรอบเรื่อง “ใครก็เป็นเจ้ามือหวยได้”)
เจ้ามือที่หากินอยู่ได้ในขณะนี้ และหากินติดต่อกันมานาน นอกเหนือไปจากทุนหนา
อิทธิพลสูงแล้ว ต่างก็ดำเนินธุรกิจนอกกฎหมายประเภทนี้ด้วยกฎของการกระจายความเสี่ยงทั้งสิ้น
มีบ้างเหมือนกันที่เพราะศักดิ์ศรีจำเป็นต้องรับไว้เช่นเมื่องวดวันที่ 1
ธันวาคม 2528 ว่ากันว่าเจ้ามือรายใหญ่ภาคตะวันออก รับแทงเลข 62 ไว้ 5 แสนบาท
หวยออกมาตามนั้นจริง ๆ เลยต้องควักเงินจ่ายไปสด ๆ 35 ล้านบาท อาศัยที่เคยกำไรมาตลอดเฉลี่ยงวดละ
4 ล้านบาท รวมทั้งมีรายได้จากการประกอบธุรกิจอื่นในทำนองเดียวกันจึงไม่กระเทือนกัน
แต่คนที่แทงถูกหวยครั้งนี้ แม้จะเอา “ผู้ใหญ่” ไปรับเงินด้วยคงอยู่ไม่เป็นสุขนัก
เพราะตัวอย่างในวงการหวยใต้ดินมีขึ้นแล้วแทบทุกภาค วงการนี้ถ้าใครเบี้ยวกันไม่ต้องเป็นเงินแสนเงินล้านบาทหรอก
เงินไม่กี่หมื่นก็ฆ่ากันแล้ว
เขียนรายงานชิ้นนี้ใครจะว่าส่งเสริมให้มีการเล่นหวยใต้ดินก็คงต้องยอม เพราะการส่งเสริมให้เล่นหวยรัฐบาลเขาก็ทำกันอย่างโจ๋งครึ่มทุก
ๆ 15 วัน และขึ้นชื่อว่าเล่นหวยแล้ว มันก็เลวพอกันหมดนั่นแหละ สำหรับคนแทง