ซีเอ็มจี ปรับตัวรับการแข่งขัน หลังสงครามแฟชั่นเปลี่ยนทิศสู่พื้นที่ต่างจังหวัด ล่าสุด รีเฟรชแบรนด์ 'จอห์น เฮนรี่' ผุดคอลเลกชั่น 'โมเดิร์นฟิต' เอาใจหนุ่มอินเทรนด์ หวังขยายฐานลูกค้าอายุ 20-30 ปี พร้อมโรดทริปจัดโปรโมชั่นครั้งใหญ่บุกตลาดภูธรในรอบนานกว่า 2 ปี เร่งสร้างการรับรู้และกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค มั่นใจสิ้นปีขยายตัว 20%

ตลาดเสื้อผ้าแฟชั่นผู้ชายในโซนต่างจัดหวัดกำลังระอุ เมื่อผู้เล่นบนสังเวียนแห่เปิดศึกโปรโมชั่นอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง หลังจากตลาดในกรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบจากการเมือง ส่งผลผู้บริโภคชะลอการจับจ่าย และนักท่องเที่ยวหายไปเกือบ 20% ขณะที่ผู้บริโภคในต่างจังหวัดไม่เพียงไม่ได้รับผลกระทบ แถมยังมีกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากเป็นช่วงที่ภาคเกษตรให้ผลรายได้ดี จึงไม่แปลกที่ในช่วงเวลานี้ พื้นที่ต่างจังหวัดจะกลายเป็นสมรภูมิรบที่กำลังเข้มข้น

'ตอนนี้การแข่งขันมุ่งไปที่ตลาดต่างจังหวัด เพราะลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบจากการเมืองมากนัก และยังมีกำลังซื้อมากขึ้นด้วย ต่างจากกรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หายไป ซึ่งกว่าจะเข้าสู่ภาวะปรกติคาดว่าต้องใช้เวลาอีก 2 เดือน' เป็นคำกล่าวของ วราวุธ โรจนประไพ รองผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายชายกลุ่ม 2 และผู้ช่วยผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์จอห์น เฮนรี่ (JOHN HENRY) บริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (ซีเอ็มจี)

ด้วยทิศทางการแข่งขันดังกล่าว 'จอห์น เฮนรี่' เสื้อผ้าสำหรับผู้ชายสัญชาติอเมริกัน หนึ่งในแบรนด์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของค่ายซีเอ็มจี จึงเปิดเกมรุกตลาดภูธรเช่นเดียวกับคู่แข่ง หวังทดแทนยอดขายในช่วง 2 เดือนก่อนที่จะหายไปเกือบ 30% ด้วยการโรดทริปไปตามต่างจังหวัด โดยในงานจะมีนักแสดงมาร่วมกิจกรรมพร้อมมอบโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าครบ 3,000 บาท 5,000 บาท และ 9,000 บาท ซึ่งถือเป็นการจัดโปรโมชั่นครั้งใหญ่ของจอห์น เฮนรี่ในรอบนานกว่า 2 ปี ภายใต้งบ 5 ล้านบาท โดยกิจกรรมดังกล่าวเริ่มที่จังหวัดขอนแก่นเป็นแห่งแรก ปรากฏว่าได้การตอบรับเป็นอย่างดี เห็นได้จากยอดขายจากการจัดงานเพียง 1 วัน มีการเติบโตถึง 200% ซึ่งเป็นตัวเลขเท่ากับการทำยอดขายในเวลา 1 เดือน และหลังจากนี้ก็จะทยอยเดินสายจัดกิจกรรมไปที่หาดใหญ่, นครศรีธรรมราช และนครราชสีมา

สำหรับการจัดโรดทริปของจอห์น เฮนรี่ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ต้องการขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัดเท่านั้น แต่ผู้เล่นรายนี้ยังต้องการบุกเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปีลงมา ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบเที่ยว ชอบแฟชั่นด้วย จากเดิมที่กลุ่มลูกค้าหลักของจอห์น เฮนรี่จะมีอายุ 30 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่เข้ามาในเมืองไทยนานถึง 25 ปี แต่กลับไม่มีความเคลื่อนไหวทางด้านการตลาดมากนัก ดังนั้นเพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้ดียิ่งขึ้น ทางซีเอ็มจีจึงปรับภาพลักษณ์แบรนด์จอห์น เฮนรี่ ให้มีความทันสมัยและมีอิมเมจการเป็นเสื้อผ้าสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนเริ่มทำงาน

ด้วยการลอนช์คอลเลกชั่น 'Modern Fit' สินค้ารุ่นใหม่ที่อยู่ในไลน์ของ John Henry Young ซึ่งเป็นสินค้ากลุ่มหลักของจอห์น เฮนรี่ ที่มีสัดส่วน 60% และกลุ่ม John Henry Casual 40% ทั้งนี้ วราวุธ บอกว่า โมเดิร์น ฟิตเป็นคอลเลกชั่นล่าสุดที่เน้นความพอดีตัวของผู้สวมใส่ มีความเป็นแฟชั่น และมีสีสันให้เลือกมากขึ้น โดยสินค้าตัวนี้จะวางราคาอยู่ในระดับกลาง เช่น เสื้อเชิ้ต เริ่มตั้งแต่ 1,350-1,500 บาท กางเกงเริ่มที่ 1,500-1,700 บาท ขณะเดียวกันเพื่อตอบโจทย์และเข้าถึงลูกค้าได้ทุกระดับ ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ทางซีเอ็มจีเตรียมเปิดตัวสินค้าระดับพรีเมียมในไลน์ของโมเดิร์น ฟิต ซึ่งจะมีราคาเพิ่มขึ้นจากเดิมราว 20-30%

ทั้งนี้จะเห็นว่าการทำตลาดของจอห์น เฮนรี่ อาจแตกต่างจากบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากซีเอ็มจีไม่ได้เป็นเพียงผู้ได้สิทธิ์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายในไทย รวมทั้งภูมิภาคอินโดจีน ยกเว้นประเทศเวียดนามแล้ว ซีเอ็มจียังได้สิทธิ์ในการผลิต ออกแบบและพัฒนาสินค้าด้วย โดยผู้บริหารค่ายซีเอ็มจี เล่าว่า จอห์น เฮนรี่ในไทยน่าจะเป็นแห่งเดียวที่มีไลน์แคชวล เพราะจากการศึกษาตลาด พบว่า เป็นเซกเมนต์ที่มีการเติบโต สอดคล้องไปกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของผู้ชายในยุคนี้ที่สนใจเสื้อผ้าสไตล์ลำลองและอิงแฟชั่นมากขึ้น ขณะที่บริษัทแม่จะเน้นเพียงกลุ่มบิสซิเนสเท่านั้น เพราะไม่ต้องการให้มีสินค้าทับซ้อนกับแบรนด์อื่นที่มีอยู่ในเครือ

สำหรับการเปิดเกมรุกในครั้งนี้ ทางซีเอ็มจีมั่นใจว่าจะช่วยจอห์น เฮนรี่ เติบโตขึ้น 20% และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 4% จากตลาดเสื้อผ้าผู้ชาย (ในช่องทางห้างสรรพสินค้า) มูลค่า 8,000-9,000 ล้านบาท โดยมีคู่แข่งกว่า 100 ราย แบ่งเป็นกลุ่มแคชวล 50% และบิสซิเนส 50%