|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เครือแมคแคน เวิล์ด กรุ๊ป โดยเอเยนซี่ “เอ็ม.อาร์.เอ็ม เวิลด์วายด์”กับการใช้โซเชียล มีเดีย สร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์ แอลจี โลลลี่ป๊อป โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยทีน จนสามารถสร้างยอดขายทะลุเป้าเกือบ 200 เปอร์เซ็นต์ จากเป้าหมายตั้งไว้ไตรมาสสอง 40 ล้านบาท พร้อมกับคว้ารางวัล “ซิลเวอร์ ไลอ้อน”จากเวที คานส์ ฝรั่งเศส เป็นตัวแรกของประวัติศาสตร์ของวงการดิจิตอล เอเยนซี่ เรียกได้ว่า ได้ทั้งเงินและกล่องไปพร้อมกัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปรากฏการณ์สุดฮอตของวงการสื่อออนไลน์นาทีนี้ “โซเชียล เน็ทเวิร์ค” หรือ เครือข่ายสังคมออนไลน์ เป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลอย่างสูงยิ่ง กับ ใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งในกลุ่มคนทั่วไป สังคม นักการตลาด และนักโฆษณา แต่การใช้สื่อโซเชียล มีเดีย เพื่อตอบโจทย์ทางการตลาด สินค้า และบริการแล้ว โดนใจลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่บ่อยครั้งนักที่ปรากฏให้เห็น
ทั้งนี้ เนื่องจาก การใช้โซเชียล มีเดีย เป็นเครื่องมือสื่อสารการตลาดให้ประสบความสำเร็จ มียอดขายสินค้าเติบโตทะลุเป้าหมายและถูกสังคมเครือข่ายพูดถึงเป็นวงกว้าง จำต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ และการรู้ลึก รู้จริงถึงพฤติกรรม ความต้องการของลูกค้า เป็นคัมภีร์เบิกทางไปสู่ความสำเร็จที่แต่ละเอเยนซี่ต้องไปขบคิดกันอย่างจริงจัง
เลือกแอลจี-ตีโจทย์แตก
ดังเช่นค่าย “ เอ็ม.อาร์.เอ็ม. เวิลด์วายด์ ประเทศไทย จำกัด” เอเยนซี่ผู้ดูแลด้านการตลาดดิจิตอล ในเครือแมคแคน เวิลด์ กรุ๊ป ประเทศไทย ได้พิสูจน์ให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดกับการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ “แอลจี โลลลี่ป๊อป หรือ LG Lollipop” โดยทำเป็นแคมเปญ “เลิฟ โค้ด”สร้างความฮือฮาให้กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมากมาย
ส่งผลทำให้ยอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้เติบโตถึง 200 เปอร์เซ็นต์จากเป้ายอดขายที่วางไว้ 40 ล้านบาทในไตรมาสสองของปีนี้ อีกทั้งยังสามารถคว้ารางวัล “ซิลเวอร์ ไลอ้อน” ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของหมวดสินค้าในงานเทศกาลโฆษณานานาชาติ ของปี 2553 หรือ International Advertising Festival 2010 จัดขึ้นที่เมือง คานส์ ประเทศ ฝรั่งเศส หรือ เวทีคานส์ ไลอ้อน กล่าวได้ว่า งานนี้ ได้ทั้งเงินและกล่องไปเป็นที่เรียบร้อย
หัวใจความสำเร็จ ครั้งนี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฯ “จิณณ์ เผ่าประไพ” เปิดเผยว่า ก่อนที่จะเริ่มสร้างสรรค์งานชิ้นใดๆให้กับลูกค้า บริษัทจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการรู้ลึก รู้จริงในพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งในกรณีของโทรศัพท์มือถือแอลจี โลลลี่ป๊อป บริษัทได้ทำการวิจัยศึกษา ความต้องการ ความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นกลุ่มวัยทีนอย่างจริงจัง ทำให้สามารถนำมาเป็นโจทย์หลัก โดยเฉพาะประเด็นความรัก ซึ่งเป็นสิ่งที่คู่กับวัยรุ่นได้ถูกนำมาเป็นแกนหลักในการดำเนินเรื่องราว
ขณะเดียวกัน ในการมองหาเครื่องมือและนวัตกรรมใหม่ๆ เพือสร้างความแตกต่างให้กับโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ท่ามกลางการแข่งขันอย่างดุเดือดกับโทรศัพท์มือถืออีก 2400 รุ่นในตลาด เอ็ม.อาร์.เอ็ม.ฯจึงได้คิดทำ “ออนไลน์ ซี่รี่” หรือ เว็บบิโซด (Webisode ) ขนาด 5 ตอน โดยใช้ชื่อว่า “Lollipop Love Story” เพื่อใช้สื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยเรื่องราวได้ออกแบบให้เป็นภาพยนตร์ มีการใช้ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง “ ต้น นิธิวัฒน์ ธราธร” 1 ใน 6 ผู้กำกับหนังเงินล้าน “ แฟนฉัน” และจาก “ Season Change” จากค่ายจีทีเอช ซึ่งเชี่ยวชาญในการสร้างภาพยนตร์รักใสๆของวัยรุ่นและได้รับการตอบรับจากคนดูกลุ่มวัยทีนเป็นอย่างดี ส่งผลให้เว็บบิโซด Lollipop Love Storyในเว็บ YouTube มีคนไปเยี่ยมชมทั้ง 5 ตอนรวมหลายหมื่นคน
จากการสำรวจผลตอบรับของแคมเปญ Lollipop Love Storyในโซเชียล เน็ทเวิร์ค ของผู้จัดการ 360 องศารายสัปดาห์ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พบว่า ในเว็บ Youtube นั้น เว็บบิโซด Lollipop Love Story ตอน 1-ตอน 5 มีผู้ชมเฉลี่ย 27,225 ถึง32,359 วิว ใน Facebook และ Hi5 มีจำนวนสมาชิกในเว็บเพจกว่าหมื่นคน
โซเชียล เน็ทเวิร์ค ปีนี้เทรนด์ยังแรง
ทางด้าน ภาพรวมวงการโฆษณาเมืองไทย ปัจจุบันสัดส่วนการทำโฆษณาผ่านทางโซเชียล มีเดีย โดยภาพรวมผ่าน ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ค ยูทูป ไฮไฟว์ และอื่น มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 10% จาก ตัวเลขของการทำโฆษณาออนไลน์ในไทยที่ยังอยู่ในระดับ 1-2% จากเม็ดเงินโฆษณาจากทุกสื่อรวมๆ 9 หมื่นล้านบาท
“ กระแสความนิยมในเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) โดยเฉพาะเฟซบุ๊ค มีอัตราการเติบโตสูง จากจำนวนผู้ใช้ 1.5 ล้านคนในปี 2552 เพิ่มเป็น 5 ล้านคนในปีนี้ ขณะที่ลูกค้าก็หันมาใช้งบประมาณผ่านดิจิตอล แคมเปญมากขึ้นเป็น 10 -15 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมที่ผ่านมา 3ปีใช้งบผ่านมีเดียประเภทนี้เพียง 1-2% เท่านั้น และคาดว่า มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องแบบเท่าตัวทั้งภาพรวมการใช้สื่อ และของเอ็มอาร์เอ็ม เห็นได้จากลูกค้าทุกรายของเราจะให้พัฒนากลยุทธ์ดิจิทัล แคมเปญควบคู่กับการสื่อสารผ่านช่องทางหลัก" จิณณ์ บอก
ขณะที่ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ สหรัฐ สวัสดิ์อธิคม กล่าวเสริมว่า แนวโน้มดิจิทัล แคมเปญในสื่อออนไลน์ กระแสความสนใจจะอยู่ในกลุ่มโซเชียล มีเดีย "เฟซบุ๊ค" ที่มีอัตราการเติบโตของจำนวนผู้ใช้สูง มีการใช้กลยุทธ์การสื่อสาร ด้วยการทำแฟนเพจบนเฟซบุ๊คของแบรนด์ต่างๆ ที่จะใช้เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค
"พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคสังคมออนไลน์วันนี้ โดยเฉพาะเซ็กเม้นต์สินค้าที่มีราคาแพง อาทิ รถยนต์ มือถือ ผู้บริโภคจะหาข้อมูล เปรียบเทียบและตัดสินใจจากอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นหลัก ทั้งนี้ เฟซบุ๊ค ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพในการสื่อสาร พูดคุยกับผู้บริโภคที่ได้ผล เช่นเดียวกับ เว็บบอร์ด และยูทูบ อีกทั้งยังสามารถให้ข้อมูลและกิจกรรมของแบรนด์กับสมาชิกได้อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา" บอสใหญ่ฝ่ายสร้างสรรค์ บอกในตอนท้าย
…..................
10 เทรนด์ของดิจิตอล
คัมภีร์พัฒนาแคมเปญใหม่แบบ MRM
1. ก้าวไปสู่ Customer Utility (การแลกเปลี่ยน แบ่งปันความรู้ข้อมูลของผู้บริโภค)อย่างแท้จริง ที่สามารถ พัฒนาไปเป็นส่วน หนึ่งของไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
2. ความล้ำหน้าใน Social Media
3. Social Network มีอยู่ในทุกที่
4. โพสต์ Video ด้วยตัวเอง - การเป็นคนดังได้ในชั่วข้ามคืน
5. การเติบโตของ iPhone Applications อย่างรวดเร็ว
6. iPad คือ gadget ตัวล่าสุด
7. ควรมีการใช้ QR code หรือรหัสตอบรับในการสื่อสารผ่านมือถือ ให้แพร่หลายกว่านี้
8. Augmented Reality series 2 หรือ AR เป็นการผสานเทคโนโลยี่กับโลกเสมือนจริง ไม่ได้มีอยู่บนหน้าจอ เท่านั้น แต่สามารถปรากฎบนมือถือได้ด้วย
9. ดิจิตอลจะเป็นสิ่งที่ช่วยดึงคนจาก offline เข้าสู่โลก online
10. การผนวกกันของ online และ offline ให้อยู่ในโลกเดียวกัน หรือ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Phygital
|
|
|
|
|