Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ สิงหาคม 2528








 
นิตยสารผู้จัดการ สิงหาคม 2528
จุดอ่อน จุดแข็ง ของพลโทชวลิต ยงใจยุทธ ผู้ยืนอยู่กลางเขาควาย ระหว่างซ้ายกับขวา             
 


   
search resources

ชวลิต ยงใจยุทธ
Political and Government




พลโทชวลิตกับวัย 53 นับว่ายังมีพลังเหลือเฟือในการสร้างสรรค์งาน อาจกล่าวได้ว่าเป็นนักคิดร่วมสมัยคนหนึ่ง โดยเฉพาะความคิดในลักษณะที่เป็นยุทธศาสตร์ ในขณะเดียวกันก็เป็นนักยุทธวิธีผู้กลิ้งตามสถานการณ์จนถูกมองว่าเป็นพวก “มะกอกสามตะกร้า ปาไม่ถูก”

เป็นผู้ที่จับเงื่อนไขสังคมไทยในสถานการณ์ปัจจุบันได้มั่น เป็นผู้ที่อยู่ในจุดได้ดุลระหว่าง “ทหารกับพรรคการเมือง” หรือที่เรียกกันว่าระหว่าง “ปืนกับทุน” และในเฉพาะหน้ายังสามารถยืนอยู่ในจุดที่ได้ดุลใน “เกมแห่งอำนาจ” ระหว่างบุคคลด้วย

ด้วยความเป็นผู้ที่มองสถานการณ์ทะลุนี่เอง ทำให้พาตัวเข้าไปสู่ทุกกลุ่มทั้งทางตรงและทางอ้อม ด้านหนึ่งสามารถสร้างการยอมรับได้อย่างกว้างขวาง สร้างความเข้าใจได้อย่างดีแต่ในขณะที่สถานการณ์มีลักษณะวิกฤต ความพัวพันเหล่านั้นมักจะกลายเป็นหอกทิ่มแทงและสร้างความระแวงให้เกิดแก่ทุกกลุ่ม

และถึงแม้จะเป็นนักยุทธศาสตร์ แต่ด้วยเงื่อนไขไม่สมบูรณ์เพียงพอที่จะเสนอสิ่งที่ตนคิดออกมาสู่สาธารณชนทั้งหมด ทำให้บางด้านมีลักษณะคลุมเครือมาก ทำให้แต่ละกระดานการเมืองนั้น มี “ได้” มี “เสีย” ก้ำกึ่งกันอยู่

พฤติกรรมทางการเมืองของพลโทชวลิตนั้นเข้าข่ายที่ว่า “ซ้ายก็ว่า ขวาก็บ่น” มีลักษณะเป็นนักปฏิรูปที่ฝ่ายซ้ายพิจารณาไม่ตกว่าเป็นพวกกระตุ้นหรือทำลายปฏิวัติกันแน่ ในขณะเดียวกันฝ่ายขวาก็ไม่มั่นใจว่า นักปฏิรูปคนนี้ต้องการรักษาระบบหรือทำลายระบบ ปัจจุบันลักษณะดังกล่าวนี่เองที่ทำให้มีผู้กล่าวว่า พลโทชวลิตรอดมาได้ถึงปัจจุบันและมีแนวโน้มว่ามีอนาคตด้วยนั้นก็นับว่าเก่งเอาการอยู่

ถ้าจะถามว่า ใครคือผู้มีอิทธิพลต่อความคิดของพลโทชวลิต ก็ต้องตอบกันอย่างตรงไปตรงมาว่า คือตัวพลโทชวลิตเองเป็นด้านหลัก อาศัยท่าทีและจิตใจเปิดกว้างรับความคิดจากทุกฝ่ายแต่ตกผลึกออกมาเป็นความคิดเฉพาะตน ฝ่ายซ้ายอย่างประเสริฐ ทรัพย์สุนทร นั้น “ล้างมือ” จากกันมานานเต็มที และนับว่าตราประทับเรื่องฝ่ายซ้ายนั้นก่อให้เกิดปัญหาให้กับพลโทชวลิตไม่น้อย โดยเฉพาะต่อส่วนบนของสังคมไทย และจากจุดนี้เองก่อให้เกิดความมั่นใจในอนาคตทางการเมืองการทหารของพลโทชวลิตในเบื้องหน้า นับว่าสางปัญหานี้ยากเย็นเต็มที

ส่วนความคิดของพลโทชวลิตต่อกลุ่มฝ่ายซ้ายหรือกลุ่มก้าวหน้า นั้นตามคำสั่ง 66 ในระยะนี้เป็นการเบนจุดของการต่อสู้เอาชนะคอมมิวนิสต์เข้ามาสู่ในเมือง เปิดกว้างที่จะระดมความคิดจากทุกฝ่ายเพื่อแก้ปัญหาชาติร่วมกันอย่างสันติ

เรื่องการดำเนินการตามคำสั่ง 66 ซึ่งมีพลโทชวลิตเป็นแกนหลักนี้ ในบ้านเราถึงจะพูดกันกว้างขวางแต่ส่วนใหญ่มักไม่ใส่ใจให้การพิจารณาอย่างลึกซึ้ง ในขณะที่ต่างประเทศให้ความสนใจและทำการศึกษาลงไปในรายละเอียดอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรือกระทั่งอย่างเอลซัลวาดอร์ เพราะนับเป็นแนวทางใหม่ที่ก้าวหน้าอย่างยิ่งในการเอาชนะคอมมิวนิสต์ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน

พลโทชวลิตเป็นนักอ่าน นักเขียน ตัวยงคนหนึ่ง อ่านหนังสือทุกประเภท เป็นผู้ที่สรุปความคิดรวบยอดในแต่ละเรื่องได้ไวและรัดกุม ผู้ที่ใกล้ชิดมักเห็นพลโทชวลิตสูบบุหรี่ควันโขมงแล้วก็ก้มหน้าก้มตาเขียนในสิ่งที่ตนคิดยิกๆ แม้ลายมือจะถูกกล่าวว่า “ไม่ได้เรื่อง” เท่าใดนักแต่ความคิดที่หลั่งออกมานั้นกลับตรงกันข้าม และบางชั่วยาวหลายคนอาจเคยเห็นท่าทีเหม่อลอยตกภวังค์ความคิด มีคนตีความให้ฟังว่า “ท่านกำลังคิดถึงความทุกข์ยากของประชาชน”

ยามรื่นรมย์โดยเฉพาะอยู่กับเพื่อนกับน้องร่วมอาชีพที่รักใคร่นั้น พลโทชวลิตจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษชนิดมีเสน่ห์ทั้งต่อเพศเดียวกันที่ร่วมอาชีพและต่อเพศตรงข้าม และถ้าครึ้มถึงขั้นอาจจะขึ้นเวทีร้องเพลงได้อย่างไม่ขัดเขิน ยืนยันได้ว่า “เพราะมาก” ถูกจังหวะทีเดียว และในยามเช่นนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ น้ำสีอำพัน ถ้าเป็นวิสกี้ก็คือจอนห์นี่ วอล์คเกอร์ (ตราดำ) และถ้าบรั่นดีก็ต้อง เอ็กซ์.โอ.

พระที่ห้อยคอนั้นมีมากมายเหลือเกิน อาทิ สมเด็จฯ บางขุนพรหม และสมเด็จจิตรลดา ฯลฯ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us