สำหรับคนที่มีทุกอย่างในชีวิตแล้วบางครั้งอะไรที่เป็นลาภยศสรรเสริญได้มาก็อาจจะไม่มีความหมายเท่าไหร่นักก็ได้
แต่ถ้าการที่คนคนหนึ่งสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาจากคนที่การศึกษาน้อยมาก
และใช้ความสามารถจนกระทั่งกิจการเจริญเติบโตเป็นปึกแผ่นอย่างเช่น เทียม
โชควัฒนา การถูกยอมรับเป็นเรื่องที่สมควรจะต้องมี
และการยอมรับในจุดสุดยอดคือการที่สถาบันการศึกษาระดับสูงแห่งหนึ่งได้มอบเกียรติคุณยอมรับความสามารถของเทียม
โชควัฒนา
และนี่คือที่มาของ ดร.เทียม โชควัฒนา ปริญญาเอกสาขาบริหารธุรกิจ "เราพิจารณากันอย่างละเอียดถี่ถ้วนที่สุดแล้วเราเห็นว่าคุณเทียมเหมาะจริง
ๆ ที่จะได้ปริญญา" ดร.บุญเอิน รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
เล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟัง
"ท่านเองก็ไม่เคยทราบมาก่อนว่าท่านจะได้เพราะท่านไม่เคยคิดแล้วจู่
ๆ มหาวิทยาลัยก็แจ้งมาให้ทราบ พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะ และตัวท่านเองก็ดีใจที่สถาบันการศึกษายอมรับ
และเห็นความสามารถของท่าน" เพชรรัตน์เลขาของเทียม โชควัฒนา พูดกับ "ผู้จัดการ"
วันที่ 14 สิงหาคม 2528 คืออีกวันหนึ่งของวงศ์ตระกูลโชควัฒนาที่เป็นเกียรติอย่างสูงจากการที่เทียม
โชควัฒนา ได้รับพระราชทานปริญญาเอกกิตติมศักดิ์สาขาบริหารธุรกิจจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่สวนอัมพร
สำหรับเทียม โชควัฒนาคนที่เคยแบกกระสอบน้ำตาล หิ้วเสื้อยืดตราลูกไก่ไปขาย
วันนี้เวลานี้สำหรับตัวเขาแล้วได้ขึ้นสู่สูงสุด และสามารถลงสู่สามัญได้ทุกเมื่อ
ภายในปี 2528 นี้ นอกจากปริญญาเอกที่ได้รับมาเมื่อเดือนสิงหาคมนี้แล้วก่อนหน้านี้ไม่นานเทียมก็ยังได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด
ในภาคเอกชนจากสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นอีก
เทียม โชควัฒนา ในที่สุดก็ได้กลายเป็นตำนานหนึ่งที่จะต้องถูกกล่าวขวัญถึงในอนาคตอีกนานแสนนาน
นี่แหละเขาถึงว่าคนคนหนึ่งเมื่อมีชีวิตอยู่ก็ควรจะทำอะไรในชีวิตให้ความหมาย
ไม่เช่นนั้นแล้วถึงอายุจะยืนแค่ไหนก็ไม่มีสาระและก็คงจะต้องตายเบาอย่างขนนก
"ผู้จัดการ" เคยลงเรื่องเทียม โชควัฒนา-คุณภาพซื่อสัตย์ราคายุติธรรมมาแล้วในแบบก่อน
ๆ ท่านผู้อ่านที่พลาดสามารถจะสั่งซื้อได้จากเรา
และอีกไม่นาน "ผู้จัดการ" จะจัดพิมพ์หนังสือฉบับพิเศษเกี่ยวกับการได้รับปริญญาครั้งนี้ของเทียมรวมทั้งขั้นตอนการคัดเลือกมาให้อ่านกันในเร็ววันนี้