"มูลเหตุที่ทำให้ริเริ่มโครงการหมันชุมชนก็เพื่อรณรงค์ให้มีการทำหมันชายเพิ่มขึ้น
เพราะการทำหมันชายนั้น สะดวก รวดเร็ว ทำง่ายกว่า ปลอดภัยกว่า และประหยัดกว่าการทำหมันหญิง
แต่จะเปลี่ยนทัศนคติของผู้ชายก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ในที่สุดก็ต้องนำเอาแผนทางการตลาดเข้าช่วยจนประสบผลสำเร็จเป็นทีน่าพอใจ"
โครงการหมันชุมชนเป็นโครงการของสมาคมพัฒนาประชาชนและชุมชน
ปัญหาที่สำคัญที่สุดเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชาติ คือการที่ประเทศไทยมีอัตราเพิ่มของประชากรสูงมาก
อย่างเช่นเคยสูงถึงร้อยละ 3.2 ในปี 2522
อัตราเพิ่มระดับนี้ไม่เป็นสัดส่วนกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ
อีกมากดังที่ทราบกันอยู่
โครงการวางแผนครอบครัวแห่งชาติได้พยายามที่จะลดอัตราการเพิ่มของประชากรโดยการขยายการวางแผนครอบครัวให้มากขึ้น
แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาความล่าช้า การขาดแคลนบุคลากรและงบประมาณ ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ชนบทห่างไกลไม่ได้รับบริการนี้อย่างทั่วถึง
รัฐบาลและภาคเอกชนได้พยายามช่วยกันแก้ปัญกาเหล่านี้ด้วยการฝึกอบรมบุคลากรขึ้นทำหน้าที่เผยแพร่
รวมทั้งอาสาสมัครต่างๆ เพื่อช่วยงานด้านวางแผนครอบครัว จนทำให้บริการได้กว้างขวางกว่าเดิม
มีผู้ใช้บริการวางแผนครอบครัวมากขึ้น ทำให้อัตราการเพิ่มของประชากรลดลงอย่างน่าพอใจ
คือเหลือเพียงร้อยละ 2.1 ในปี 2524
แต่อัตราเพิ่มระดับนี้ก็ยังสูงเกินไป รัฐบาลมีเป้าหมายต้องการลดอัตราการเพิ่มให้เหลือร้อยละ
1.5 เมื่อสิ้นสุดแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 5 ในปี 2529 ซึ่งทางปฏิบัตินับเป็นเรื่องยากที่จะให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
จากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้รับการวางแผนครอบครัวพบว่า ยังมีคู่สมรสที่มีบุตรเพียงพอแล้วจำนวนมากที่ยังไม่ได้ใช้การคุมกำเนิดอยู่ หรือถ้าใช้ก็ใช้วิธีชั่วคราวอันนับเป็นการไม่เหมาะสม
เพราะหากไม่ต้องการมีบุตรเพิ่มอีกแล้ว วิธีที่ดีที่สุดก็คือการทำหมัน
และเมื่อพิจารณาจำนวนผู้ทำหมันไปแล้วก็พบว่า ส่วนใหญ่เป็นการทำหมันหญิงด้วยอัตราเพิ่มที่ค่อนข้างสูง
คือประมาณ 5 ต่อ 1
ในทางการแพทย์แล้วเป็นที่ยอมรับกันว่า ระหว่างการทำหมันหญิงและการทำหมันชายนั้น
การทำหมันชายง่ายกว่า สะดวกกว่า รวดเร็วกว่า อันตรายน้อยกว่า และประหยัดกว่ากันมาก
แต่สาเหตุที่ฝ่ายชายไม่นิยมทำหมันกันก็เพราะส่วนมากจะคิดว่าการคุมกำเนิดควรเป็นภาระของฝ่ายหญิง
ฝ่ายชายมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการทำหมัน
ในสภาพการณ์เช่นนี้ สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน มีความเชื่อว่าหากสามารถพัฒนาเทคนิคและกลวิธีในการทำให้ฝ่ายชายมีทัศนคติที่ดีขึ้นได้
คือหันมายอมรับการทำหมันชายมากขึ้นแล้ว ก็จะช่วยให้มีผู้เข้าทำหมันชายมากขึ้น
ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นปัญหาเร่งด่วนซึ่งสมาคมฯ ถือเป็นภาระหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการให้เป็นผลสำเร็จให้จงได้
สมาคมฯ จึงได้จัดทำโครงการหมันชุมชนขึ้นเพื่อทำการรณรงค์และสื่อสารความรู้ความเข้าใจ
และแก้ไขความเข้าใจผิดเรื่องการทำหมันชาย อีกทั้งยังให้บริการทำหมันชายขึ้นทั้งในเขตกรุงเทพฯ และชนบท
ครั้นแล้วโครงการหมันชุมชนก็เริ่มขึ้น
ในด้านกลยุทธ์การตลาด สมาคมฯ เห็นว่า การทำหมันชายเป็นบริการอย่างหนึ่งซึ่งเหมือนกับบริการธุรกิจ
เพราะฉะนั้นจึงได้นำกลยุทธ์การตลาดสำหรับการขายสินค้ามาใช้
กลยุทธ์อย่างหนึ่งคือ จัดบรรยากาศของการทำหมันชายให้รู้สึกสะดวกสบาย ดังนั้นสมาคมฯ จึงได้ทุ่มทรัพยากรและพลังความคิดเพื่อพัฒนาการทำมหันชายให้เป็นไปตามกลยุทธ์การตลาดที่วางไว้
โดยเปรียบเทียบวิธีการตลาดที่ดีสำหรับการขายสินค้าก็คือ การมีสินค้าวางตลาดได้มากพอ
ในเวลาที่ต้องการ และในราคาที่เหมาะสม และเพื่อเป็นการชักชวนก็อาจจะต้องมีรายการพิเศษชิงโชคแจกแถมบ้าง
สำหรับการทำหมันชายต้องมีจุดบริการหลายๆ แห่งเพื่อความสะดวกสบายของผู้รับบริการ
คือมีหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการอย่างที่เขาต้องการและเพื่อความสนุกสนานก็ต้องมีรายการพิเศษแจกแถมบ้างเช่นเดียวกัน
ด้านการประชาสัมพันธ์ สำหรับการขายสินค้าก็ต้องโฆษณาให้เกิดความรู้สึกว่าสินค้านั้นจำเป็นสำหรับตน
ถ้าได้บริโภคจะทำให้คุณค่าของตนดีขึ้นจึงต้องขวนขวายหามีมาใช้ การโฆษณาต้องทำบ่อยๆ
มากๆ ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
ในการทำหมันชายก็เช่นเดียวกัน คือต้องใช้มืออาชีพในการโฆษณาให้เห็นความจำเป็นของการทำหมันชาย
ทำหมันแล้วคุณค่าชีวิตสูงขึ้น ทำได้ด้วยความสะดวกสบาย ส่วนคุณภาพสินค้าต้องดียิ่ง
สม่ำเสมอ มีมาตรฐาน มีบริการซ่อมบำรุงหลังการขายด้วย
งานการตลาดดังกล่าว สมาคมฯ ได้จัดการดำเนินงานเผยแพร่ข่าวสารโฆษณาประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ
โดยมีประชาสัมพันธ์ที่ได้รับการฝึกฝนอย่างยอดเยี่ยมทำหน้าที่เช่นเดียวกับพนักงานขาย
นอกจากนี้ยังมีโฆษณาทางสื่อมวลชน เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และทำป้ายโฆษณาตามสี่แยก
ตามป้ายจอดรถเมล์ ป้ายภาพตามที่ต่างๆ ป้ายโฆษณาข้างรถเมล์ ข้างรถสองแถว และยังออกรถไปโฆษณาตามที่ต่างๆ
รวมทั้งการบรรยายในที่ชุมชน เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจในการทำหมันชายดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
และนั่นเป็นบริการอย่างรวดเร็วที่สุด โดยในกรุงเทพฯ มีศูนย์ทำหมันหลายแห่ง
สำหรับผู้ต้องการบริการที่คลินิก ส่วนผู้ที่ไม่สะดวกที่จะมาที่คลินิกก็ส่งรถโรงพยาบาลหน่วยเคลื่อนที่ออกไปให้บริการ
รถที่ออกไปให้บริการเคลื่อนที่เป็นรถปรับอากาศ ภายในมีเครื่องมือทำหมันพร้อม
มีเตียงทำหมัน 2 เตียง มีผู้ให้บริการประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล ที่มีความชำนาญด้านการทำหมันชายโดยเฉพาะ
และให้บริการทำหมันด้วยเวลาเพียง 7 นาทีก็แล้วเสร็จ มีอาการแทรกซ้อนน้อยที่สุดและให้บริการฟรี
สำหรับในกรุงเทพฯ สมาคมฯ ให้บริการเคลื่อนที่มากกว่า 50 แห่ง ส่วนต่างจังหวัดก็ได้ส่งทีมประชาสัมพันธ์รถโรงพยาบาลวางแผนครอบครัวเคลื่อนที่อีกหนึ่งคันพร้อมแพทย์ พยาบาล เข้าไปตามจังหวัดต่างๆ
เข้าไปตามอำเภอ หมู่บ้านที่ห่างไกลเพื่อให้บริการประชาชน
นอกจากนั้นเพื่อให้เกิดความสนุกสนานครึกครื้น และเป็นการส่งเสริมการทำหมันชายไปในตัว
ก็ได้จัดให้มีการทำหมันแรงงานในวันแรงงานแห่งชาติ ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีที่ท้องสนามหลวง และในวันเฉลิมฯ
5 ธันวาคม ก็จัดเป็นประจำทุกปีที่หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยจัดให้มีมหกรรมทำหมันขึ้น
มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่น่าประทับใจ มีของแจกของแถมเป็นที่ครื้นเครงจนเป็นที่กล่าวขวัญทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โดยที่แต่ละครั้งจะมีผู้เข้ามาใช้บริการมากอย่างเช่นในงานมหกรรมหมันวันเฉลิมฯ เมื่อวันที่
5 ธันวาคม 2526 มีผู้รับบริการมากถึง 1,199 ราย นับว่าเป็นสถิติสูงสุดเท่าที่มีรายงานเอาไว้
การดำเนินการโครงการหมันชุมชนตั้งแต่ปี 2524 เป็นต้นมา จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน
2527 ปรากฏผลว่า โครงการได้ให้บริการผู้รับทำหมันชายทั้งสิ้น 19,721 ราย
หมันหญิง 1,156 ราย รวมทั้งสิ้น 20,877 ราย
โดยเฉพาะในปี 2526 มีผู้รับบริการทำหมันชายจำนวน 7,919 ราย คิดเป็นร้อยละ
31.4 ของจำนวนผู้รับทำหมันชายทั่วทั้งประเทศ
ผู้รับบริการทั้งหมดกว่า 90% ที่ใช้บริการหมันชุมชนได้แสดงความพึงพอใจต่อบริการที่ได้รับในด้านต่างๆ
จะเห็นได้จากผลดำเนินงานของโครงการหมันชุมชน ทำให้ประชาชนมีความตื่นตัวขึ้น ยอมรับการทำหมันชายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จากจำนวนผู้รับบริการทำหมัน 20,877 รายนี้ทำให้ผลโดยตรงต่อการลดอัตราการเพิ่มของประชากรไทยเรา
ทำให้ครอบครัวไม่ต้องพะวักพะวงต่อการเลี้ยงดูเด็กเล็กๆ มีเวลาประกอบอาชีพมากขึ้น
รายได้ดีขึ้น มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น ร่างกายสุขภาพจิตแข็งแรง
ในการทำหมัน 1 คน จะป้องกันการเกิดได้ถึง 3 คน เด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 14
ปี จะต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่าใช้จ่ายทางสังคมเป็นจำนวนเงิน 250,750
บาท ดังนั้น โครงการหมันชุมชนที่ให้บริการทำหมันไป 20,877 ราย จึงช่วยประหยัดเงินในระยะเวลา
14 ปีต่อไปได้ถึง 15,704 ล้านบาท
ส่วนในด้านชื่อเสียงของประเทศไทยก็เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น เพราะโครงการหมันชุมชนได้ถูกเสนอข่าวออกไปทั่วโลก
และยอมรับกันว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ ชาวต่างประเทศมาขอดูงานเป็นจำนวนมาก
รวมทั้งภาครัฐบาลก็ได้รับเอาโครงการหมันชุมชนไปประยุกต์ใช้จนได้ผลดีมาก ทำให้มีผู้เข้ามารับบริการทำหมันชายเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่ปี
2521 เป็นต้นมา