|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แม้ความสนุกสนานจะได้ผ่านพ้นไปแล้วพร้อมกับชัยชนะของสเปนและการปิดฉากลงของฟุตบอลโลกปี 2010 ที่แอฟริกาใต้ แต่หากย้อนพินิจพิเคราะห์กลับไปก็จะพบว่า มีบางมิติที่สะท้อนแง่มุมการลงทุนให้เราได้
คอลัมน์ในวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อเร็วๆนี้ ระบุว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกไม่ได้เป็นเฉพาะเรื่องของกีฬาเท่านั้น แต่ยังสามารถชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการทำเงินได้ด้วย เพราะหลายๆครั้งโลกของการแข่งขันฟุตบอลก็เหมือนกับโลกของการลงทุนในตลาดหุ้นเ และได้สรุปกรณีศึกษาไว้ 7 ประการสำหรับเป็นข้อคิดให้กับนักลงทุนดังนี้
ประการแรก อย่าตกใจกับ "วิกฤติ" จะมีใครบ้างที่คิดว่าฝรั่งเศสซึ่งได้เข้าชิงในรอบสุดท้ายเมื่อ 4 ปีก่อน จะถูกบี้ออกอย่างน่าขายหน้าในการแข่งฟุตบอลโลกครั้งนี้ และใครบ้างจะคิดว่า อังกฤษจะเสมอกับแอลจีเรีย และสวิตเซอร์แลนด์จะเอาชนะสเปนได้ เหตุการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า “วิกฤติ”สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ในโลกการลงทุนก็เช่นเดียวกัน นิโคลัส ทาเล็บ เรียกเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นว่า “Black Swans” หรือหงส์ดำ ขณะที่ พี.จี.โวเดนเฮาส์ เคยบอกไว้ว่า “อย่าสับสนกับความผิดปกติที่เป็นไปได้” อย่างเช่นเมื่อไม่นานมานี้ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เลห์แมน บราเธอร์ส หรือ เจเนอรัล มอเตอร์ส จะล้มละลาย แต่ในที่สุดมันก็เป็นไปได้ ดังนั้นพึงจำไว้ว่า ความผิดปกติเกิดขึ้นได้เสมอ
ประการต่อมาคือ จำเป็นต้องมีกาารป้องกันอย่างแข็งแกร่ง อย่างคติพจน์ในกีฬาฟุตบอลที่บอกว่า “เพียงแค่วินาทีเดียวก็ทำคะแนนได้” แต่ความอับโชคของโรเบิร์ต กรีน ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ ก็สามารถบอกความจริงในทางตรงข้ามได้ว่า “เพียงแค่วินาทีเดียวก็สามารถแพ้ได้” เช่นกัน ในการลงทุนก็เช่นกัน กำไรที่ได้มาจากการซื้อขายอย่างหลักแหลม สามารถหมดไปได้ในเสี้ยวนาทีเพราะความผิดพลาดและไม่ระมัดระวังการโจมตี หรือการพยายามที่จะทำเงินมักมีความตื่นเต้นมากกว่าการป้องกัน หรือการพยายามที่จะไม่ให้ขาดทุน
ประการที่ 3.ต้องคิดอย่างสากล ฟุตบอลโลกเป็นหนึ่งในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ครั้งที่ทำให้แฟนๆ ทุกหนแห่งเอาใจจดจ่อ กับการแข่งขัน กับผู้เล่น และกับทีมของประเทศตนเอง และเริ่มให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดกับคนอื่นๆ แน่นอนว่าเราต้องเชียร์ทีมของประเทศเราเองเหมือนอย่างที่ชาวญี่ปุ่นเชียร์ทีมญี่ปุ่น แม้จะรู้ว่าทีมอย่างเช่นอาร์เจนติน่า โปรตุเกส และบราซิล จะมีฝีเท้าที่รวมถึงความน่าสนใจที่เหนือกว่า ซึ่งนักลงทุนก็จำเป็นต้องเรียนรู้เคล็ดลับในแบบเดียวกัน
“ความเอนเอียงต่อหุ้นในประเทศ” ได้เป็นปัญหาใหญ่มานานในพอร์ตลงทุนส่วนใหญ่ คนส่วนใหญ่นำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นในประเทศมากเกินไป ผลการศึกษาหลายๆ ชิ้นพบว่า นักลงทุนสหรัฐมักลงทุนในหุ้นสหรัฐมากกว่า 80% ของพอร์ตลงทุน และจากข้อมูลของอินเวสเมนต์ คอมพานี อินสติติว พบว่าครอบครัวสหรัฐไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่ลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ ทั้งที่จริงแล้ว การลงทุนทั่วโลก ช่วยกระจายความเสี่ยงและทำให้มีการลงทุนอย่างหลากหลาย
ประการที่ 4อย่าให้ความหวังบังตา เป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมคนที่มาจากเกาหลีเหนือ จึงเลือกที่จะเชียร์ทีมเกาหลีเหนือไม่ว่าทีมจะมีผลงานแย่เพียงไร เพราะว่านั่นคือประเทศของเขา แต่ที่ไม่เข้าใจคือ ทำไมนักลงทุนจึงยึดติดอยู่กับการลงทุนที่ไม่พึงปรารถนาอย่างเหนียวแน่น โดยตั้งความหวังและภาวนาว่า การบริหารที่ไม่ดี กลยุทธ์ที่น่าสิ้นหวัง และผลิตภัณฑ์แย่ๆจะสามารถก่อให้เกิดผลดีขึ้นมาได้ด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง หากมันไม่ทำให้คุณรู้สึกดี ก็จงหยุดบ่นหรือหยุดภาวนา แล้วเทขายมันเสีย
ประการที่5จงอดทนต่อชัยชนะ เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทีมอังกฤษได้พิสูจน์ให้เห็นว่าได้สร้างความผิดหวังอย่างมโหฬารให้กับแฟนๆในประเทศ โดย เปเล่ ตำนานนักฟุตบอลทีมบราซิล เคยอธิบายปัญหานี้ให้กับนักข่าวทีวีอังกฤษคนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนว่า อังกฤษจำเป็นต้องพัฒนาความอดทนในสนาม ส่วนในตลาดหุ้นก็เช่นกัน วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็เหมือนกับนักลงทุนดังๆ ส่วนใหญ่ที่ต้องอดทนเฝ้ารอแทบจะไม่สิ้นสุด เพื่อรอให้โอกาสในการทำกำไรมาถึง
6. ให้จับตาส่วนต่างของความปลอดภัย หลังชาวสโลวีเนียค่อนข้างสบายใจหลังจากที่นำสหรัฐไป 2 ต่อ 0 เมื่อแข่งไปได้ครึ่งทาง แต่ในที่สุดพวกเขาก็โชคดีที่รอดมาได้ด้วยการเสมอ ความพลิกผันแบบนี้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เบน แกรแฮม เจ้าพ่อการลงทุนที่เน้นคุณค่าอย่างระมัดระวัง ได้ข้อสรุปในแบบเดียวกันเกี่ยวกับพอร์ตลงทุนของเขาหลังจากที่ตลาดหุ้นพังในปี พ.ศ. 2472 ราคาหุ้นตกลงมากกว่าที่เขาคิดว่าเป็นไปได้มาก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมแกรแฮมจึงหันมาสนใจต่อแนวคิด “ส่วนต่างความปลอดภัย”(Margin of safety) เขาแนะนำนักลงทุนให้ซื้อหุ้นเมื่อมันต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอย่างน้อยหนึ่งในสาม
ประการสุดท้ายคือ อย่าฝากความหวังไว้กับกรรมการ จากการที่หน่วยงานที่คุมระเบียบการเงิน เช่น เอสอีซี กระทรวงการคลัง และ ธนาคารกลางสหรัฐ ถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงเมื่อเกิดวิกฤติการเงิน แต่หากคนเหล่านี้อยากที่จะรู้สึกดีเกี่ยวกับตนเอง น่าจะเปิดดูการแข่งขันฟุตบอลโลกบางแมตช์ เป็นครั้งแรกที่กรรมการ โคมัน คอลิบาลี ถูกถอดออกจากการแข่งขันรอบต่อไปหลังจากที่เกิดการถกเถียงกันมาก และน่าจะเป็นการเรียกร้องด้วยความไม่พอใจในเกมการแข่งขันระหว่างสหรัฐ-สโลวีเนีย ที่ทำให้สหรัฐชนะ แม้คำตัดสินของกรรมการจะเป็นเด็ดขาดแต่ก็อาจแฝงไว้ด้วยความเคลือบแคลงได้เช่นกันไม่ว่าจะเป็นในสนามฟุตบอลหรือตลาดหุ้น
|
|
|
|
|