หากโตเกียวมอเตอร์โชว์ คือ หนึ่งในงานมหกรรมแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก'ถ้าเช่นนั้น 'The World Exposition Shanghai China 2010 หรือ World Expo 2010 Shanghai China' ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม-31 ตุลาคม ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดแห่งงานนิทรรศการระดับโลก เพราะนอกจากเม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาลเพื่อใช้เนรมิตสถานที่ให้ยิ่งใหญ่สมเป็นงานระดับมหกรรมโลกแล้ว ทางรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนยังคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้เข้าชมงานจากทั่วโลกจะทะลุ 70 ล้านคน

สำหรับบรรยากาศของงานเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ็กซ์โป 2010 เมืองไทย เป็น 1 ใน 192 ประเทศที่ได้เข้าไปอวดโฉมความเป็นสยามเมืองยิ้ม ซึ่งโดดเด่นทั้งด้านวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนอาหารการกินต่างๆ โดยมีค่ายอินเด็กซ์รับหน้าที่สร้างสรรค์ Thailand Pavilion หรือศาลาไทย ด้วยงบลงทุน 599 ล้านบาท และจากจำนวนผู้รอเข้าชมศาลาไทยที่มีการยืนเรียงแถวยาวเหยียดตลอดวัน ก็เป็นภาพที่แสดงให้เห็นว่า ศาลาไทยแห่งนี้สามารถสะกดสายตาและเรียกความสนใจจากชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี

ทว่า อีกหนึ่งความภูมิใจสำหรับประเทศไทย นั่นคือ การได้เห็นแบรนด์ไทยเข้าไปผงาดในงานเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ็กซ์โป ครั้งนี้ด้วย โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ทุ่มงบ 40 ล้านบาท เปิด CP Food Pavilion (ซีพี ฟู้ด พาวิเลียน) พื้นที่ 600 ตร.ม. เพื่อจำหน่ายอาหารไทยและอาเซียนแก่ผู้เข้าชมงาน ซึ่งนอกจากจะเป็นการขยายฐานพร้อมสร้างการรับรู้แบรนด์ 'CP' ในตลาดจีนและตลาดโลกแล้ว การเข้าร่วมงานครั้งนี้ ทางซีพีเอฟ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พร้อมทานภายใต้แบรนด์ 'ซีพี' ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์การเป็น 'ครัวของโลก' ได้ชัดเจนขึ้นอีกด้วย

ทั้งนี้ อูรูบิน วิลสัน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (AVP Director of Culinary Development Executive Chef-CP FOOD) เล่าถึง CP Food Pavilion ว่าเป็นอาคาร 2 ชั้น ตั้งอยู่ในโซน B : Southeast Asia ใกล้กับศาลาไทย (Thailand Pavilion) โดยชั้นล่างเป็นร้านอาหารคอนเซ็ปต์ Fast Food จำหน่ายอาหารจานด่วน เช่น เกี๊ยวกุ้ง, ทอดมันกุ้ง, เบอร์เกอร์ รวมทั้งขนมไทย เช่น ข้าวเหนียวแดงเปียก, ข้าวเหนียวทุเรียน ส่วนชั้นบนจะเป็นร้านอาหารแบบ Dining Style ที่มีเมนูให้เลือก หรือจัดเป็นอาหารชุด (set) เช่น เกี๊ยวกุ้งต้มยำ, หมูสามชั้นน้ำแดง, แกงเขียวหวาน, กะเพราไก่ และขนมไทยต่างๆ โดยรูปแบบของ CP Food Pavilion ถือว่าแตกต่างจากร้านอาหารแห่งอื่นภายในงานที่มีประมาณ 130 ร้าน ที่ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแบบฟาสต์ฟูด

'อาหารแบรนด์ CP ทั้งหมด รวมทั้งวัตถุดิบเพื่อการปรุงอาหาร ถูกจัดส่งจากประเทศไทยมายังจีน จากนั้นก็จะส่งไปยังโรงงาน 4 แห่ง เพื่อประกอบเป็นอาหารแล้วส่งมาจำหน่ายใน CP Food Pavilion ซึ่งผลตอบรับพบว่า ผู้บริโภคให้การตอบรับเป็นอย่างดีในทุกเมนู โดยเฉพาะเกี๊ยวกุ้งที่ติดอันดับท็อป 5 ขายดีที่สุดของร้าน และจากปริมาณลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านวันละ 2-3 พันคน คิดเป็นรายได้เฉลี่ย 2 แสนหยวน หรือประมาณ 1 ล้านบาท ทางร้านคาดว่าเมื่อจบงานก็จะมียอดขายกว่า 150 ล้านบาท'

อย่างไรก็ตาม แม้งานเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ เอ็กซ์โปจะจบลงในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า แต่เชื่อว่าอาหารไทยภายใต้ตรา 'ซีพี' จะยังเป็นที่รู้จักและสามารถบุกตลาดแดนมังกรได้อย่างต่อเนื่อง โดย ณรงค์เวทย์ จักราพาณิชกุล รองกรรมการผู้จัดการ ด้านการขายในประเทศจีน บอกว่า ความมั่นใจดังกล่าว มาจากผลการพัฒนาและทดลองตลาดในจีนนานถึง 3 ปี จนทำให้สินค้าภายใต้แบรนด์ซีพีเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยพบว่าเกี๊ยวกุ้งซีพีเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีสุดของซีพีเอฟในจีน ด้วยยอดขายการเติบโตมากกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน ขึ้นเป็นผู้นำตลาดเกี๊ยวกุ้งพรีเมียมในซูเปอร์มาร์เกต

นอกจากจะได้สัมผัสและชื่นชมกับสิ่งต่างๆ ที่แต่ละประเทศนำมาเสนอ ไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรม เทคโนโลยี แล้วก็ตาม ทว่า อีกสิ่งที่เชื่อว่าคนไทยจะได้จาก World Expo 2010 Shanghai China นั่นคือ ความภูมิใจในแบรนด์ไทย และที่สำคัญที่สุด กับความภูมิใจในประเทศไทย