|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หลังจากพยายามทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป คู่กับ 'คลิ๊ก' เนื้อสัตว์สำเร็จรูป มาพักใหญ่ ล่าสุด พรานทะเล ลงมาทำบะหมี่ถ้วยซะเองเลยทีนี้
อนุรัตน์ โค้วคาลัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาดและฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พรานทะเล มาร์เก็ตติ้ง เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทจะวางตลาดผลิตภัณฑ์บะหมี่ถ้วยภายใต้แบรนด์ 'พรานทะเล นู้ดเดิ้ล โบว์ล' อย่างเต็มตัว หลังจากก่อนหน้านี้ได้ทดลองวางตลาดผลิตภัณฑ์นู้ดเดิ้ลคลิก เฉพาะที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
'จากการที่ทางบริษัทฯ ได้มุ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในสังคมปัจจุบัน ด้วยการมุ่งมั่นค้นคว้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ครบทุกกลุ่มประเภทของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การเปิดตลาด ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งพร้อมปรุง (Ready to Cook) ต่อเนื่องกับการรุกขยายฐานสู่ตลาดอาหารแช่แข็ง พร้อมรับประทาน (Ready to Eat) และตลาดอาหารสำเร็จรูป ตลอดจนการสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับวงการอาหารอย่างต่อเนื่อง'
ล่าสุดเปิดตัว 'พรานทะเล นู้ดเดิ้ล โบว์ล' และ 'พรานไพร นู้ดเดิ้ล โบว์ล' ทำตลาดผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด ราคาชามละ 32-35 บาท โดยเริ่มวางจำหน่ายในห้างคาร์ฟูร์และท็อปส์ ส่วนเทสโก้ โลตัส และบิ๊กซีอยู่ระหว่างการศึกษาเพราะค่าวางสินค้าสูง คาดสิ้นปีมียอดขาย 10 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 60 ล้านบาทในสิ้นปีหน้า ส่วนแบ่งในตลาด รูปแบบโบว์ล 3-4% จากมูลค่ารวม 800 ล้านบาท
จุดเด่นในแง่ของผลิตภัณฑ์ที่บรรจุเนื้อสัตว์ปรุงสำเร็จ ที่สามารถเพิ่มคุณค่าและเติมเต็มสารอาหารให้แก่บะหมี่สำเร็จรูป และสามารถเก็บบะหมี่นู้ดเดิ้ลได้โดย'ไม่ต้องแช่เย็น' ถือเป็นนวัตกรรมอาหารรูปแบบใหม่ที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนเมือง เพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
'ผลิตภัณฑ์บะหมี่ถ้วยของพรานทะเล มอบให้บริษัท นำเชา (ประเทศไทย) เป็นผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ส่วนบริษัทจะผลิตในส่วนของเนื้อสัตว์ที่ใส่เพิ่มเข้าไป ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ที่ใช้เนื้อสัตว์แท้เป็นส่วนประกอบ ไม่ใช่เนื้อสัตว์อบแห้ง เหมือนที่จำหน่ายในท้องตลาดขณะนี้ โดยจะเปิดตัว 3 รสชาติ ได้แก่ หอยลายผัดพริกเผา หมูสับ และต้มยำซีฟู้ด' อนุรัตน์ กล่าว
สำหรับผลิตภัณฑ์พรานทะเลนู้ดเดิ้ล โบว์ล คาดว่าจะมียอดขาย 60 ล้านบาทในปี 2554 หรือคิดเป็นสัดส่วน 3-4% จากยอดขายรวม และจะใช้งบการตลาดรวม 20 ล้านบาทในปีนี้ โดยเน้นการแจกสินค้าตัวอย่างจำนวน 1 ล้านชิ้น และตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ถ้วยละ 32-35 บาท
'หากผลตอบรับดีส่งผลให้ส่วนแบ่งสูงถึง 30% ในอีก 3-5 ปี บริษัทอาจสร้างโรงงานผลิตบะหมี่เองจากปัจจุบันให้ บริษัท นำเชา (ประเทศไทย) เป็นผู้ผลิต' นายอนุรัตน์ กล่าว
ข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบซองมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ขยายตัวประมาณ 3-4% ซึ่งถือว่าอิ่มตัว ขณะที่บะหมี่ถ้วยมีมูลค่า 900 ล้านบาท แต่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 30-40% เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคนิยมความสะดวกสบายมากขึ้น บริษัทจึงมองเห็นโอกาสที่จะทำตลาดนี้อย่างจริงจัง ประกอบกับในตลาดบะหมี่ถ้วยยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดเป็นเจ้าตลาด
'ในช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายพรานทะเลค่อนข้างทรงตัว เพราะต้องเจอกับปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโตของยอดขายรวมกว่า 600 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายจากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็งประเภทพร้อมปรุง 210 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35% อาหารทะเลแช่แข็ง พร้อมรับประทาน 180 ล้านบาท คิดเป็น 30% ซูชิ 198 ล้านบาท คิดเป็น 33% และหมวดผลิตภัณฑ์คลิ๊ก อีก 12 ล้านบาท คิดเป็น 2% และในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอีก 700 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่า สิ้นปี 2553 นี้ บริษัทฯ จะสามารถทำยอดขายได้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้มูลค่า 1,300 ล้านบาท' อนุรัตน์ กล่าว
พรานทะเลจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ในตลาดบะหมี่ถ้วย?
บทวิเคราะห์
จุดเด่นของพรานทะเลก็คือพยายามนำผลิตภัณฑ์ของตนต่อยอดไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน โดยรุกเข้าไปสู่ตลาดอาหารทะเลแช่แข็ง มากระทั่งอาหารที่ไม่ใช่ทะเลภายใต้แบรนด์พรานไพร
รูปแบบผลิตภัณฑ์มีทั้งสำเร็จรูปพร้อมข้าว เข้าไมโครเวฟพร้อมรับประทานไปจนกระทั่งเป็นวัตถุดิบประกอบอาหาร
การเติบโตของพรานทะเลเป็นผลที่น่าพอใจ จนกระทั่งพรานคิดว่าจะ 'ต่อยอด' ขยายธุรกิจเข้าไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจของตนเองและเป็นตลาดใหญ่ นั่นคือตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
การชิมลางเข้าสู่ธุรกิจนี้ด้วยการออก 'สารอาหารประกอบการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป' นั่นคือคลิ๊ก กุ้งและหมูในซองเล็กๆ ที่ขายในราคา 16 บาท ซึ่งต่อมามีการลดราคาและเพิ่มปริมาณ แสดงให้เห็นว่า Product และ Price ไปด้วยกันไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงสินค้าทดแทนมากมายที่ถูกกว่าคลิ๊กที่ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ เช่น ไข่ต้ม ไข่พะโล้ ฯลฯ
ยังไม่ต้องพูดถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นส่วนใหญ่เพราะเอาสะดวกอย่างเดียว หรือว่าเป็นเพราะมีราคาถูก หากต้องการอาหารที่มีสารอาหารครบเครื่องนั้นผู้บริโภคจะเลือกอะไร
คลิ๊กแก้เกมด้วยการแถมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเข้าไปด้วย ซึ่งจริงๆ ก็คือการขายพ่วงนั่นเองเพราะได้รวมต้นทุนเอาไว้ในบะหมี่แล้ว
ประเด็นก็คือคนที่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นมี Brand+Taste Loyalty หรือว่ากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอะไรก็ได้ โดยไม่สนใจแบรนด์หรือรสชาติเลย
หรือเวลาจะเลือกซื้อเฉพาะรสชาติและยี่ห้อโปรดที่ซื้อเป็นประจำ เช่น มาม่าหมูสับ มาม่าต้มยำกุ้ง ซึ่งเป็นสองรสชาติที่ขายดีที่สุดของมาม่า
หากเป็นเช่นนั้นก็แสดงว่าในธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จริงๆ มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ ประเด็นต่อไปก็คือแล้วในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เป็นถ้วยที่เป็นตลาดระดับบนล่ะ จะมี Brand+Taste Loyalty เช่นเดิมหรือเปล่า
หากมีพรานทะเลต้องทำงานหนักในการจูงใจให้ผู้บริโภคหันมารับประทาน 'พรานทะเล นู้ดเดิ้ล โบว์ล' ซึ่งเป็นน้องใหม่ของวงการที่ไม่สู้ในตลาดล่าง แต่กระโจนขึ้นสู่ตลาดบน
คำถามใหญ่ก็คือถึงแม้จะมีเนื้อสัตว์อยู่ด้วย แต่ราคา 32-35 บาทนั้นมีคู่แข่งขันมากมาย ทั้งข้าวกะเพราใน 7-11 และอีกสารพัดเมนูที่มีราคาอยู่ระหว่างนี้ ยังไม่ต้องพูดถึงชายสี่หมี่เกี๊ยวที่ราคาอยู่ระดับเดียวกัน
ผู้บริโภคจะเห็นว่าหากเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ราคาไม่ควรจะสูงมากขนาดนี้ ถึงแม้จะมีเนื้อสัตว์อยู่ก็ตาม
เพราะเมื่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปราคาสูงถึงระดับหนึ่ง ผู้บริโภคจะ 'ก้าวข้าม' ไปทานอาหารประเภทอื่นเลยอ่ะครับ
|
|
|
|
|