|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เบอร์ลิน ร่วมทุนพาราไดม์ เสริมความแข็งแกร่ง ชูวิชันบุกยาสามัญ ทั้งไทย-เทศ รับตลาดอีก 5 ปี มูลค่า 5 แสนพันล้านเหรียญทั่วโลก จ่อคิวซื้อไลเซนส์-พัฒนาสินค้าเอง สู้บริษัทยายักษ์ใหญ่ท็อปเทนโลก เบนเข็มลุยยาสามัญ โอดการเมืองไทย-เศรษฐกิจ ฉุดอุตสาหกรรมยาไทยกว่า 1 แสนล้านบาท โตตัวเลขหลักเดียวรอบ 4-5 ปี สิ้นปีหวังรายได้โต 10% กวาด 2,200 ล้านบาท
นายอมาล นาจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบอร์ลิน ฟาร์มาซูติคอล อินดัสตรี้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายยาสามัญ เปิดเผยว่า บริษัท เบอร์ลินฯ ได้ร่วมทุนกับบริษัท พาราไดม์ ฟาร์มา ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นของผมเองและหุ้นส่วน โดยบริษัทดังกล่าวตั้งอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการร่วมทุนและดำรงตำแหน่งในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารในบริษัท เบอร์ลินฯ เพื่อจับมือร่วมกันดำเนินการตลาดเชิงรุกขยายยาสามัญในตลาดเอเชีย ยุโรป อเมริกา เนื่องจากแนวโน้มตลาดยาสามัญ หรือยาหมดสิทธิบัตรเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโต โดยคาดว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ ตลาดเติบโตจาก 2 แสนพันล้านเหรียญทั่วโลก เป็น 5 แสนพันล้านเหรียญ
ทั้งนี้ พบว่า ตลาดใหม่ของยาสามัญ เอเชีย รัสเซีย อเมริกาใต้ ยุโรปตะวันออก และแอฟริกา มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก ในขณะที่อเมริกาและยุโรปเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอุตสาหกรรมยาสามัญเอเชีย 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 1 .2 แสนเหรียญ ในอีก 10 ปีข้างหน้านี้ ปัจจัยที่ผลักดันให้ตลาดยาสามัญขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นยาที่ผลิตขึ้นจากยาที่จดสิทธิบัตรหมดอายุ หรือยาเลียนแบบของคู่แข่ง โดยมีราคาถูกกว่า 10 เท่าตัว เมื่อเทียบกับยาจดสิทธิบัตรที่ใช้งบวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทำให้ยามีราคาค่อนข้างสูง ขณะที่สิทธิบัตรยาจำนวนมาก กำลังหมดอายุลงภายในปี 2556
ล่าสุด บริษัทได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและกำลังผลิตโรงงานที่ลาดกระบัง รองรับกับแผนการขยายตลาดต่างประเทศในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ ในประเทศจีน เกาหลี ไต้หวัน อินโดนีเซีย เวียดนาม รวมทั้งรองรับตลาดภายในไทย พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมผลิตยาสามัญใหม่ๆ ตลอดจนการซื้อไลเซ่นส์ยาสามัญจากต่างประเทศ ทำตลาด
โดยมุ่งเน้นยาที่ใช้ง่ายสะดวกและมีราคาที่คุ้มค่า อาทิ ยาสำหรับโรคหัวใจ ยาระบบประสาท เป็นต้น จากปัจจุบันบริษัทผลิตยาสามัญ 40-50 ชนิด อาทิ ลดความดัน ระบบทางเดินอาหาร และลดไขมัน ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อรองรับกับการแข่งขันจากบริษัทผู้ผลิตยาสามัญจากต่างประเทศ อาทิ รัสเซีย อเมริกา ที่เข้ามาทำตลาดเอเชีย ส่วนบริษัทที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก อาทิ ไฟเซอร์ แอ๊บบอต ฯลฯ ก็หันมารุกตลาดยาสามัญมากขึ้น
นายเติมชัย ไชยนุวัติ ประธานบริษัท เบอร์ลิน ฟาร์มาซูติคอล อินดัสตรี้ จำกัด กล่าวว่า สภาพอุตสาหกรรมยาในประเทศไทย มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นยาจากบริษัทต่างประเทศ 8 หมื่นล้านบาท และยาของผู้ประกอบการไทย 2 หมื่นล้านบาท ปีนี้คาดว่า อุตสาหกรรมยา มีการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวครั้งแรกในรอบ 4-5 ปี จากปกติเติบโต 10% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีความระมัดระวังการซื้อยามาเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย โดยพบว่าในช่วงครึ่งปีแรก ตลาดเติบโต 7% ทั้งนี้ การเติบโตส่วนใหญ่มาจากช่องทางโรงพยาบาลเป็นหลัก
สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 10% หรือมีรายได้ 2,200 ล้านบาท โดยรายได้ภายในประเทศ 94-95% และต่างประเทศ 5-6% จากการส่งออกในประเทศฟิลิปปินส์ ลาว สิงคโปร์ พม่า อย่างไรก็ตาม จากการเข้ามาบริหารงานบริษัท เบอร์ลินฯ และร่วมทุนระหว่างบริษัท เบอร์ลินฯ กับ พาราไดม์ ผลักดันให้บริษัท เบอร์ลินฯ เติบโต 2 เท่าตัว ภายใน 3-5 ปีข้างหน้านี้ หรือขึ้นเป็นผู้นำตลาดยาสามัญจากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 10% เป็นอันดับ 2 รองจากบริษัท สยามฟาร์มาซูติคอล ซึ่งเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 15% จากมูลค่าตลาดยาที่ผลิตในประเทศ 20,000 ล้านบาท
|
|
|
|
|