ตลาดรถยนต์ไทยร้อนแรง ปิดยอดขายครึ่งแรกของปีนี้ทำได้ 3.56 แสนคัน ทุบสถิติสูงมากกว่าปี 2548 ที่มีปริมาณการขายทั้งปีสูงเป็นประวัติการณ์ เฉพาะมิถุนายนเดือนเดียวเพิ่มขึ้น 63% เทียบตัวเลขช่วงเดือนเดียวกัน นับว่า สูงสุดในรอบ 10 ปี จากความนิยมรถทุกประเภทของผู้บริโภค โดยเฉพาะเก๋งขนาดเล็กที่ยอดค้างส่งมอบอื้อ จนต้องปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างเร่งด่วน
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์สะสม 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ปีนี้ มีปริมาณการขาย 356,692 คัน นับว่า สูงสุดเป็นสถิติใหม่ โดยมีปริมาณการขายสูงกว่ายอดขายสะสม 6 เดือนแรกของปี 2548 กว่า 10,700 คัน ซึ่งในปีดังกล่าวมียอดขายรวมทั้งปี สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 703,432 คัน และมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 54.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ 2552 ผ่านมา
ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 59.6% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 50.3% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์ในประเทศที่ดีขึ้น เป็นผลมาจากกำลังซื้อของประชาชนที่เพิ่มขึ้น ตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับราคาน้ำมันที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาก ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม
ขณะที่เฉพาะยอดขายรถยนต์ในเดือนมิถุนายน มีปริมาณการขาย 70,557 คัน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ของยอดขายเดือนมิถุนายน และมีอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 10 ปี ด้วยอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 62.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของตลาดรถยนต์นั่ง ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง มีปริมาณการขาย 32,946 คัน เพิ่มขึ้น 75.7%
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ซึ่งยังมีส่วนหนึ่งที่ค้างส่งมอบ และได้มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา ประกอบกับตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ที่มีปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 52.5% เป็นอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นผลมาจากเศรษฐกิจของประเทศที่ฟื้นตัว ตลอดจนบรรยากาศทางการเมืองที่คลี่คลายได้ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภค” นายวุฒิกร กล่าวและว่า
สำหรับตลาดรถยนต์ในเดือนกรกฎาคมยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่ทยอยแนะนำเข้าสู่ตลาดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งบางรุ่นยังคงมียอดค้างส่งมอบ แม้ว่าจะได้มีปรับเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา การจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องของบริษัทรถยนต์ต่างๆ ประกอบกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และราคาสินค้าทางการเกษตร อาทิ ยางพารา และ มันสำปะหลัง ที่ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
|