โครงการจัดตั้งวิทยาลัยเอกชนค่อนข้างจะเป็นงานใหญ่ซึ่งต้องคำนึงถึงหลักเกณฑ์และระเบียบวิธีปฏิบัติตามกฎทบวงมหาวิทยาลัยอย่างมากๆ
หลักเกณฑ์และระเบียบวิธีปฏิบัติที่ว่านี้ล้วนกำหนดขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตราต่างๆ
แห่งพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2522 ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นถ้าจะศึกษาข้อตัวบทกฎหมายกันให้ละเอียดแล้ว
ก็คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ ไป
ในชั้นนี้ "ผู้จัดการ" จึงขอนำหลักเกณฑ์และระเบียบวิธีปฏิบัติที่สำคัญๆ
เท่านั้นมากล่าวถึง แต่ก็คิดว่าน่าจะพอช่วยให้เห็นเป็นแนวทางได้บ้าง
การกำหนดวัตถุประสงค์
ผู้จัดทำโครงการจะต้องกำหนดวัตถุประสงค์เพื่อจัดการศึกษาขั้นอุดมศึกษาและพร้อมกันนั้นให้ระบุวัตถุประสงค์ในการเปิดสอนแต่ละสาขาวิชาลงไปด้วย
โดยควรมีลักษณะดังนี้คือ
-จะเป็นสถาบันที่มุ่งทำหน้าที่ให้การศึกษาวิชาชีพชั้นสูง เน้นภารกิจหลักด้านการวิจัยและการบริการทางวิชาการในระดับอุดมศึกษา
-สาขาวิชาที่จะเปิดสอนนั้นสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร การพัฒนาทางวิชาการ
เป็นผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโดยส่วนรวม ทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ
ที่ตั้งและทำเลที่ตั้ง
วิทยาลัยจะต้องตั้งในแหล่งชุมชนที่มีความสะดวกด้านชุมชน สาธารณูปการ เป็นทำเลที่ดีไม่มีภัยต่างๆ
เกิดขึ้นง่าย มีบรรยากาศเหมาะสม เช่น ไม่อยู่ติดกับแหล่งเสื่อมโทรมหรือแหล่งสำราญต่างๆ
และห่างไกลพอสมควรจากความอึกทึกครึกโครมที่จะรบกวนการเรียนการสอน
บริเวณ
จำนวนพื้นที่กฎทบวงฉบับที่ 3 (พ.ศ.2525) กำหนดไว้ว่า
-สาขาวิชาที่ไม่ต้องมีห้องทดลอง ห้องปฎิบัติการหรือโรงฝึกงานต้องมีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า
6 ไร่
-สาขาที่ต้องมีห้องทดลอง ห้องปฎิบัติการหรือโรงฝึกงานจะต้องมีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า
8ไร่
-สาขาวิชาเกษตรกรรมที่ต้องมีที่ดินสำหรับฝึกงาน ต้องมีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า
158 ไร่
-จำนวนพื้นที่ดินเหล่านี้จะต้องเป็นที่ดินผืนเดียวกัน และวิทยาลัยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ในด้านหลักเกณฑ์ข้ออื่นๆ
เกี่ยวกับเรื่องบริเวณก็เช่นว่า เป็นที่เอกเทศไม่ประปนกับสถานที่อื่น จะต้องมีที่ว่างและสภาพแวดล้อมดีสำหรับการพักผ่อน
การกีฬา การจราจรภายในวิทยาลัย และมีแผนผังการก่อสร้างที่แน่นอน เช่น ส่วนใดจะใช้เป็นที่เรียน
หอพัก และส่วนใดควรจะเป็นสถานที่ของกิจกรรมนอกหลักสูตร เป็นต้น
อาคาร
จะต้องมีแผนการก่อสร้างอาคารในส่วนต่างๆ ที่แน่นอน และอาคารมีพื้นที่เพียงพอกับวัตถุประสงค์ของการใช้อาคารนั้นๆ
เฉพาะตัวอาคารเรียนจะต้องมีส่วนประกอบต่างๆ เพื่อจัดให้การศึกษาตามสาขาวิชาที่ระบุไว้
เช่น มีห้องบรรยายกี่ห้อง ห้องสัมมนากี่ห้อง ห้องปฎิบัติการวิทยาศาสตร์ ห้องปฎิบัติการทางภาษา
พื้นที่ใช้สอยของอาคาร ทบวงมหาวิทยาลัยได้กำหนดเป็นเกณฑ์มาตรฐานไว้ เช่น
-ห้องทำงานผู้อำนวยการ จะต้องมีพื้นที่อย่างน้อย 25 ตารางเมตร
-ห้องพักอาจารย์ผู้สอน มีพื้นที่ 12 ตารางเมตรต่อคน
-เสมียน 3.5 ตารางเมตรต่อคน
-ห้องเรียนแบบ ก. สำหรับนักศึกษาจำนวน 300 คน จะต้องมีพื้นที่อย่างต่ำ 300
ตารางเมตร หรือคนละ 1 ตารางเมตร
-ห้องเรียนแบบ จ. สำหรับนักศึกษา 25 คน จะต้องมีพื้นที่อย่างน้อย 38 ตารางเมตร
ห้องสัมมนาหรือห้องประชุมสำหรับ 30 คน ต้องมีพื้นที่ 54 ตารางเมตร เป็นต้น
นอกจากนี้เกณฑ์มาตรฐานสำหรับห้องปฎิบัติการห้องวิจัยวิทยาศาสตร์ โรงฝึกงาน
ห้องสมุด โรงอาหาร ทบวงมหาวิทยาลัยได้กำหนดจำนวนพื้นที่ใช้สอยต่อคนไว้ทั้งสิ้น
อุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับที่ตั้งบริเวณและอาคาร
จะต้องมีบริการสาธารณูปโภคพอเพียง เช่น ประปา ไฟฟ้า การถ่ายเทสิ่งโสโครก มีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยในบริเวณและอาคารต่างๆ
พร้อมสรรพ
อุปกรณ์การศึกษา
มีอุปกรณ์การสอนทั่วไปประจำห้องบรรยาย ห้องเรียนต่างๆ และอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับการสอนแต่ละสาขาวิชาครบถ้วนเพียงพอกับจำนวนนักศึกษาที่เข้าเรียนแต่ละครั้ง
อย่างเช่นการสอนวิทยาศาสตร์ปฏิบัติ ต้องมีอุปกรณ์ทดลองวิทยาศาสตร์ ถ้าเป็นการสอนทางบริหารธุรกิจจะต้องมีอุปกรณ์ประเภทเครื่องพิมพ์ดีด
เครื่องคิดเลข ถ้าเป็นการสอนทางวิศวกรรมศาสตร์จะต้องมีโรงงาน เครื่องไม้เครื่องมือครบถ้วน
จำนวนเงินทุนประเดิมและทรัพย์สินที่จะใช้ในการจัดตั้ง
วิทยาลัยเอกชนต้องมีที่ดินอันเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยเป็นของตนเอง แต่ในกรณีต้องใช้ที่ดินมากเพื่อประโยชน์ในการศึกษานอกเหนือไปจากที่ดินเดิมอันเป็นกรรมสิทธิ์ของวิทยาลัยเอกชนแล้ว
อาจผ่อนผันให้มีที่ดินในรูปสิทธิครอบครองได้ในจำนวนพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวกับความมั่นคงทางหลักทรัพย์ของวิทยาลัยนั้นๆ
การตีราคาที่ดินให้ใช้ราคาที่ได้สินทรัพย์นั้นมา หากได้มากเกิน 3 ปี ให้ประเมินราคาได้โดยอาศัยราคาปานกลางซึ่งกำหนดโดยกรมที่ดิน
การโอนที่ดิน ผู้รับใบอนุญาตจะต้องโอนที่ดินเป็นของวิทยาลัยทันทีเมื่อได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นวิทยาลัยเอกชนตามกฎหมายแล้ว
เกี่ยวกับอาคารเรียนและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในที่ดินของวิทยาลัย ก็เช่นเดียวกันที่สิทธิและกรรมสิทธิ์จะต้องเป็นของวิทยาลัย
การตีราคาอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ให้ใช้ราคาทุนคิดหักค่าเสื่อมโดยอาศัยอัตราอายุการใช้งานดังนี้
อาคารที่เป็นตึก 40 ปี อาคารไม้ 10-15 ปี
ส่วนสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์เครื่องขยายเสียง
พิมพ์ดีด รถยนต์ จะต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของวิทยาลัย ยกเว้นในบางกรณีอาจจะผ่อนผันให้เช่าได้
เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
สินทรัพย์ประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากที่ดินและอาคารนี้ การตีราคาทรัพย์สินให้ใช้ราคาทุน
แต่หักค่าเสื่อมโดยกำหนดอายุการใช้งานของสินทรัพย์ทั้งหลายเหล่านี้ไว้ไม่เกิน
10 ปี
เกี่ยวกับผู้สอน
จะต้องมีสัญญาจ้างผู้สอนโดยระบุรายละเอียดเป็นไปตามกฎหมายแรงงาน
กำหนดอัตราเงินเดือนหรือค่าตอบแทนแก่ผู้สอนและพนักงานในอัตราที่สมควรแก่วิทยฐานะโดยอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่าอัตราที่ทางราชการกำหนดไว้
วางหลักเกณฑ์เรื่องการขึ้นเงินเดือนไว้ให้ชัดเจนเพื่อจุดมุ่งหมายที่จะให้ความมั่นคงแก่ผู้สอนและพนักงาน
เกี่ยวกับนักศึกษา
กำหนดเครื่องแบบที่สุภาพสำหรับนักศึกษา
กำหนดระเบียบเกี่ยวกับวินัยไว้พอสมควรแก่การวางใจได้ว่านักศึกษาจะปฏิบัติตนอยู่ในวินัยอันดีงาม
กำหนดระเบียบข้อบังคับและบทบาทลงโทษเกี่ยวกับนักศึกษาไว้
กำหนดค่าเล่าเรียน ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ให้ชัดเจนและเป็นไปตามกฎของทบวงมหาวิทยาลัย
โครงการจัดการศึกษา
การจัดการศึกษาจะต้องมีอัตราส่วนระหว่างผู้สอนประจำต่อจำนวนนักศึกษาไม่น้อยกว่า 1
ต่อ 20
หรือเมื่อรวมผู้สอนประจำและผู้สอนพิเศษเข้าด้วยกันจะต้องเป็นสัดส่วนต่อจำนวนนักศึกษาเท่ากับ
1 ต่อ 10 โดยผู้สอนต้องมีวุฒิอย่างน้อยปริญญาตรีและมีวุฒิตรงตามสาขาวิชาที่สอนอย่างน้อย
3 คน ทำหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบในแต่ละสาขาที่จัดสอนนั้นๆ
จะต้องระบุจำนวนนักศึกษาเต็มตามโครงการ แยกตามสาขาวิชาและแต่ละระดับการศึกษา
โดยระบุแยกออกมาเป็นจำนวนปีจนกว่าจะเต็มโครงการ
ด้านตัวผู้สอนก็ต้องระบุจำนวนที่คาดว่าจะเต็มโครงการ แยกตามวุฒิและสาขาวิชาเอก
แสดงออกมาเป็นปีเช่นกัน
หลักสูตร
ระยะเวลาการศึกษาตามหลักสูตร สำหรับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง อย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า
4 ภาคการศึกษาปกติหรือไม่เกิน 6 ภาค ในหลักสูตร 4 ภาคการศึกษาปกตินี้ นักศึกษาจะใช้เวลาเรียนได้ไม่เกิน
8 ภาคการศึกษาปกติ ส่วนหลักสูตร 6 ภาคการศึกษา จะใช้เวลาเรียนได้ไม่เกิน
12 ภาค
หลักสูตรปริญญาตรีกำหนดให้มีระยะเวลาการศึกษาปกติ จะใช้เวลาเรียนได้ไม่เกิน
16 ภาค
แบ่งการศึกษาเป็นระบบ 2 ภาคในหนึ่งปีการศึกษา โดยต้องมีเวลาเรียนในชั้นอย่างน้อย
16 สัปดาห์ต่อภาค
จำนวนหน่วยกิต ในหลักสูตรประกาศนียบัตรต้องมีหน่วยกิตอย่างน้อย 80 หน่วยกิตปริญญาตรีอย่างน้อย
120 หน่วยกิต
หลักสูตรจะต้องประกอบด้วยวิชาศิลปศาสตร์และวิชาชีพ รายละเอียดของหลักสูตรให้ยึดตามข้อพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาหลักสูตรเฉพาะสาขาวิชาที่ได้รับแต่งตั้งเป็นเกณฑ์