|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
อินเด็กซ์สบช่องเพิ่มรายได้ เปิดตัวนิวบิซิเนสใหม่ ทุ่ม 5 ล้านบาท สร้างแบรนด์ “The Dog Master” มั่นใจอนาคตปั้มรายได้สูง คุยครึ่งปีแรกแม้การเมืองพ่นพิษ แต่ยังเติบโตได้ถึง 32% รวมมูลค่ากว่า 996.16 ล้านบาท ฟันธงภาพรวมอีเว้นท์อาการหนัก ทั้งปีต่ำกว่าปีก่อนแน่ 5-10%
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี จำกัด (มหาชน) ภาพรวมธุรกิจอีเว้นต์ในปีนี้ มองว่าแย่กว่าปีก่อน หรือทั้งปีคาดว่าจะมีการเติบโตต่ำกว่าปีก่อนอย่างน้อย 5-10% ส่วนสำคัญมาจากช่วงครึ่งปีแรกที่มีปัญหาทางการเมืองและการชุมนุมเกิดขึ้น ซึ่งในส่วนของธุรกิจอีเว้นท์ได้รับผลกระทบราว 4-5 เดือน นับตั้งแต่เดือนก.พ.เป็นต้นมา โดยในช่วงนั้นมูลค่าของธุรกิจอีเว้นท์หายไปไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขที่หายไปนี้ ส่วนใหญ่จะยังถูกนำมาใช้ในครึ่งปีหลัง เห็นได้จากลูกค้าเริ่มมีการรีไวท์แผนการทำตลาดและจัดอีเว้นท์อีกครั้ง แต่ก็มีบางส่วนที่ต้องยกเลิกไป
“ทั้งนี้ ในภาพรวมครึ่งปีหลัง หากไม่มีเรื่องการเมืองเกิดขึ้น เชื่อว่าจะไปได้ดีอยู่ ขณะที่ช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก พบว่า อีเว้นท์ไม่ค่อยแรงเท่าที่ควรจะเป็น เพราะปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ สภาพอากาศที่มีฝนตกบ่อย หรือ สถานที่ออนกราวด์ อยู่ในที่อับ เข้าถึงยาก ดังนั้นทั้งปีมั่นใจว่า ภาพรวมอีเว้นท์จะแย่กว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน” นายเกรียงไกร กล่าว
นายเกรียงกาญจน์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทไม่ได้มุ่งเน้นในส่วนของธุรกิจอีเว้นต์แต่เพียงด้านเดียว แต่ยังมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแผนการดำเนินงานในปีนี้ จะมีนิวบิซิเนสใหม่อย่างน้อย 3 โปรเจกต์ โดยในช่วงต้นปีได้เปิดตัวไปแล้วกับ โปรเจกต์ร่วมกับทาง โคโร่ ประเทศญี่ปุ่น กับคอนเท้นท์หุ่นยนต์ ดูแลเรื่องพิพิธภัณฑ์ต่างๆ
และล่าสุดทางบริษัทได้มองเห็นแนวโน้มในเรื่องของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัข ว่าจะเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง โดยจะมาเติมเต็มให้ชีวิตมากยิ่งขึ้น เห็นได้จากตลาดสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับสุนัขเติบโตอย่างน่าสนใจ รวมแล้วจากตัวเลขของทางสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อย (สสว.) พบว่า ตลาดเกี่ยวกับสุนัขมีมูลค่าถึง 10,500 ล้านบาท แบ่งออกเป็น อาหารสำเร็จรูป 47%, การรักษาผ่านโรงพยาบาล 29%, การดูแลสุขภาพ 10% และแอทเซทเซอรี่ 14%
ส่งผลให้บริษัทได้เปิดตัวนิวบิซิเนส สร้างแบรนด์ขึ้นใหม่ ในชื่อ “The Dog Master” เบื้องต้นในงบลงทุนกว่า 5 ล้านบาท เป็นธุรกิจที่ออกมาในรูปแบบของรายการโทรทัศน์ ในลักษณะของเรียลลิตี้โชว์ ระหว่างคนกับสุนัข ในชื่อรายการว่า “The Dog Master เฮฮาหมากับคน” จะออกอากาศในช่วงไตรมาสสี่
โดยขณะนี้กำลังเจรจาของเวลาออกอากาศจากทางฟรีทีวีไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ นอกจากนี้ยังมีการสร้างเว็บไซต์ลักษณะเป็นโซเชียล เน็ตเวิร์ค ในชื่อ www.mydoggang.com เริ่มเปิดตัวในเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้ และส่วนสุดท้ายคือ กิจกรรมออนกราวด์ จะเริ่มได้ในต้นปีหน้าเป็นต้นไป โดยรายได้จาก“The Dog Master” นี้ จะเข้าไปอยู่ในส่วนของTV & Multimedia
นายเกรียงกาญจน์ กล่าวถึงภาพรวมรายได้ครึ่งปีแรกด้วยว่า มีการเติบโตถึง 32% คิดเป็นมูลค่ารวมได้กว่า 996.16 ล้านบาท ทั้งปีเชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าที่ 1,800 ล้านบาท โดยในครึ่งปีหลังนี้ รายได้จากส่วนของ โปรดักส์ชั่น และเพอร์ซันนัล แบรนด์ดิ้ง จะมีรายได้เข้ามามากที่สุด
|
|
|
|
|