Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2528








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2528
ทัศนาพร ศรีทองดี คนเก่ากรุงศรีฯ 5.6 ล้านบาท ที่ต้องฟ้องเรียกจากนายจ้าง             
 


   
search resources

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
Consultants and Professional Services
ทัศนาพร ศรีทองดี
Law




ทัศนาพร ศรีทองดี อายุ 35 ยังใช้คำนำหน้าว่านางสาวเธอเริ่มทำงานกับธนาคารกรุงศรีอยุธยาเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2510 หลังจากที่จบชั้นมัธยม 3 (ม.ศ.3) จากโรงเรียนแถวๆ บ้านเกิดจังหวัดอุดรธานี

750 บาท เป็นอัตราเงินเดือนเริ่มต้น เมื่อ 18 ปีที่แล้ว

ต่อมาเมื่อทัศนาพรก็ได้เลื่อนตำแหน่งและเงินเดือนขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อปี 2522 ธนาคารกรุงศรีอยุธยาแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการสาขาวงเวียน 22 กรกฎาคม และย้ายมาที่สาขาบางลำพูในตำแหน่งเดิมในปีเดียวกัน

ด้วยความรู้ระดับม.ศ.3 แต่สามารถก้าวขึ้นมาถึงผู้ช่วยผู้จัดการสาขาได้ก็คงต้องยอมรับกันว่า ทัศนาพรเป็นพนักงานผู้ที่มีความสามารถคนหนึ่ง

"เพราะด้วยความตั้งใจจริง ด้วยความสุจริต ตระหนักอยู่เสมอว่าเป็นผู้มีความรู้น้อย และคิดว่าจะทำงานธนาคารจนกว่าจะเกษียณอายุ" ทัศนาพรถือทั้งหมดนี้เป็นหลักประจำใจ

แต่แล้วชีวิตและงานอาชีพของทัศนาพรก็มีอันต้องเป็นไป

ต้นเดือนมิถุนายน 2527 ทัศนาพรถูกนายจ้างตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบ ด้วยข้อสงสัยว่าเธอได้นำเงินของธนาคารไปใช้ส่วนตัว

วันที่ 25 กรกฎาคม 2527 ขจรศักดิ์ หาญณรงค์ ผู้จัดการฝ่ายการพนักงานของธนาคารกรุงศรีอยุธยาก็ได้ข้อสรุปแจ้งผลการสอบว่า ทัศนาพรมีความผิดจริงตามข้อสงสัย ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ใช้อำนาจหน้าที่การงานโดยไม่สุจริต แสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบให้กับตนเอง จงใจให้ธนาคารได้รับความเสียหาย

จึงได้มีคำสั่งที่ 348/2527 ให้ทัศนาพร ศรีทองดี พ้นสภาพการเป็นพนักงานลูกจ้าง โดยปลดออก

ด้วยความเชื่อมั่นว่าตนไม่ได้มีความผิดตามข้อกล่าวหา วันที่ 15 มีนาคม 2528 ทัศนาพรพร้อมกับทนายก็เดินขึ้นศาลแรงงาน ยื่นฟ้องธนาคารกรุงศรีอยุธยา - นายจ้าง ในความผิดที่เลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม ละเมิด และทัศนาพรขอเรียกค่าเสียหายด้วย

สำหรับค่าเสียหายนั้นทัศนาพรระบุบว่า ครั้งสุดท้ายเธอได้เงินเดือนเดือนละ 5,185 บาท ค่าครองชีพเดือนละ 500 บาท ค่าเงินสะสมที่ฝากสะสมไว้ร้อยละ 5 ของเงินเดือน เท่ากับ 259 บาท รวมได้รับเงินสุทธิเป็นรายได้เดือนละ 5,944 บาท

การปลดออกนี้ธนาคารกรุงศรีอยุธยาไม่ได้บอกกล่าวให้ทัศนาพรทราบล่วงหน้า เพราะฉะนั้นจึงขอให้ธนาคารจ่ายค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 1 เดือน เป็นเงิน 5,944 บาท

ลำดับต่อมาเธอกล่าวว่าทำงานกับธนาคารมาแล้วเป็นเวลา 10 ปีเศษ จะต้องได้รับค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องคุ้มครองแรงงานเป็นเงิน 6 เท่าของเงินเดือนที่ได้รับต่อเดือน คิดเป็นเงิน 35,665 บาท

ต่อมาธนาคารกรุงศรีจ่ายโบนัสให้กับพนักงานทุกคนปีละ 4 เท่า ของเงินเดือน ในปี 2527 เธอบอกว่าเพิ่งได้รับเพียง 2 เดือน เป็นเงิน 10,370 บาท

เงินสะสมที่ธนาคารฝากสะสมไว้ให้ทุกเดือนเพราะการทำงานเป็นลูกจ้างอัตราร้อยละ 5 ของเงินเดือน ตั้งแต่เริ่มเข้าทำงานจนกระทั่งมีคำสั่งให้ปลดคงเหลือเป็นเงิน 30,450 บาท

อีกข้อหนึ่งทัศนาพรบรรยายว่าเธอมีหุ้นของธนาคารในนามของตัวเองเนื่องจากธนาคารหักเงินสะสมบางส่วนไปชำระค่าหุ้นและธนาคารได้ยืดคืนไป 96 หุ้น ปัจจุบันหุ้นธนาคารตกราคาหุ้นละ 150 บาท รวมแล้วจะต้องจ่ายให้เธอในกรณีนี้ 14,400 บาท

ข้อถัดมาขณะถูกปลดทัศนาพรมีอายุ 34 ปี ยังสามารถทำงานให้กับธนาคารจนเกษียณอายุได้อีก 21 ปี ขณะนี้เธอยังไม่สามารถหางานอื่นทำได้ เพราะฉะนั้นจะต้องขาดรายได้เป็นเงินเดือนจากอัตราเดือนสุดท้าย 5,185 บาท ค่าครองชีพ 500 บาท ตั้งแต่วันถูกเลิกจ้างจนถึงวันเกษียณอายุ วันที่ 10 ตุลาคม 2548 เป็นเวลา 21 ปี 2 เดือน 15 วัน โดยยังจะได้รับการปรับเงินเดือนขึ้นทุกปี อย่างน้อย 1 ขั้นเงินเดือน ขั้นละ 350 บาท เงินโบนัสปีละ 4 เท่า ของเงินเดือนในแต่ละปี และเงินสะสมร้อยละ 5 ของเงินเดือนรวมแล้วเป็นเงิน 3,290,881 บาท

สุดท้ายการที่ธนาคารเลิกจ้างโดยเธอบอกว่ากล่าวหากันอย่างไม่เป็นธรรมนี้ ทำให้เธอได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง เกียรติคุณ และการทำมาหารายได้ จึงต้องขอคิดค่าเสียหายในส่วนนี้ เป็นเงิน 2 ล้านบาท

รวมทั้งหมดทุกข้อทุกประเด็น แล้วค่าเสียหายที่ทัศนาพรต้องการจากธนาคารผู้เป็นนายจ้างของเธอเท่ากับ 5,645,656 บาท

ว่ากันว่างานนี้เป็นงานล้างแค้นในเรื่องเก่าระหว่างแฟนของทัศนาพรกับผู้บริหารบางคนของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่เคยทำงานอยู่ที่เดียวกับแฟนของทัศนาพรที่ธนาคารทหารไทยในสมัยวิสิษฐ์ ตันสัจจา แตกคอกับสุขุม นวพันธุ์

เรียกได้ว่าเป็นแค้นเก่ามีมานมนานแล้ว และเพิ่งจะมีโอกาสชำระกัน

ก็ต้องเหนื่อยอีกพักใหญ่ๆ ด้วยกันทั้งสองฝ่าย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us