Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา กรกฎาคม 2553
อวสานของเดสก์ทอปคอมพิวเตอร์             
โดย ธวัชชัย อนุพงศ์อนันต์
 


   
search resources

Computer




ถ้าเรายังพอจำกันได้ จริงๆ แล้ว ไม่ถึงสิบปีก่อนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือเดสก์ทอปคอมพิวเตอร์ (desktop PC) หรือพีซี (Personal Computer-PC) เริ่มกลายเป็นอุปกรณ์ข้างกายของเรามาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม บทบาทของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเริ่มลดลงเรื่อยๆ นับจากการก้าวเข้ามาของเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ที่ทำให้ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงๆ ในศักยภาพที่สูงขึ้น ทำให้คอมพิวเตอร์ไม่จำเป็นต้องตั้งอยู่กับโต๊ะอีกต่อไป พวกมันสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้พร้อมๆ กับเราด้วยความสามารถที่ดีขึ้นและสามารถตอบสนองการใช้งานของเราได้เหมือนเราทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่บ้าน

นี่อาจจะถึงเวลาที่เดสก์ทอปคอมพิวเตอร์จะได้พักผ่อนบ้าง หลังจากที่อยู่รับใช้เรามาตั้งแต่ยุคคอมพิวเตอร์เริ่มต้นหัดเดินเตาะแตะมาจนถึงทุกวันนี้

เมื่อพิจารณาถึงบทบาทของเดสก์ ทอปคอมพิวเตอร์แล้ว ในช่วงระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมาถือได้ว่า เดสก์ทอปคอมพิวเตอร์คือราชาในหมู่มวลเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหลาย เมื่อใดก็ตามที่เราต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์สักตัว เราจะนึกถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ในกล่อง ที่ใหญ่เทอะทะ ยิ่งใหญ่ยิ่งแสดงถึงศักยภาพ ที่สูงกว่าของคอมพิวเตอร์ โดยอาจจะวางอยู่บนโต๊ะหรือใต้โต๊ะของเรา อย่างไรก็ตาม ณ เวลานั้น นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุด

คำว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ Personal Computer นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจึงหมายถึงกล่องใส่เครื่องจักรขนาดใหญ่เทอะทะ ที่วางอยู่บนโต๊ะหรือใต้โต๊ะของเรานั่นเอง สำหรับความหมายอื่นๆ ในแง่ที่เป็นเครื่องมือทรงประสิทธิภาพขนาดเล็กที่อาจจะติดอยู่ตามจุดต่างๆ ของร่างกาย หรือพกพาไปยังที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกยังคงเป็นแค่เทคโนโลยีน่าตื่นตาตื่นใจในหนังวิทยาศาสตร์หรือหนังไซไฟเท่านั้น

ประมาณต้นทศวรรษ 1980 บริษัท เทคโนโลยีบางแห่งได้เริ่มสร้างคอมพิวเตอร์ แบบที่สามารถยกไปใช้งานหรือเคลื่อนย้าย ไปมาเครื่องแรกของโลกขึ้น ซึ่งจะเป็นคอม พิวเตอร์ที่มีลักษณะหน้าตาคล้ายๆ คอมพิวเตอร์แล็ปทอป (Laptop) ในทุกวันนี้

อย่างไรก็ตาม เรายังต้องรอมาอีกนานหลายปี เดสก์ทอปคอมพิวเตอร์ยังคงเป็นตัวหลักในตลาด เนื่องจากเราต้องยอมเสียสละอะไรมากมายเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถยกพกพาไปไหนมาไหนได้ อันเนื่องมาจากเทคโนโลยีที่ยังไม่ทันสมัยมากพอที่จะทำสิ่งเหล่านี้ ซึ่ง ณ เวลานั้นยังไม่คุ้มที่เราจะยอมเสียความสามารถหลายๆ อย่างเพื่อแลกกับการพกพาเครื่องไปไหนมาไหนได้

เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างคอม พิวเตอร์แล็ปทอปกับเดสก์ทอปคอมพิวเตอร์ ณ วันนั้นแล้ว เดสก์ทอปคอมพิวเตอร์มีศักยภาพมากกว่า มีจอที่ใหญ่กว่าและสว่างกว่า มีคีย์บอร์ดและเมาส์ที่ใช้งานได้สะดวกสบายมากกว่า รวมถึงมีฮาร์ดดิสก์ที่เก็บกักข้อมูลได้มากกว่าหลายเท่า ที่สำคัญที่สุดคือ เดสก์ทอปคอมพิวเตอร์ราคาถูกกว่ามาก

เราอาจจะซื้อแล็ปทอปคอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องที่สองของเรา แต่เราไม่สามารถยึดถือมันเป็นเครื่องมือหลักในการทำงานได้เหมือนเครื่องเดสก์ทอปคอมพิวเตอร์

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสิบปีล่าสุด เทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์แบบพกพาได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและได้กำจัดข้อด้อย ต่างๆ ที่คอมพิวเตอร์แบบพกพาเคยมีมาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีของคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะทั่วๆ ไป ในขณะที่คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะกลับไม่สามารถลบภาพด้อยที่ติดตัวมาตลอดคือ การตั้งโต๊ะ นั่นคือคอมพิวเตอร์แบบตั้งแต่โต๊ะไม่สามารถแยกขาดจากโต๊ะที่มันตั้งไว้อยู่ได้ แม้ทุกวันนี้จะมีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบที่เรียกว่า small form factor หรือแบบที่หน้าตาคล้ายกับ tablet แต่ก็ยังไม่สามารถยกไปไหนมาไหนได้สะดวก ต้องตั้งไว้บนโต๊ะเพียงสถานเดียว

เมื่อเราพิจารณาจากข้อมูลยอดขาย คอมพิวเตอร์ในตลาดประเทศสหรัฐอเมริกา ก็จะเห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของการบริโภคคอมพิวเตอร์ในลักษณะต่างๆ ได้อย่างชัดเจน

นั่นคือแนวโน้มที่ว่าเดสก์ทอปคอมพิวเตอร์กำลังจะตาย

จากข้อมูลของบริษัทวิจัยทางการตลาดฟอร์เรสเตอร์ (Forrester) พบว่า ในปี 2008 ยอดขายเดสก์ทอปคอมพิวเตอร์กับแล็ปทอปคอมพิวเตอร์ยังใกล้เคียงกันอยู่ที่ระดับส่วนแบ่งตลาดที่ 45 เปอร์เซ็นต์เท่ากัน ส่วนที่เหลือเป็นเครื่องเน็ตบุ๊กและมินิคอมพิวเตอร์ลักษณะต่างๆ

อย่างไรก็ดี ยอดขายเครื่องแล็ปทอป ได้แซงหน้าเครื่องเดสก์ทอปเป็นครั้งแรกเมื่อปีกลาย โดยยอดขายเครื่องแล็ปทอปคิดเป็น 44 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของเครื่องเดสก์ทอปลดลงเหลือ 38 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ในขณะเดียวกัน ยอดขายเครื่องเน็ตบุ๊กรวมถึงมินิคอมพิวเตอร์กลับเพิ่มเป็น 2 เท่าตัว

จากการคาดการณ์ของฟอร์เรสเตอร์ ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า ยอดขายเครื่องเดสก์ทอปจะค่อยๆ ตกลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือ 18 เปอร์เซ็นต์ นั่นหมายความว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของคอมพิวเตอร์ที่ขายกันในท้องตลาดจะเป็นแบบพกพาไปไหนมาไหนได้ สิ่งที่น่าสังเกตคือส่วนแบ่งตลาด เครื่อง tablet อย่าง iPad จะประสบความสำเร็จอย่างสูงโดยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภายใน 3 ปีจะมีส่วนแบ่ง ตลาดเหนือเครื่องเดสก์ทอปคอมพิวเตอร์ และกลายเป็นส่วนแบ่งตลาดอันดับสองรองจากเครื่องแล็ปทอป

บทวิเคราะห์นี้อาจจะดูไม่น่าเป็นไปได้ แต่ยอดขายเครื่อง iPad หนึ่งล้านเครื่องต่อเดือนของแอปเปิลก็ดูจะทำให้เรื่องนี้มีโอกาสเป็นไปได้มาก

บทวิเคราะห์ของฟอร์เรสเตอร์ถือว่า เป็นการตอกย้ำการเปลี่ยนแปลงความหมายของคำว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer)

ก่อนหน้านี้เดสก์ทอปคอมพิวเตอร์ซึ่งเคยตีตราจองคำว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนั้นมักจะเป็นเครื่องที่มีคนใช้หลายๆ คน แต่สำหรับเครื่องแล็ปทอป เน็ตบุ๊ก รวมถึง tablet โดยมากจะเป็นเครื่องส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่งเป็นส่วนใหญ่ นั่นคือ เครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านี้ล้วนเป็นเครื่อง คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลจริงๆ

ซึ่งรวมถึงระบบปฏิบัติการหรือ OS สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาสมัยใหม่ล้วนสร้างขึ้นโดยเน้นการทำงานสำหรับคนคนเดียว ไม่ว่าจะเป็น iOS ของแอปเปิล หรือ Android ของกูเกิ้ลล้วนผูกเข้ากับแอคเคาท์ของอีเมล ปฏิทิน (Calendar) รวมถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ สำหรับคนคนเดียว

ซึ่งจำนวนผู้ซื้อคอมพิวเตอร์ตามข้อมูลของฟอร์เรสเตอร์ก็ได้แสดงให้เห็นว่า

ในอนาคตนั้น เราจะมีคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องอยู่ภายในบ้านหลังเดียว โดยคอมพิวเตอร์ที่ใช้เป็นตัวหลักอาจจะเป็นแล็ปทอป และเราจะมีคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กๆ หรืออาจจะเป็นแบบ tablet ที่เราใช้งานเป็นประจำอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตาม ผลของงานวิจัยครั้งนี้อาจจะมีข้อด้อยอยู่บ้าง เช่น เป็นผลสำรวจจากกลุ่มผู้บริโภคตามบ้านเป็นหลัก แม้ว่าตลาดคอมพิวเตอร์ในกลุ่มธุรกิจอาจจะมีแนวโน้มที่คล้ายๆ กัน แต่จะไม่ได้มีระดับความเข้มข้นเท่ากลุ่มลูกค้าตามบ้าน ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า นี่คือการใช้ข้อมูลการขายในปัจจุบันในการคาดการณ์การขาย ในอนาคตในแบบที่เรียกว่า projection ไม่ใช่ prediction

ดังนั้น งานวิจัยนี้จึงไม่ได้เอาปัจจัยเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอีกสองถึงสามปีข้างหน้าเข้าไปด้วย ซึ่งปัจจัยเรื่องเทคโนโลยีอาจจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดคอมพิวเตอร์แบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือได้

ปัจจุบันเครื่องเดสก์ทอปคอมพิวเตอร์ยังคงมีอัตราความเร็วของหน่วยประมวลผลต่อหนึ่งดอลลาร์สูงกว่าเครื่องแล็ปทอป หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ด้วยจำนวนเงินเท่าๆ กัน เราสามารถซื้อเครื่อง เดสก์ทอปคอมพิวเตอร์ที่ทำงานเร็วกว่าเครื่องแล็ปทอปนั่นเอง นั่นหมายความว่า ใครก็ตามที่ต้องการใช้ประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์มากๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานกับภาพวิดีโอแบบความละเอียดสูงหรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์ก็ยังคงต้องพึ่งพาเดสก์ทอปคอมพิวเตอร์ไปอีกพักใหญ่

อย่างไรก็ดี ถ้าคิดในอีกแง่หนึ่ง โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ที่มีแนวโน้มจะไปพึ่งพิงแอพพลิเคชั่นบนอินเทอร์เน็ตมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลหรือจัดการไฟล์ต่างๆ ในเครื่องตัวเองมีน้อยลงๆ เช่นกัน

นั่นหมายความว่า ศักยภาพของคอมพิวเตอร์จะถูกโยกไปอยู่บนอินเทอร์เน็ต แทนความสามารถในการเชื่อมต่ออินเทอร์ เน็ตจึงมีความสำคัญมากกว่าศักยภาพของโปรเซสเซอร์

จึงมีแนวโน้มว่าเราจะยอมเสียศักยภาพของโปรเซสเซอร์เพื่อแลกกับความสะดวกสบายในการพกพาเครื่องไปไหนมาไหนมากขึ้นด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่อง con-tinuous client ซึ่งเป็นความต่อเนื่องในการทำงานหรือใช้งานแอพพลิเคชั่นใดๆ ผ่านเครื่องมือในการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นหรืองานนั้นๆ ที่แตกต่างกันไป เช่น เราอาจจะใช้งานแอพพลิเคชั่นใดๆ บนเดสก์ทอป คอมพิวเตอร์ในที่ทำงาน แล้วเปลี่ยนมาทำงานต่อด้วยมือถือบนรถไฟฟ้า ก่อนจะมาสรุปจบงานบนเครื่องเน็ตบุ๊กในร้านกาแฟ ริมถนน

นั่นคือ session ของการทำงานของเราในอุปกรณ์ใดๆ ยังคงสามารถนำมาทำงานอย่างต่อเนื่องบนอุปกรณ์ที่แตกต่างกันได้ โดยการแสดงผลหรือการใช้งานบนอุปกรณ์ที่เปลี่ยนไปยังคงเหมือนเดิม

แนวโน้มของการใช้งานและการทำงานของเราจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างที่กล่าว ถึงอย่างแน่นอน เมื่อนั้นเดสก์ทอปคอมพิว เตอร์ที่ต้องยึดติดอยู่กับโต๊ะ อาจจะไม่เหมาะสมกับเราเสียแล้ว

ถึงเวลาบอกลาเดสก์ทอปคอมพิวเตอร์กันแล้วครับ

อ่านเพิ่มเติม:

1. “Apple sells two million iPads in less than 60 days” http://www.apple.com/pr/library/2010/05/31ipad.html
2. Rotman, S. (2010), “Steve Ballmer is right: The PC market is getting bigger”http://blogs.forrester.com/sarah_rotman_epps/10-06-17steve_ ballmer_right_pc_market_getting_bigger
3. Manjoo, F. (2010), “The digital download is dead, ”http://www.slate.com/id/2254532/
4. Dulmont Magnum, “http://en.wikipedia.org/wiki/Dulmont_Magnum
5. Manjoo, F. (2010), “Flight of the Desktops”http://www.slate.com/id/2257495/
6. Small form factor, http://enwikipedia.org/wiki/Small_form_factor   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us