จีน
ธนาคารกลางจีนแถลงภายหลังเพิ่งประกาศเพิ่มความยืดหยุ่นอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนในเดือนมิถุนายนว่า เตรียมขยายโครงการทดลองใช้เงินหยวนในการค้าข้ามพรมแดน ครอบคลุมเมืองและมณฑล 20 แห่ง แถลงการณ์นี้มีจุดประสงค์เพื่อให้มีการทำธุรกรรมระหว่างประเทศในรูปเงินหยวนมากขึ้น และอาจนำไปสู่การแปลงสกุลเงินหยวนในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต โครงการทดลองใช้เงินหยวนที่ผ่านมาจำกัดอยู่เฉพาะ 365 บริษัทในนครเซี่ยงไฮ้ และอีก 4 เมืองในมณฑลกว่างตงทางภาคใต้ โดยอนุญาตให้ใช้เงินหยวนทำธุรกรรมกับเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เขตปกครองพิเศษมาเก๊า และ 10 ชาติในกลุ่มอาเซียน สำหรับการขยายโครงการเพิ่มเติมนี้ จะรวมถึงกรุงปักกิ่ง เทียนจิน (เทียนสิน) และอีกหลายมณฑล เช่น เสฉวนในภาคตะวันตกเฉียงใต้ และเจ้อเจียงในภาคตะวันออก อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์มิได้ระบุว่าการขยายโครงการจะเริ่มเมื่อใด และครอบคลุมบริษัทกี่ราย

พม่า
การก่อสร้างท่อส่งท่อก๊าซขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 ฟุต จากหลุมก๊าซยาดานาในอ่าวเมาะตะมะ ไปยังโรงไฟฟ้าพลังความร้อนในเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดีแล้วเสร็จตามกำหนด ทางการพม่าจัดพิธีเปิดท่อก๊าซเมื่อกลางเดือนมิถุนายน โดยมี พล.ท.ส่วยมี้น (Swe Mynt) ประธานสภาเพื่อสันติภาพและการพัฒนาเขตย่างกุ้งเป็นประธาน รัฐวิสาหกิจน้ำมันและก๊าซ หรือ MOGE (Myanmar Oil and Gas Enterprise) เริ่มวางท่อจากหลุมก๊าซดังกล่าวตั้งแต่เดือนธันวาคม 2552 โดยใช้เวลา 6 เดือน ไปยังโรงไฟฟ้า ผลิตไฟส่งไปหล่อเลี้ยงการผลิตในเขตกรุงเก่าย่างกุ้งกับเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดีทั้งหมด อีกส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในกรุงย่างกุ้ง ศูนย์กลางเศรษฐกิจการลงทุนของประเทศ โดย MOGE รายงานว่าท่อก๊าซเส้นนี้จะส่งก๊าซได้ในปริมาณ 90 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

ลาว
รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้มอบเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าแก่รัฐบาลลาวเป็นเงิน 100 ล้านหยวน (ประมาณ 550 ล้านบาท) ระหว่างการเดินทางเยือน สปป.ลาว อย่างเป็นทางการ ของสีจิ่นผิง (Xi Jinping) รองประธานาธิบดีจีน เมื่อกลางเดือนมิถุนายน เงินกู้ก้อนนี้จะช่วยลาวดำเนินโครงการพัฒนาจำนวนหนึ่ง ขณะที่ 2 ฝ่ายยังได้ร่วมกันลงนามเอกสารสัญญาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการลงทุน รวม 18 ฉบับ โดยรัฐบาลจีนจะช่วยเหลือลาวพัฒนาและก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานอีกนับ 10 โครงการตลอด 5 ปีข้างหน้า รวมทั้งการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงในเขตเมืองปากแบง แขวงอุดมไชย มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ พัฒนายกระดับและก่อสร้างทางหลวงอีก 2 สายในแขวงภาคเหนือที่คาดว่าจะใช้เงินนับ 100 ล้านดอลลาร์ และสร้างพนังกันน้ำกัดเซาะชายฝั่งแม่น้ำโขงในแขวงบอลิคำไซอีกกว่า 85 ล้านดอลลาร์


กัมพูชา
ราษฎรและกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนต่างๆ ในกัมพูชา เรียกร้องไปยังกลุ่มประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้บริจาคเงินให้รัฐบาลกัมพูชาจำนวนมหาศาลในแต่ละปี ให้ช่วยกดดันรัฐบาลฮุนเซนให้เคารพสิทธิมนุษยชน หยุดการขับไล่ราษฎรออกจากที่ทำกินและยึดที่ดินของคนเหล่านั้น การเรียกร้องเกิดขึ้น 1 วัน ก่อนที่กลุ่มผู้บริจาคจะประชุมพิจารณาความช่วยเหลือให้แก่กัมพูชาในช่วงต้นเดือนมิถุนายน หลังจากนั้น รัฐสภากัมพูชาได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ซึ่งต้องการเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศปีละ 1,050 ล้านดอลลาร์ สำหรับกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ หลายปีมานี้ รัฐบาลกัมพูชาได้พยายามดึงดูดความสนใจของนักลงทุนจากจีน เวียดนาม และเกาหลี เพื่อให้เข้าลงทุนในแขนงเหมืองแร่ การผลิตไฟฟ้าจากเขื่อน การเกษตร ไร่อ้อย นาข้าวและสวนยางพารา ด้วยการให้สัมปทานที่ดินจำนวนมากๆ ซึ่งจำเป็นต้องขับไล่ราษฎรออกจากพื้นที่สัมปทาน

เวียดนาม
รัฐสภาเวียดนามลงคะแนนเสียงเมื่อกลางเดือนมิถุนายน ไม่ผ่านร่างนโยบายการลงทุนโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงนครฮานอย-นครโฮจิมินห์ มีจำนวนผู้แทนที่เห็นด้วย 37.53% ไม่เห็นด้วย 42.19% และ 20.28% ไม่ลงคะแนนให้โครงการที่ก่อความขัดแย้งของรัฐบาล ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการนำโครงการนี้เสนอรัฐสภาในวาระประชุมต่อไปในปลายปีนี้หรือไม่ และหลายคนประเมินว่าผลการกดปุ่มออกเสียงในที่ประชุมครั้งนี้เป็น “เรื่องไม่คาดคิด” เพราะในการหาความเห็นด้วยในการลงคะแนนลับก่อนหน้านั้นเพียง 1 สัปดาห์ มีผู้แทนถึง 57.1% ลงมติตกลงเกี่ยวกับนโยบายก่อสร้างโครงการทางรถไฟความเร็วสูงเหนือ-ใต้