ความตกต่ำของภาคธุรกิจท่องเที่ยวไทยซึ่งคาดว่าจะทอดเวลายาวนาน กลายเป็นแรงกระตุ้นที่หนุนนำให้ภาคธุรกิจต้องหันมาร่วมมือหามาตรการส่งเสริมการขายขนานใหญ่ ล่าสุดโครงการ “เที่ยวทั่วไทย ราคาเดียว” หรือ One Price All Destination คือรูปธรรมของการดิ้นรนเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวและหลีกหนีสงครามด้านราคา

โครงการ “เที่ยวทั่วไทย ราคาเดียว หรือ One Price All Destination” เป็นโครงการที่เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในภาคธุรกิจท่องเที่ยวตั้งแต่โรงแรมในกลุ่ม บูติกโฮเตล ร้านอาหาร รถเช่า โรงพยาบาล และสปากว่า 40 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเร่งพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศให้มีประสิทธิภาพเข้มแข็งอย่างยั่งยืนในระยะยาว ในภาวะที่สภาพ เศรษฐกิจต้องฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน ด้วยการใช้กลยุทธ์ด้านราคาพร้อมอัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่องผ่านการใช้สื่อในลักษณะชุมชนออนไลน์ หรือ Social Networking ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงในรูปแบบ Two Ways Communication

ความมุ่งหวังของความร่วมมือดังกล่าว นอกจากจะช่วยแก้ ปัญหาสงครามด้านราคาที่อาจส่งผลระยะยาวต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวโดยรวมแล้ว ยังตั้งเป้าหมายที่จะสร้างมูลค่ายอดขายให้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 50% ของยอดขายโดยรวมให้แก่กลุ่มสมาชิกโครงการภายในสิ้นปีนี้

“นักท่องเทียวที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จะได้รับข้อได้เปรียบในด้านราคาที่ถูกกว่า 50% ที่ขายอยู่ในภาคปกติ อีกทั้งยังสามารถเลือกใช้บริการเพื่อการพักผ่อนในราคาพิเศษอีกด้วย” ลิลลี่ อุดมคุณธรรมในฐานะตัวแทนการจัดกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ “เที่ยวทั่วไทย ราคาเดียว หรือ One Price All Destination” ระบุ

อย่างไรก็ดี โครงการดังกล่าวนับเป็นแผนการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายในระยะสั้น และป้องกันการแข่งขันการตัดราคากันเองในขณะที่ตลาดรวมเกิดภาวะวิกฤติ โดยมุ่งเน้นการสื่อสารที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านสังคมออนไลน์เป็นหลัก เพราะใช้งบประมาณไม่สูงมากนัก โดยมีกลยุทธ์ด้านราคาที่เริ่มต้นด้วยราคา 2,200 บาท/คืน พร้อมอาหารเช้า จากปกติจะอยู่ในระดับตั้งแต่ 5 พันบาทขึ้นไปถึงราว 2 หมื่นบาทมาเป็น Key Messages

“โครงการเที่ยวทั่วไทย ราคาเดียวนี้จะช่วยให้มีเงินสะพัดในโครงการได้ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาทใน 3 เดือนแรก และสามารถสร้างรายได้ให้กับสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการได้ไม่ต่ำกว่า 50% ของรายได้รวมในแต่ละบริษัทภายในสิ้นปี” ลิลลี่เชื่อเช่นนั้น

จุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า โครงการดังกล่าวนับเป็นความร่วมมือของกลุ่มผู้ประกอบการในภาคเอกชนที่น่าสนใจและเป็นแนวทางการดำเนินกิจกรรมกระตุ้นตลาดก็สอดรับกับนโยบายการกระตุ้นตลาดภายในประเทศของ ททท.ที่มีอยู่

“ททท.มีแผนงานที่จะให้ความร่วมมือกับเอกชนในรูปแบบแพ็กเกจทัวร์ในประเทศในราคาที่จับต้องได้ที่ตอบรับกับมาตรการวงเงินลดหย่อนภาษีเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวสำหรับบุคคลทั่วไป และแนวทางการกระตุ้นตลาดผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสังคมออนไลน์ ที่ ททท.ดำเนินงานอยู่ในรูปแบบของ Single Messages”

ทั้งหมดนี้อาจเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เข้ามาช่วยกระตุ้นแผนการฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวในระยะสั้นเป็นอย่างดี แต่ประเด็นปัญหาระยะยาวของธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และกลุ่มบูติก โฮเต็ล คงต้องหันมาประเมินกันใหม่อีกครั้ง