|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ท่ามกลางกระแสว่าด้วยการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งดูประหนึ่งจะเป็นมาตรฐานให้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมต้องเร่งสร้างภาพลักษณ์ในมิติดังกล่าวเพื่อสื่อสารกับสาธารณะชนนั้น
ล่าสุดบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ก็ไม่ยอมพลาดโอกาสดังกล่าวด้วยการประชาสัมพันธ์ถึงความสามารถในการลดปริมาณของเสียและขยะอุตสาหกรรมที่โรงงานจีเอ็ม ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง ตามแผนงานที่จีเอ็มกำหนดเป็นเป้าหมายทั่วโลก
โรงงานจีเอ็ม ประเทศไทย ที่จังหวัดระยอง ได้รับการรับรองเป็นโรงงานล่าสุดของโรงงานจีเอ็มรวม 69 แห่งทั่วโลก ที่สามารถลดปริมาณของเสียและขยะอุตสาหกรรมที่จะถูกฝังกลบจนเป็นศูนย์ เพื่อให้เป็นโรงงานปลอดการกำจัดขยะและวัสดุเหลือใช้ด้วยการฝังกลบ
“จีเอ็มได้ใช้ความพยายามเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วในการที่จะกำจัดขยะอุตสาหกรรมอย่างถูกต้องและปลอดภัยที่สุดต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการนำขยะและวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ขณะนี้โรงงานของจีเอ็มทั้ง 69 แห่งได้สร้างมาตรฐานใหม่ขึ้น โดยลดปริมาณของเสียที่จะถูกฝังกลบจนเป็นศูนย์ และจะเป็นต้นแบบการปฏิบัติของโรงงานของเราทั่วโลก” ไมค์ โรบินสัน รองประธานบริหารด้านสิ่งแวดล้อม พลังงานและนโยบายความปลอดภัยของจีเอ็มระบุ
ภายใต้กระบวนการผลิตของจีเอ็มโดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 97 เปอร์เซ็นต์ของขยะและเศษวัสดุเหลือใช้จะถูกนำมารีไซเคิล และส่วนที่เหลืออีก 3 เปอร์เซ็นต์ถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานหมุนเวียน เพื่อทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงกลุ่มปิโตรเลียม โรงงานที่สามารถเลื่อนสถานะขึ้นมาเป็นสถานประกอบการปลอดการฝังกลบประกอบด้วยโรงงาน 28 แห่งในภูมิภาคอเมริกาเหนือ 27 แห่งในเอเชียแปซิฟิกและอเมริกาใต้ รวมทั้งโรงงานอีก 14 แห่งในทวีปยุโรป
“การปลอดการฝังกลบขยะและวัสดุเหลือใช้จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการนำเอาอุตสาหกรรมรถยนต์ออกจากสมการผลกระทบสิ่งแวดล้อมอันเป็นที่ถกเถียงกันในปัจจุบัน จีเอ็มได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาการผลิตรถยนต์ที่ประหยัดพลังงานและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำ จีเอ็มใช้ความพยายามอย่างมาก ไม่เพียงแต่ในการผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพอีกทั้งยังมุ่งพัฒนาฐานการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย” ไมค์ โรบินสันย้ำ
จีเอ็มตั้งเป้าว่าจะทำการรีไซเคิลขยะและวัสดุเหลือใช้กว่า 2 ล้านตันจากโรงงานทั่วโลก อีกทั้งยังจะนำเอาขยะจำนวนกว่า 45,000 ตันมาใช้ผลิตพลังงานทดแทน ถึงแม้ว่าโรงงานของจีเอ็มทั้งหมดยังไม่ไช่โรงงานปลอดการฝังกลบของเสีย แต่ปัจจุบันโรงงานส่วนใหญ่มีการทำการรีไซเคิลของเสียในอัตราที่สูงกว่า 92% ของปริมาณของเสียทั้งหมด โดยโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมที่จีเอ็มทุ่มเทมาตลอดจะสามารถทำให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สู่ชั้นบรรยากาศไปได้แล้วมากกว่า 3 ล้านตัน
จีเอ็มคาดการณ์ว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถรีไซเคิลวัสดุเหลือ ใช้ส่วนที่เป็นเศษเหล็กกว่า 650,000 ตัน เศษไม้กว่า 16,600 ตัน รวมถึงลังกระดาษกว่า 21,600 ตันและพลาสติกกว่า 3,600 ตัน สิ่งที่ท้าทายที่สุดในการปลอดการฝังกลบ คือการหาวิธีนำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์กับวัสดุทุกชิ้น ไม่เว้นแม้แต่วัสดุชิ้นส่วนเล็กๆ
ในกรณีของขยะที่เป็นเศษอะลูมิเนียม เหล็ก และอัลลอยด์ จะถูกส่งไปเตาหลอมเพื่อขึ้นรูปใหม่เป็นชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ขณะที่น้ำมันที่ใช้แล้วจะถูกปรับสภาพเพื่อนำกลับมาใช้อีกครั้งในโรงงานของจีเอ็ม และพาเลทไม้รวมถึงกระดาษกล่องจะถูกนำกลับมาใช้อีกเรื่อยๆ เมื่อหมดสภาพจะถูกส่งไปในขั้นตอนการผลิตพลังงาน ทดแทนทันที
จีเอ็มยังส่งเสริมให้บรรดาซัปพลายเออร์ของบริษัททำการรีไซเคิลขยะและวัสดุเหลือใช้ที่เหลือจากการผลิต โดยเน้นการนำวัสดุกลับมาใช้ประโยชน์สูงสุดทั้งนี้เพื่อให้เกิดการรีไซเคิลขึ้นได้อย่างครบวงจร โดยจีเอ็มเป็นหนึ่งในองค์กรแรกๆ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม และเป็นบริษัทรถยนต์เพียงรายเดียวที่ได้รับการยกย่องในหอเกียรติยศของ the U.S. EPA WasteWise ซึ่งได้เล็งเห็นถึงผลงานที่โดดเด่นของจีเอ็มในการรณรงค์เพื่อที่จะลดและรีไซเคิลขยะและวัสดุเหลือใช้
แม้ว่ากระบวนการผลิตของจีเอ็มอาจจะลดปริมาณขยะลงได้ แต่ความมุ่งหมายที่จะเอาอุตสาหกรรมยานยนต์ออกจากสมการผลกระทบสิ่งแวดล้อมคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ
|
|
|
|
|