ภูมิใจ พรหมนิตย์ อายุเพิ่งจะ 26 แต่ก็มีตำแหน่งเป็นประธานบริษัทมิลเลี่ยนแนร์
คอร์ปอเรชั่น เจ้าของวงแชร์ระดับร้อยกว่าล้านบาท ซึ่งล้มไปแล้ว
ภูมิใจมีบัญชีเงินฝากกระแสรายวันอยู่ 4 ธนาคาร โดยที่แต่ละธนาคารภูมิใจจะให้ตัวอย่างลายเซ็นต่างๆ
กันไป
วงแชร์มิลเลี่ยนแนร์ของภูมิใจนั้นโดยปกติลูกค้านำเงินมาลงทุนไม่มาก แค่เงินหมื่นหรือเงินแสน
ลูกค้าก็ได้รับสัญญาร่วมลงทุนเก็บไว้เป็นหลักฐาน
แต่ถ้าเป็นลูกค้าที่ลงเป็นล้านหรือหลายๆ ล้านแล้ว เพื่อความอุ่นใจมิลเลี่ยนแนร์ก็จะออกเช็คล่วงหน้าเท่ากับมูลค่าของเงินต้นที่เอามาลงทุนให้ลูกค้าเก็บไว้
มีลูกค้ามิลเลี่ยนแนร์ประมาณ 50 กว่าคนที่เอาเงินมาลงแล้วได้เช็คล่วงหน้าค้ำประกันความเสี่ยง
เช็คทุกใบมีลายเซ็นของภูมิใจ พรหมนิตย์ เป็นผู้สั่งจ่าย
เมื่อเช็คครบกำหนดลูกค้าก็นำเช็คไปขึ้นเงิน เพราะช่วงนั้นข่าวลือว่าแชร์วงนี้จะล้มเริ่มออกมากระเส็นกระสายแล้ว
ที่จริงเช็คทุกใบน่าจะเด้งทุกทีเพราะทั้ง 4 บัญชีของภูมิใจนั้นไม่มีเงินเหลือพอจะจ่ายได้แล้ว
แต่ก็ปรากฏว่าทุกธนาคารกลับแจ้งให้ไปติดต่อเจ้าของเช็คเพราะลายเซ็นในเช็คไม่ตรงกับลายเซ็นตามตัวอย่างที่เจ้าของเช็คให้ไว้
ลูกค้าพยายามติดต่อภูมิใจเพื่อขอเปลี่ยนเช็คใหม่ แต่ก็ไม่มีใครพบแม้เงาของภูมิใจ
นานวันเข้าลูกค้าก็เริ่มเชื่อแล้วว่าข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องของการไม่ตั้งใจ
น่าจะเป็นการตั้งใจเบี้ยวมาตั้งแต่ออกเช็คให้แล้วเสียมากกว่า
เพราะแม้แต่ลายเซ็นของภูมิใจในสัญญาร่วมลงทุนก็ยังเป็นอีกลายเซ็นหนึ่งไม่เหมือนกับลายเซ็นในเช็คทั้ง
4 ธนาคาร
ลูกค้าก็เลยต้องตัดสินใจนำเช็คของภูมิใจไปแจ้งความกับกองปราบ
กองปราบก็ดีใจหาย รับแจ้งความทุกรายเหมือนกันไม่ว่าเช็คนั้นจะถูกปฏิเสธการจ่ายเงินด้วยสาเหตุใด
เรื่องนี้ก็เข้าทำนองลายเซ็นนั้นสำคัญไฉน ลองว่ามีเจตนาจะเบี้ยวแล้วก็ต้องเบี้ยวอยู่นั่นเอง